Category: สัตว์วิเศษวิทยา
“มิสเซิลโท” ลูน่าพูดเสียงฝันๆ ชี้ไปที่ช่อลูกไม้สีขาวช่อใหญ่ที่แขวนไว้เกือบเหนือหัวแฮร์รี่ เขากระโดดออกมาให้พ้นจากมัน “คิดดีแล้วละ” ลูน่าบอกอย่างเอาจริงเอาจัง “เพราะว่ามันมักจะมีตัวนาร์เกิ้ลอยู่ยั้วเยี้ยไปหมด” – ลูน่า เลิฟกู๊ด (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ บ.21) นาร์เกิ้ล คือสิ่งที่ลูน่า เลิฟกู๊ด และพ่อของเขา เซโนฟิเลียส เลิฟกู๊ด เชื่อว่ามีชีวิตอยู่จริง แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่านาร์เกิ้ลนี้มีอยู่จริงหรือไม่ สองพ่อลูกเลิฟกู๊ดเชื่อว่าสร้อยคอที่ทำจากจุกขวดบัตเตอร์เบียร์เป็นเครื่องรางที่ใช้ป้องกันจากพวกนาร์เกิ้ลได้ (ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์) พวกเขาเชื่อกันว่านาร์เกิ้ลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชื่นชอบการขโมยของ แฮร์รี่: “เท้าเธอ… …
ผู้คุมวิญญาณ สิ่งมีชีวิตวิเศษต่ำช้าที่จะดูดกลืนเอาความสุขของเหยื่อไป ผู้คุมวิญญาณเคยทำหน้าที่ดูแลคุกอัซคาบันอยู่นานหลายปี กระทั่งถูกยกเลิกออกไปในยุคสมัยของรัฐมนตรีคิงส์ลีย์ ชักเคิลโบลต์ ลักษณะทางกายภาพของผู้คุมวิญญาณ “ซากศพที่แช่น้ำอยู่นานจนเน่าเปื่อย” (นักโทษแห่งอัซคาบัน หน้า 107) “ตรงที่ที่ควรจะเป็นลูกนัยน์ตา มีเพียงผิวโล้นๆ ตกสะเก็ด สีเทาแห้งๆ ขึงปิดเบ้าตากลวงโบ๋ แต่มันมีปาก… เป็นโพรงเปิดอ้าไม่เป็นรูปเป็นร่าง ที่ดูดอากาศเข้าไปจนเกิดเสียงดัง” (นักโทษแห่งอัซคาบัน หน้า 458) ใต้ผ้าคลุมศีรษะคือส่วนหัวที่ไร้ดวงตา และแทนที่ด้วยสิ่งที่เหมือนปาก ใช้สำหรับสูดเอาความรู้สึกดีๆ ออกไปจากเหยื่อ และบางครั้งหากจำเป็น ผู้คุมวิญญาณจะใช้ปากนั้นสำหรับการมอบจุมพิต เรียกกันว่า “จุมพิตผู้คุมวิญญาณ” …
นกฮูกเป็นสัตว์วิเศษที่ถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดในการขนส่งจดหมายและพัสดุในโลกของผู้วิเศษ พวกมันเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความเร็วและความรอบคอบ รวมทั้งความสามารถในการค้นหาผู้รับจดหมายและพัสดุโดยไม่ต้องจ่าที่อยู่หน้าซอง เด็กนักเรียนปีหนึ่งได้รับอนุญาตให้นำนกฮูกไปโรงเรียนได้ในฐานะสัตว์เลี้ยง เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ความเชื่อถือโชคลางอันเก่าแก่ในสหราชอาณาจักรที่ว่าการเห็นนกฮูกบินผ่านไปในตอนกลางวันถือเป็นลางร้ายนั้น สามารถอธิบายได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อใดก็ตามที่พ่อมดแม่มดเปิดเผยตัวเพื่อส่งข้อความในเวลากลางวัน แปลว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่น่าตื่นเต้นเร้าใจกำลังเกิดขึ้นในโลกเวทมนตร์ มักเกิ้ลอาจจะประสบเหตุการณ์ไม่สู้ดีตามมาเป็นระลอกหลังจากนั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการที่นกฮูกส่วนใหญ่ออกหากินในเวลากลางคืน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะถูกมักเกิ้ลมองว่าเป็นลางร้าย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นทั้งผู้รับใช้และเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเหล่าพ่อมดแม่มดมานานนับศตวรรษ ทั้งๆ ที่มีทางเลือกอื่นอีกมากมายในการสื่อสารผ่านระยะทางไกลๆ โดยใช้เวทมนตร์ (รวมถึงคาถาผู้พิทักษ์ ผงฟลู อุปกรณ์เวทมนตร์ต่างๆ เช่น กระจกเงา และแม้กระทั่งเหรียญ) แต่การใช้นกฮูกที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ในการส่งสาร ก็ยังเป็นวิธีสามัญที่สุดที่บรรดาพ่อมดแม่มดทั่วโลกเลือกใช้ ข้อดีของการใช้นกฮูกในการส่งสาร ก็คือคุณลักษณะหลายอย่างของพวกมันซึ่งทำให้มักเกิ้ลที่เห็นเกิดความสงสัย (ไม่ว่าจะเป็นการทำงานภายใต้ความมืดที่ครอบคลุมยามราตรี …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง มนุษย์หมาป่านั้นมีอยู่ทั่วโลก และเป็นเสมือนสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในสังคมผู้วิเศษซึ่งมักเป็นแหล่งกำเนิดมนุษย์หมาป่า เนื่องจากพ่อมดแม่มดที่เกี่ยวข้องกับการล่าหรือศึกษาสัตว์เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะโดนทำร้ายมากกว่ามักเกิ้ลทั่วไป ในคริสต์ศตวรรษที่สิบเก้า ผู้รอบรู้ด้านมนุษย์หมาป่าชาวอังกฤษศาสตราจารย์มาร์โลว ฟอร์แฟง (Professor Marlowe Forfang) ได้จัดทำงานวิจัยชิ้นแรกซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องพฤติกรรมของเหล่ามนุษย์หมาป่า โดยพบว่ามนุษย์หมาป่าเกือบทั้งหมดที่เขาทำการศึกษาและซักถามเป็นผู้วิเศษซึ่งถูกกัด นอกจากนั้นเขายังได้รู้จากมนุษย์หมาป่าด้วยว่ามักเกิ้ล ‘รสชาติ’ ต่างออกไปจากผู้วิเศษและมีแนวโน้มว่าจะเสียชีวิตจากบาดแผล ในขณะที่พ่อมดและแม่มดจะรอดชีวิตจนกลายเป็นมนุษย์หมาป่า นโยบายของกระทรวงเวทมนตร์เกี่ยวกับมนุษย์หมาป่านั้นเลอะเทอะและไร้ประสิทธิภาพมาโดยตลอด ในปี 1637 มีการร่างและออกระเบียบการควบคุมพฤติกรรมมนุษย์หมาป่า ซึ่งเป็นระเบียบที่มนุษย์หมาป่าควรจะลงนามยินยอมไม่จู่โจมทำร้ายผู้ใดและขังตัวเองไว้อย่างแน่นหนาทุก ๆ เดือน ทว่าไม่น่าประหลาดใจนักที่ไม่มีใครมาลงนามในระเบียบควบคุมพฤติกรรมนี้ เนื่องจากไม่มีใครเตรียมพร้อมจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในกระทรวงและยอมรับว่าตนคือมนุษย์หมาป่า นี่เป็นปัญหาเดียวกับที่จะเกิดขึ้นกับหน่วยลงทะเบียนมนุษย์หมาป่าในเวลาต่อมา …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง บ็อกการ์ตเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนรูปร่างได้ มันจะเปลี่ยนรูปเป็นอะไรก็ตามที่ผู้พบเห็นมันรู้สึกหวาดกลัวที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าบ็อกการ์ตมีรูปร่างอย่างไร ในเวลาที่ไม่มีใครไปพบมันเข้า แม้ว่ามันจะมีชีวิตอยู่ หลักฐานที่บ่งชี้ถึงการมีอยู่ของมัน สังเกตได้จากเสียงกรอกแกรก การสั่นไหว หรือรอยขูดขีดบนวัตถุในที่ซึ่งมันซ่อนตัวอยู่ บ็อกการ์ตชอบพื้นที่จำกัดเป็นพิเศษ แต่อาจจะพบมันซุ่มซ่อนอยู่ในป่า และตามเงาในหลืบมุมมืด โดยทั่วไปแล้วยิ่งความรู้สึกกลัวที่บุคคลนั้นมีเพิ่มมากขึ้น ยิ่งมีความไวต่อบ็อกการ์ต พวกมักเกิ้ลก็ด้วย พวกเขารู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของมันและอาจเหลือบมองพวกเขาอยู่ แม้จะมีส่วนน้อยที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งมักจะทึกทักเอาว่าบ็อกการ์ตเป็นสิ่งที่จินตนาการของพวกเขาปรุงแต่งขึ้นมาเอง เช่นเดียวกับโพลเตอร์ไกสต์ บ็อกการ์ตไม่เป็นและไม่เคยมีชีวิตจริงๆ มันเป็นหนึ่งในสิ่งไม่มีชีวิตที่แปลกประหลาด อาศัยอยู่ในโลกเวทมนตร์ ซึ่งแตกต่างกับเขตของมักเกิ้ล บ็อกการ์ตสามารถหายตัวได้ บ็อกการ์ตที่เพิ่มมากขึ้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหาที่อยู่อาศัยให้ตัวเอง เช่นเดียวกับโพลเดอร์ไกสต์และผู้คุมวิญญาณชั่วร้ายที่เพิ่มมากขึ้น พวกมันกำเนิดและค้ำจุนอยู่ได้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ในสัตว์สามชนิดที่อนุญาตให้นักเรียนนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฮอกวอตส์ คางคกเป็นและยังเป็นมาหลายปีจนถึงตอนนี้ที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด หลายศตวรรษผ่านมาคือยุคแห่งการนองเลือด เมื่อพ่อมดแม่มดวัยรุ่นหวังที่จะควักลูกตาของตัวนิวท์ออกมาด้วยตัวเองเพื่อใช้ในการปรุงยา เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะนำคางคกหลายกล่องมาโรงเรียน เพื่อใช้ในการปรุงยาและร่ายเวทมนตร์อื่นๆ เวลาผ่านไป กระทรวงเวทมนตร์ได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการทารุณสัตว์ (หมวดย่อย 13-29 ครอบคลุมถึงส่วนผสมในการปรุงยาและผลิตผลของมัน) วิธีปฏิบัตินี้เริ่มมีคนแหกกฎทีละเล็กทีละน้อย คางคกไม่เคยถูกเห็นคุณค่าในตัวของมัน ค่อยๆ เห็น (การมีชีวิตอยู่) น้อยลง และน้อยลงอย่างช้าๆ ที่ฮอกวอตส์ เว้นแต่จะกระโดดและว่ายน้ำไปรอบทะเลสาบ ในช่วงเวลาที่แฮร์รี่อาศัยอยู่ฮอกวอตส์ การมีคางคกเป็นสัตว์เลี้ยงไม่ได้แสดงถึงความเจ๋งหรือฐานะที่ดีนัก ในความจริงมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะน่าอาย เทรเวอร์คางคกของเนวิลล์ ไม่มีอะไรน่าชมเชย ยกเว้นเรื่องที่มันชอบพ่ายแพ้ ในที่สุดเมื่อมันลื่นหลุดเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อไปอยู่กับพี่น้องของมันในทะเลสาบฮอกวอตส์ …
ข้อมูลช่วงเวลาต่อไปนี้ อ้างอิงมาจากหนังสือ “สัตว์มหัศจรรย์ และถิ่นที่อยู่” โดย นิวท์ สคามันเดอร์ ท่านสามารถเรียนรู้และรู้จักกับสัตว์มหัศจรรย์เหล่านี้ได้ในหนังสือชุดดังกล่าว (ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้ไม่มีการผลิตแล้ว ฉะนั้นผู้สนใจอ่าน คงต้องมองหาตามห้องสมุดมักเกิ้ล หรือยืมเพื่อนแล้วล่ะ” ช่วงเวลาต่อจากนี้ เรียงลำดับด้วย คริสต์ศักราช ศตวรรษที่ 12 – การล่านกสนิดเจ็ตเป็นที่นิยม ศตวรรษที่ 12 – นกสนิดเจ็ตถูกนำเข้ามาในเกมควิดดิช โดยบาร์เบรียส แบรกกี้ ประธานสภาพ่อมดในขณะนั้น ซึ่งถูกช่วยเหลือด้วยคาถาเรียกของ ฝีมือของมาดามโมเดสตี้้ แรบน็อต …
เอลฟ์ประจำบ้าน เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือ “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” ของ นิวท์ สคามันเดอร์ ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต มีการเรียกเอลฟ์ประจำบ้านสั้นๆ ว่าเอลฟ์ บทบาทของเอลฟ์ประจำบ้านคือการรับใช้เจ้านายของมันรวมถึงคนในครอบครัวที่มันรับใช้จนวันตาย และจนสิ้นสุดครอบครัวของมัน หรือจนกว่าได้รับการปลดปล่อยการเป็นทาสรับใช้ให้แก่ครอบครัวนั้นๆ หากอ้างอิงตามการจัดประเภทสัตว์และสิ่งมีชีวิตชั้นสูงตามนิยามสิ่งมีชีวิตชั้นสูงของ โกรแนน สตัมป์ ที่ระบุว่า “สิ่งมีชีวิตชั้นสูง คือ สิ่งมีชีวิตใดๆ ที่มีความเฉลียวฉลาดเพียงพอที่จะเข้าใจกฎหมายของโลกแห่งเวทมนตร์ และมีส่วนรับผิดชอบในตัวบทกฎหมายเหล่านั้นได้” เอลฟ์ประจำบ้านจึงจัดเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงตามนิยามดังกล่าวได้ เพราะเอลฟ์ประจำบ้านทุกตัวพูดภาษามนุษย์ได้ เข้าใจภาษามนุษย์ได้ และมีความสามารถในการเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายเวทมนตร์ของพ่อมดได้ เอลฟ์ประจำบ้านมีกฎตายตัวว่า “จะต้องปกป้องนายของมันอย่างถึงที่สุด” และเมื่อใครก็ตามที่เป็นเจ้าของเอลฟ์ประจำบ้านมอบสิ่งของให้แก่มัน นั่นหมายความว่า …