บทที่ 2
ถึงเวลาของคาถาที่ซับซ้อนมากขึ้นแล้ว ภายในบทนี้ การร่ายคาถาจะทวีความท้าทายและเสี่ยงอันตรายมากขึ้น หากสติปัญญาอยู่กับคุณ ในไม่ช้า คุณจะสามารถร่ายคาถาใหม่ๆ ได้ ตั้งแต่การเสกให้หมึกล่องหนปรากฏ เสกนกออกจากไม้กายสิทธิ์ ไปจนถึงการร่ายไฟเวทมนตร์
คาถาจุดไฟ (Fire-Making Spell)
คาถาจุดไฟเป็นคาถาที่มีประโยชน์เสมอในครัวเรือนของพ่อมดแม่มด นับตั้งแต่การจุดไฟในเตาผิง ไปจนถึงเสกไฟใส่พุดดิ้งคริสต์มาส
มันเป็นคาถาที่น่าประทับใจก็จริง แต่นักเรียนจะได้รับคำตักเตือนว่าการเสกคาถาจุดไฟแบบไม่ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรงตามมาได้
การแสดงสุดคลาสสิกเรื่อง “อนิจจา ฉันเสกคาถาแปลงร่างใส่เท้าของฉัน” ของมัลเลอคลี ที่มีชะตากรรมอันน่าสลดถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่มีการบันทึกชื่อนักแสดงในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจเป็นการดีที่สุด เพราะครึ่งแรกขององก์หนึ่ง พวกเขาถูกผู้ชมขว้างฟักทองใส่เข้าให้
(ขอบคุณ Tealgamemaster)
แม้ว่าการแสดงช่วงแรกจะล้มเหลวย่อยยับ แต่ด้วยความพากเพียร นักแสดงผู้รับบทเป็นคราโปด์ ได้เริ่มต้นโชว์ของตนด้วยการแสดงฉากการแปลงร่างเท้าอันลือเลือง ในตอนนั้นเอง พ่อมดผู้ทำหน้าที่เสกสเปเชียลเอฟเฟกต์ซึ่งซ่อนอยู่ใต้เวที ก็เกิดอาการเบื่อพอๆ กับผู้ชมอย่างเห็นได้ชัด เขาตัดสินใจเปลี่ยนจากควันสีเหลืองที่จะใช้ในตอนแรก มาเป็นเปลวเพลิงมหาศาลที่ลุกไหม้ขึ้นมาแทน ผู้ชมดูจะประทับใจกันไม่น้อย และส่งเสียงโห่ร้องกันมากขึ้นเมื่อเห็นผ้าม่านบนเวทีลุกเป็นไฟ พ่อมดผู้ควบคุมสเปเชียลเอฟเฟกต์พยายามดับไฟแต่ไร้ผล พร้อมกับกระโดดหลบคำแช่งจากผู้กำกับละครเวทีไปด้วย
ระหว่างที่นักแสดงคนอื่นๆ วิ่งหนีกันเตลิดเปิดเปิง นักแสดงผู้รับบทคราโปด์ก็ฉวยโอกาสนี้เปล่งรัศมีความโดดเด่นให้ตัวเอง เขาเล่นบทสุดท้ายอย่างเร้าใจ ขณะที่มือก็เสกคาถาไฟเย็นเพื่อป้องกันตนเองจากเปลวเพลิงที่กลืนกินเวทีไปด้วย
โชคร้ายที่การแสดงอันตื่นเต้นเร้าใจของเขาเป็นอันต้องสูญเปล่า เพราะความอลหม่านขณะที่ผู้ชมกำลังวิ่งหนีออกจากโรงละคร และพ่อมดผู้ควบคุมสเปเชียลเอฟเฟกต์พยายามอย่างแรงกล้าที่จะจดจำวิธีการเสกคาถาไฟเย็นเพื่อตัวเขาเอง
นักเรียนที่ชอบเรียกร้องความสนใจพึงระลึกเสมอว่า การเสกคาถาจุดไฟนั้นจะต้องทำอย่างระมัดระวัง
วิธีการร่าย
ถ้อยคำวิเศษสำหรับการใช้ไม้กายสิทธิ์จุดไฟคือ “อินเซนดิโอ”
ท่าทางในการร่าย
การร่ายคาถาจุดไฟมีขั้นตอนทั้งหมดสามขั้นตอนด้วยกัน ขั้นแรก ลากไม้เป็นเส้นตรงไปทางขวามือ จากนั้นลากไม้ยาวลงมาเป็นมุมทแยงซ้าย ก่อนจะลากไม้เป็นเส้นตรงไปทางขวาอีกครั้ง (ดูภาพ Fig.E)