Tag: Extra Stuff

ไปพบเมลิซซาและเอเมอร์สัน (Meeting Melissa and Emerson)

เนื้อหาต่อไปนี้เป็นเนื้อหาเก่าที่คัดลอกมาแปลไทยเก็บรวบรวมไว้จากเว็บไซต์ทางการของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ภายหลังจบการสัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ปี 2005 แผนการจัดพิมพ์ “เจ้าชายเลือดผสม” กำลังดำเนินไปและฉันกำลังคิดถึงการรับมือปัญหาที่จะกลับมาอีกครั้ง: เหล่าสาวกพอตเตอร์ผู้อุทิศตน (รุ่นเก่าๆ) มักจะรู้สึกผิดหวังที่ฉันไม่ค่อยตอบคำถามที่พวกเขาชอบถามมากที่สุด ทางออกของฉันคือให้สัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับตัวแทนสาวกผู้คลั่งไคล้ขนานแท้สัก 1-2 คน ที่สามารถถามคำถามเจ๋งๆ เกี่ยวกับเล่ม 7, เรื่องราวเบื้องหลัง, เน้นย้ำจุดขัดแย้ง, การวิเคราะห์ตัวละคร ที่ฉันไม่ค่อยจะตอบ และแน่นอนว่าการสัมภาษณ์นี้ต้องไม่ใช่ช่วงที่หนังสือวางจำหน่าย ถึงแม้ฉันจะบอกว่าฉันตอบคำถามไม่ได้เพราะไม่อยากทำลายทฤษฎีต่างๆ (ที่แฟนๆ คาดเดา) ฉันก็รู้สึกว่าอย่างน้อยคุณก็พอใจที่รู้ว่าฉันให้ความสำคัญกับคนที่รู้ว่าประเด็นอยู่ตรงไหน …

สควิบ (SQUIBS)

เนื้อหาต่อไปนี้เป็นเนื้อหาเก่าที่คัดลอกมาแปลไทยเก็บรวบรวมไว้จากเว็บไซต์ทางการของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง นับตั้งแต่เมษายนปี 2006 ฉันโดนถามคำถามทุกแบบเกี่ยวกับสควิบ ตั้งแต่พูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับสควิบครั้งแรกไว้ใน “ห้องแห่งความลับ” สควิบแทบจะตรงข้ามกับพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ล เขาหรือเธอเป็นคนที่ไม่มีเวทมนตร์แต่เกิดจากพ่อแม่อย่างน้อยหนึ่งคนที่เป็นผู้วิเศษ สควิบนั้นหายาก ขณะที่การมีเวทมนตร์จัดเป็นยีนเด่นและยืดหยุ่น สควิบไม่สามารถเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ในฐานะนักเรียนได้ พวกเขามักจะรู้สึกแย่ (ใช่เลย… คุณควรสงสารฟิลช์บ้าง) และถ้าไม่เอาแต่จมอยู่กับตัวเอง พ่อแม่ของพวกเขาก็มักจะหาทางพาไปสัมผัสกับสังคมผู้วิเศษ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในสังคมอย่างแท้จริงหรอก บางครั้งสควิบก็หาที่ทางให้ตัวเองบ้าง อย่าง ฟิลช์ ที่หาตำแหน่งเหมาะๆ ในฮอกวอตส์ให้ตัวเอง และอาราเบลล่า ฟิก ที่คอยเป็นคนประสานงานระหว่างโลกเวทมนตร์กับโลกมักเกิ้ลให้ดัมเบิลดอร์ ตัวละครทั้งคู่ต่างก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ (คอร์สเรียนควิกสเปลล์ของฟิลช์ไม่เคยใช้ได้ผล) แต่พวกเขายังสามารถทำงานภายในโลกเวทมนตร์ได้ …

นกฮูก (Owls)

เนื้อหาต่อไปนี้ เป็นเนื้อหาเก่าจากเว็บไซต์ jkrowling.com เวอร์ชั่นแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งอาจมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับใน Pottermore และเป็นเนื้อหาเก่าแต่มีสาระใจความที่น่าสนใจ ทาง Muggle-V จึงแปลรวบรวมเก็บไว้ให้แฟนๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ รุ่นใหม่ได้อ่านกัน เรื่องราวของนกฮูกปรากฏโดดเด่นอยู่ในความเชื่อถือโชคลางหลายต่อหลายเรื่องทั่วโลก สำหรับชาวกรีก นกฮูกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของอธีน่า เทพีแห่งปัญญาและการสงคราม เมื่อใดก็ตามที่พบเห็นนกฮูกบินอยู่เหนือกองทัพกรีกก่อนออกรบ จะถือว่าเป็นลางดีที่บ่งบอกถึงชัยชนะ ในทางกลับกัน สำหรับชาวโรมันถือว่านกฮูกเป็นสัตว์นำโชคร้ายซึ่งทำนายถึงความตายและหายนะ ส่วนในสหราชอาณาจักรมีความเชื่อในเรื่องโชคลางว่าจะโชคร้ายเมื่อเห็นนกฮูกในเวลากลางวัน ซึ่งเป็นความเชื่ออันงมงายที่ฉันรู้สึกขบขันกับเนื้อเรื่องในบทแรกของเล่มศิลาอาถรรพ์ ที่มีนกฮูกจำนวนมากปรากฏตัวออกมาอย่างฉับพลันทันทีในตอนกลางวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมีบางอย่างที่โชคดีมากๆ เกิดขึ้น แม้ว่าบรรดามักเกิ้ลจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม …

สถานที่เขียนหนังสือ (Places to Write)

คงไม่ใช่เรื่องลับลมคมในอะไรที่จะบอกว่า สถานที่เขียนหนังสือที่ดีที่สุดในความคิดของฉัน ก็คือที่คาเฟ่ เพราะที่นั่นคุณไม่ต้องชงกาแฟเอง คุณจะไม่รู้สึกว่าถูกขับไสไล่ส่งไปอยู่เพียงลำพังเวลาทำงานหรือเมื่อหมดแรงบันดาลใจ และคุณสามารถย้ายไปนั่งคาเฟ่ข้างเคียงได้เมื่อคุณได้พักจนเต็มอิ่มแล้ว ในความคิดของฉัน คาเฟ่ที่เหมาะสำหรับการเขียนหนังสือที่ดีที่สุด คือคาเฟ่ที่มีคนมาใช้บริการมากพอจนทำให้คุณถูกกลืนหายเข้าไปในนั้นได้ แต่ไม่ใช่คนแน่นถึงขนาดว่าคุณต้องแบ่งโต๊ะให้ใครก็ไม่รู้ที่อาจจะแอบอ่านบทที่ยี่สิบของคุณแบบกลับหัว พนักงานประจำคาเฟ่ที่ดีคือเขาต้องไม่เขม่นใส่ถ้าคุณนั่งนานเกินไป (กระทั่งเดี๋ยวนี้ฉันก็สะดวกใจที่จะสั่งกาแฟมาเรื่อย ๆ นะ แม้ฉันจะไม่ได้ดื่มมันเลยก็เถอะ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่ามีปัญหา) แล้วก็ต้องไม่เปิดเพลงในร้านเสียงดังเกินไปด้วย ซึ่งเสียงเพลงนี่ละที่รบกวนฉันขณะที่ฉันกำลังเขียนอยู่

อาจจะสำหรับสาวๆ เท่านั้นนะ!

เนื้อหาต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ น้อยมาก แต่เราจะได้เห็นมุมมองความคิดของเจ.เค.โรว์ลิ่ง ต่อความอ้วน —————————————————————– คนผอม…บางทีอาจจะไม่ใช่หัวข้อที่คุณคาดหวังจะได้อ่านจากเว็บไซต์นี้ แต่จากการเดินทางไปลอนดอนครั้งล่าสุดของฉัน ทำให้ฉันได้คิดอะไรบางอย่าง มันเริ่มต้นขึ้นในรถยนต์ ระหว่างการเดินทางไปสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์ลีฟเดนส์ (Leavesden) ขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสือแมกกาซีนที่โดดเด่นด้วยภาพถ่ายเคลือบมันหลายภาพของหญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ป่วยหนักก็คงทุกข์ทรมานจากสภาวะการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ (ซึ่งแน่นอนว่ามันคือสิ่งเดียวกัน) อย่างไรก็ตาม มันไม่มีคำอธิบายอื่นใดสำหรับรูปร่างของเธอ เธอสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการรับประทานอาหารปริมาณมากๆ ซึ่งดูยุ่งยากมาก รวมทั้งการเผาผลาญพลังงานที่เร็วที่สุดในโลก จนกระทั่งลิ้นของเธอหยุดลง (ไชโย! แล้วอีกสองสามออนซ์ก็ตามเข้าไปอีก) แต่ท้องของเธอซึ่งเว้าเข้าไป และซี่โครงที่ยื่นแทงออกมาคล้ายแขนสองข้าง ก็บอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป เด็กสาวคนนี้ต้องการความช่วยเหลือ แต่โลกนี้ก็เป็นไปอย่างที่มันเป็น พวกเขากลับนำเธอไปแปะไว้บนปกแมกกาซีนแทน …

ข้อมูลบางส่วนของครอบครัววีสลีย์

รอนเป็นตัวละครเดียวจากตัวละครหลักทั้งสามคนที่ไม่เคยเปลี่ยนนามสกุล เลย เขายังคงใช้นามสกุล ‘วีสลีย์’ ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์นั้น ตัววีเซิลมีชื่อเสียงในแง่ลบ ถือกันว่าสัตว์นำโชคร้ายหรือตัวอันตรายเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เด็กๆ ฉันก็ชื่นชอบสัตว์ในวงศ์เพียงพอน (Mustelidae)1 มาก และในความคิดของฉัน สัตว์พวกนี้ไม่ได้เป็นอันตรายมากเท่าที่มันควรจะเป็น นอกจากนี้ยังมีความเชื่อผิดๆ อีกหลายอย่างเกี่ยวกับคนผมแดง และส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นผู้นำโชคร้ายหรือตัวอัปมงคล (ยูดาส อิสคาริโอท2 ก็มีผมสีแดงเช่นกัน) แต่มันก็ดูไม่มีเหตุผลเลย ฉันเองก็ชอบคนผมแดงพอๆ กับที่ชอบตัววีเซิล แม้ว่าฉันจะไม่ได้ตั้งใจให้รอนเป็นเหมือนฌอน3 ครั้งหนึ่งฉันเคยนำรอนไปอยู่บนหน้าหนังสือ เขามักจะทำตัวคล้ายเพื่อนเก่าของฉัน ซึ่งเป็นคนที่ทั้งสนุกสนานและซื่อสัตย์เป็นที่สุด แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างรอนและฌอน …

ม็อพซี่คนรักสุนัข (ถ้วยอัคนี)

เมื่อเท้าปุยกลับมาอีกครั้งใน ถ้วยอัคนี ทีแรกฉันจะให้เขาไปอยู่กับแม่มดชราที่ประหลาดสุดๆ ซึ่งอาศัยอยู่ริมหมู่บ้านฮอกส์มี้ด เธอเป็นพวกรักสุนัข และชอบเก็บสุนัขป่วยหลายตัวมาเลี้ยง ซึ่งทำให้พวกเพื่อนบ้านของเธอพบกับสภาพที่เลวร้ายเรื่อยมา เพราะเสียงเห่าและความสกปรกไร้ระเบียบของสุนัขเหล่านั้น ม็อพซี่ยินดีรับเลี้ยงซิเรียส ซึ่งเธอทึกทักเอาว่าเป็นสุนัขเร่ร่อนไร้เจ้าของ ฉันคิดว่าบรรณาธิการของฉันค่อนข้างถูกทีเดียว ที่ขอร้องให้ฉันตัดม็อพซี่ออกไปซะ เพราะเรื่องราวของเธอไม่ได้เสริมอะไรให้กับโครงเรื่องเลย ฉันเพียงแค่ชอบบรรยายให้เห็นภาพของคนรักสุนัขที่ไม่ค่อยเต็มเต็ง (ซึ่งเป็นปรปักษ์กับมิสซิสฟิก คนรักแมวที่หลงๆ ลืมๆ) อย่างไรก็ตาม มันดูจะเข้าทีกว่าถ้าจะเก็บซิเรียสไว้ในถ้ำธรรมดาๆ ที่สุขสบายซักแห่ง เพื่อให้แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และซิเรียสได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของบาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ โดยปราศจากการถูกรบกวน

นิกหัวเกือบขาด

ร่างฉบับแรกของ ‘ห้องแห่งความลับ’ มีฉากที่นิกร้องเพลงสไตล์บัลลาดที่เขาแต่งเองด้วย เนื้อเพลงอธิบายที่มาที่ไปว่าเขาตกอยู่ในสภาพหัว (เกือบ) ขาดได้อย่างไร ซึ่งบรรณาธิการของฉันไม่ค่อยชอบมันเท่าไรนัก ฉันจึงตัดมันออกไปจากหนังสือ     อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ยังอยากรู้เนื้อหาของมันอยู่ นี่คือเรื่องราวการถูกบั่นคอของนิกที่ได้รับการบอกเล่าจากปากของเขาเอง แค่ความพลาดที่พ่อมดมักพลาดได้ It was a mistake any wizard could make ถ้าตกใจ แถมประหม่า และใจสั่น Who was tired and …

แฮร์รี่และดัดลีย์: ความหวังในอนาคต?

มีคนเคยบอกฉันสองสามคนว่าพวกเขาหวังจะได้เห็นดัดลีย์ที่คิงส์ครอสในบทส่งท้าย เดินทางมากับลูกที่เป็นผู้วิเศษ ฉันต้องยอมรับว่ามันมีผุดเข้ามาในหัวบ้างเหมือนกันว่าฉันจะเขียนแบบนั้นบ้าง แต่เมื่อคิดดี ๆ สักพักแล้ว ฉันก็แน่ใจว่าพันธุกรรมผู้วิเศษที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาจะไม่มีทางเหลือรอดออกมาแน่เมื่อเจอกับดีเอ็นเอของลุงเวอร์นอน ฉันเลยไม่ได้เขียนมันออกมา อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ว่าหลังจากความพยายามอย่างกล้าหาญของดัดลีย์ที่เลือกจะปรองดองกับแฮร์รี่ในตอนต้นของเครื่องรางยมทูต ลูกพี่ลูกน้องสองคนนี้จะยังคงส่งการ์ดคริสต์มาสหากันและกันไปตลอดชีวิต และแฮร์รี่ก็จะพาครอบครัวของเขาไปเยี่ยมครอบครัวของดัดลีย์บ้างเวลาผ่านไปย่านใกล้เคียง (ซึ่งทั้งเจมส์, อัลบัส และลิลี่ รู้สึกไม่อยากจะไป) Harry and Dudley: Future Hope? A couple of people have told me that …

มาฟัลด้า (ถ้วยอัคนี)

ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดถึงลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของครอบครัววีสลีย์ ซึ่งทำให้เนื้อหาในตอนถ้วยอัคนีค่อนข้างจะยาว ก่อนที่สุดท้ายฉันจะตัดบทบาทของเธอออกไป จริงๆ แล้วฉันชอบลักษณะนิสัยของเธอ และไม่ต้องการจะเสียเธอไป แต่เพราะเธอไม่ทำในสิ่งที่ควรจะทำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะได้ไปต่อ มาฟัลด้าเป็นลูกสาวของ ‘ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์’ ซึ่งถูกกล่าวถึงในตอนศิลาอาถรรพ์ (ในเนื้อเรื่องนั้น รอนบอกแฮร์รี่ว่าเขาเป็นนักบัญชี (ศิลาอาถรรพ์ น.124) – ผู้แปล) นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ผู้นี้เคยทำตัวหยาบคายกับนายและนางวีสลีย์มาก่อน แต่เมื่อเขาและภรรยา (ซึ่งเป็นมักเกิ้ล) ไม่สะดวกที่จะดูแลลูกสาวที่เป็นแม่มด พวกเขาจึงหวนกลับมาหาครอบครัววีสลีย์ เพื่อขอร้องให้พวกวีสลีย์ช่วยแนะนำมาฟัลด้าเข้าสู่ชุมชนผู้วิเศษ ก่อนที่เธอจะเริ่มเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ครอบครัววีสลีย์ตกลงใจจะให้เธอมาอยู่ด้วยในช่วงฤดูร้อน รวมทั้งพาไปร่วมงานควิดดิชเวิลด์คัพด้วย แต่ทว่าที่ทำไปทั้งหมดนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าในทันที เมื่อนางวีสลีย์สงสัยว่าพ่อแม่ของมาฟัลด้าต้องการผลักไสเธอไปสักพักอย่างไม่ …