Tag: jkrowling.com
มีคนเคยบอกฉันสองสามคนว่าพวกเขาหวังจะได้เห็นดัดลีย์ที่คิงส์ครอสในบทส่งท้าย เดินทางมากับลูกที่เป็นผู้วิเศษ ฉันต้องยอมรับว่ามันมีผุดเข้ามาในหัวบ้างเหมือนกันว่าฉันจะเขียนแบบนั้นบ้าง แต่เมื่อคิดดี ๆ สักพักแล้ว ฉันก็แน่ใจว่าพันธุกรรมผู้วิเศษที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาจะไม่มีทางเหลือรอดออกมาแน่เมื่อเจอกับดีเอ็นเอของลุงเวอร์นอน ฉันเลยไม่ได้เขียนมันออกมา อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ว่าหลังจากความพยายามอย่างกล้าหาญของดัดลีย์ที่เลือกจะปรองดองกับแฮร์รี่ในตอนต้นของเครื่องรางยมทูต ลูกพี่ลูกน้องสองคนนี้จะยังคงส่งการ์ดคริสต์มาสหากันและกันไปตลอดชีวิต และแฮร์รี่ก็จะพาครอบครัวของเขาไปเยี่ยมครอบครัวของดัดลีย์บ้างเวลาผ่านไปย่านใกล้เคียง (ซึ่งทั้งเจมส์, อัลบัส และลิลี่ รู้สึกไม่อยากจะไป) Harry and Dudley: Future Hope? A couple of people have told me that …
เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่ฉันเคยบรรยายลักษณะของตัวละครด้วยการอ้างถึงใครบางคนที่ฉันเคยพบ แม้จะดูเหมือนว่าคนแบบนั้นไม่น่าจะมีตัวตนอยู่จริง ซึ่งตัวละครที่ว่านั้นก็คือ กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต ฉันยืนยันได้เลยว่าคนที่เป็นต้นแบบของกิลเดอรอย ล็อกฮาร์ตน่ะ น่ารังเกียจกว่าแบบจำลองของเขาเป็นไหนๆ เขาคนนั้นเคยคุยโม้ไว้มากมายเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต ซึ่งทั้งหมดถูกแต่งเติมให้ดูเหมือนว่าเขาช่างเป็นคนเลิศเลอ กล้าหาญชาญชัย และฉลาดหลักแหลม บางทีเขาอาจไม่เคยเชื่อจริงๆ เลยก็ได้ ว่าตัวเองจะเป็นแบบนั้นได้ ก็เลยต้องกลบปมด้อยของตัวเองด้วยสิ่งโป้ปดเหล่านั้น แต่ฉันเกรงว่าเขาคงไม่เคยค้นลึกลงไปในใจของตัวเองได้ขนาดนั้นหรอก คุณอาจคิดว่าฉันใจร้ายไปหน่อยที่พรรณนาเขาให้กลายเป็น กิลเดอรอย แต่คุณมั่นใจได้เลยว่าเขาไม่เคยคิดอย่างนั้นหรอก ฉันมั่นใจว่าเขาจะบอกใครๆ ว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับบุคลิกของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เขาอาจขอลงนามในหนังสือของฉัน และให้ฉันใส่เครดิตความดีความชอบให้เขาอย่างไร้ปราณี
ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดถึงลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของครอบครัววีสลีย์ ซึ่งทำให้เนื้อหาในตอนถ้วยอัคนีค่อนข้างจะยาว ก่อนที่สุดท้ายฉันจะตัดบทบาทของเธอออกไป จริงๆ แล้วฉันชอบลักษณะนิสัยของเธอ และไม่ต้องการจะเสียเธอไป แต่เพราะเธอไม่ทำในสิ่งที่ควรจะทำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะได้ไปต่อ มาฟัลด้าเป็นลูกสาวของ ‘ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์’ ซึ่งถูกกล่าวถึงในตอนศิลาอาถรรพ์ (ในเนื้อเรื่องนั้น รอนบอกแฮร์รี่ว่าเขาเป็นนักบัญชี (ศิลาอาถรรพ์ น.124) – ผู้แปล) นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ผู้นี้เคยทำตัวหยาบคายกับนายและนางวีสลีย์มาก่อน แต่เมื่อเขาและภรรยา (ซึ่งเป็นมักเกิ้ล) ไม่สะดวกที่จะดูแลลูกสาวที่เป็นแม่มด พวกเขาจึงหวนกลับมาหาครอบครัววีสลีย์ เพื่อขอร้องให้พวกวีสลีย์ช่วยแนะนำมาฟัลด้าเข้าสู่ชุมชนผู้วิเศษ ก่อนที่เธอจะเริ่มเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ครอบครัววีสลีย์ตกลงใจจะให้เธอมาอยู่ด้วยในช่วงฤดูร้อน รวมทั้งพาไปร่วมงานควิดดิชเวิลด์คัพด้วย แต่ทว่าที่ทำไปทั้งหมดนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าในทันที เมื่อนางวีสลีย์สงสัยว่าพ่อแม่ของมาฟัลด้าต้องการผลักไสเธอไปสักพักอย่างไม่ …
ฉันเขียนบทแรกของ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์’ ไว้หลายรูปแบบ และแบบสุดท้ายที่ฉันหมายตาเอาไว้ ก็ไม่ใช่แบบที่ฉันชื่นชอบมากที่สุดจากที่เขียนไว้ทั้งหมดหรอกนะ หลายๆ คนเคยบอกฉันว่ามันยากนะที่จะเอามาเปรียบเทียบกับส่วนอื่นๆ ที่เหลือในหนังสือ ปัญหาของบทแรก (และก็เป็นเหมือนๆ กันกับเล่มอื่นๆ ในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์เลยทีเดียว) ก็คือฉันต้องให้ข้อมูลต่างๆ มากมาย โดยต้องเก็บบางอย่างไว้เป็นความลับด้วย อย่างในฉากที่คุณได้เห็นกันไปแล้ว ตอนที่โวลเดอมอร์เข้าไปในหมู่บ้านก็อดดริกส์โฮลโล่ และฆ่าครอบครัวพอตเตอร์ ฉันก็เขียนไว้หลายแบบมาก และในฉบับร่างฉบับแรกๆ ก็มีมักเกิ้ลคนหนึ่งเป็นผู้เปิดเผยที่อยู่ของครอบครัวพอตเตอร์ แต่สุดท้าย ในเรื่องราวที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาอย่างที่ได้อ่านกัน กลายเป็นเพ็ตติกรูว์ที่เป็นฝ่ายทรยศเปิดเผยความลับนั้น ส่วนมักเกิ้ลน่ากลัวคนนั้นก็สูญหายไปจากเนื้อเรื่อง ส่วนฉบับร่างอื่นๆ …
ต้องออกตัวว่า ฉันเองไม่ค่อยพิศวาสแมวเท่าไรนัก จะว่าไป ฉันก็เหมือนแฮกริดนั่นล่ะ คือแพ้แมวและค่อนข้างรักใคร่พวกสุนัขมากกว่า แต่มันก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เพราะตอนที่ทำงานอยู่ลอนดอนในช่วงปลายทศวรรษ 1980 นั้น วันไหนที่แดดดี ๆ หน่อย ฉันมักออกไปหามื้อกลางวันทานที่ร้านในจัตุรัสใกล้ ๆ และที่นั่นจะมีแมวตัวใหญ่ขนฟูสีแดงส้ม ใบหน้าบู้บี้อย่างกับว่ามันเพิ่งวิ่งไปชนกำแพงมา เที่ยวเดินด้อม ๆ มอง ๆ ผู้คนที่ออกมารับแดดแถวนั้น ซึ่งฉันทึกทักเอาเองว่ามันน่าจะอาศัยอยู่แถวบ้านนั่นล่ะ แม้จะไม่เคยเสี่ยงหาเหตุให้ตัวเองภูมิแพ้กำเริบ แต่ฉันก็พบว่าตัวเองพอใจที่จะมองดูแมวตัวนี้อยู่ห่าง ๆ เสมอ เพราะมันมักดอมดมผู้คน ทำท่าเหยียดหยามคนนั้นคนนี้และไม่ยอมให้ใครลูบตัวมันเลย เมื่อฉันตัดสินใจจะสร้างแมวฉลาดเกินธรรมดาเป็นสัตว์เลี้ยงให้เฮอร์ไมโอนี่สักตัวหนึ่ง …
ฉันเกือบจะใช้บทเปิดเรื่องในลักษณะนี้มาแล้วทั้งใน ‘ศิลาอาถรรพ์’ (นั่นคือหนึ่งในหลาย ๆ บทเปิดเรื่องที่ถูกโยนทิ้งไป), ‘นักโทษแห่งอัซคาบัน’ แล้วก็ ‘ภาคีนกฟีนิกซ์’ แต่สุดท้ายแล้วก็นี่แหละ มันใช้ได้ดีสำหรับเล่ม 6 นี้ เพราะฉะนั้นมันจึงยังคงอยู่ในหนังสือ นั่นล่ะที่ฉันพยายามจะเล่าให้ฟัง แต่อยากให้รู้กันในทุก ๆ ครั้งที่คุณอ่านบทนั้น ว่ามันต้องใช้เวลากว่า 13 ปีเชียวนะ กว่าจะกลั่นบทเปิดเรื่องแบบนั้นออกมาได้
ใครก็ตามที่เคยอ่านหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ ทั้งฉบับอเมริกันและฉบับอังกฤษ จะสังเกตว่าบุคลิกลักษณะของ ดีน โทมัส ไม่ถูกกล่าวถึงในฉบับอังกฤษ ทั้งที่ฉบับอเมริกันได้บรรยายถึงเขาไว้ (ในบท “หมวกคัดสรร”) นั่นเป็นเพราะในฉบับอังกฤษถูกตัดส่วนนี้ออกไปโดยกองบรรณาธิการ บรรณาธิการของฉัน (เจ.เค.โรว์ลิ่ง) คิดว่าบทนั้นยาวเกินไป และตัดทุกอย่างที่เขาคิดว่าไม่จำเป็นออกไป อย่างไรก็ตาม เมื่อมันกลายเป็นการแสดงในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ในแบบฉบับอังกฤษ ฉันได้บอกผู้กำกับคือคริส ว่าดีนเป็นชาวลอนดอนผิวดำ ที่จริงแล้วฉันคิดว่าคริสออกจะงงๆ อยู่เล็กน้อยกับปริมาณข้อมูลที่ฉันมี สำหรับคุณลักษณะปลีกย่อยเหล่านี้ ฉันมีข้อมูลที่เป็นปูมหลังของ ดีน โทมัส มากมาย …