Category: คาถา
กิ่งไฟแห่งกูไบรเทียน คือไฟที่เกิดขึ้นจากเวทมนตร์ เป็นไฟที่จะไม่มีวันดับไปชั่วกัลปาวสาน เป็นเวทมนตร์ขั้นสูงที่ไม่ใช่พ่อมดแม่มดทุกคนจะเสกได้โดยง่าย ประวัติศาสตร์ของไฟกูไบรเทียน ปี 1995 อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ได้มอบหมายให้แฮกริดและศาสตราจารย์มักซีมเดินทางไปพบยักษ์และมอบกิ่งไฟแห่งกูไบรเทียนให้เป็นของขวัญแก่เหล่ายักษ์ในวันแรกที่พวกเขาเข้าพบคาร์คัส (มีตำแหน่งเป็นเกิร์กหรือหัวหน้าพวกยักษ์) แม้จะไม่มีคำกล่าวใดจากยักษ์ แต่พวกมันชื่นชอบยินดีกับเวทมนตร์ที่ทั้งสองนำไปให้ (ธรรมชาติของยักษ์นั้นชื่นชอบเวทมนตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งไม่นับการใช้เวทมนตร์กับพวกมัน) แต่แล้วแผนซื้อใจยักษ์ของดัมเบิลดอร์ก็พังลง เมื่อยักษ์ฆ่ากันเอง แล้วกอลโกแมท เกิร์กตนใหม่ที่สังหารและขึ้นแทนคาร์คัสหันไปเข้ากับฝ่ายผู้เสพความตาย ทั้งสองเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากเหตุการณ์พลิกผันนั้น แม้พยายามจะดึงพวกยักษ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมาเข้าร่วมกับตน แต่พวกมันก็ไม่อาจสู้อิทธิพลของเกิร์กใหม่ได้ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.20) รอนและแฮร์รี่: “กิ่งอะไรนะครับ –“ เฮอร์ไมโอนี่: “ไฟที่ลุกชั่วกัลปาวสานไงล่ะ …
คาถางงงันใช้เพื่อทำให้เป้าหมายสับสน งุนงง หรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งผิดพลาด ด้วยการร่ายคาถาว่า “คอนฟันโด (Confundo)” ผู้ถูกคาถาจะทำบางอย่างผิดพลาด เข้าใจผิด หรือมั่นใจในสิ่งที่เขาได้ทำ พูด และคิดออกไป (เครื่องรางยมทูต บ.1) คาถางงงันไม่เพียงใช้ได้กับคน แต่ยังสามารถใช้กับสิ่งของที่มีความคิดอย่างถ้วยอัคนีได้ด้วย ดังจะเห็นได้จากการที่บาร์ตี้ เคร้าช์ หลอกถ้วยให้เข้าใจว่าตัวแทนแข่งขันมีทั้งหมด 4 คนจาก 4 โรงเรียน และแฮร์รี่มาจากโรงเรียนที่ 4 (ถ้วยอัคนี บ.17) อย่างไรก็ตาม คาถางงงัน ไม่ได้จัดอยู่ในลิสต์คำสาปโทษผิดสถานเดียว …
คาถาเกราะวิเศษ (Shield Charm) คาถาสุดพื้นฐานสำหรับการประลองเวท คาถาเกราะวิเศษนี้จะปกป้องผู้ร่ายเวทจากคาถาโจมตีแทบทุกบท คาถานี้คงไม่มีประโยชน์มากนักหากปราศจากการตอบสนองอย่างว่องไว และหนทางที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้ได้ก็คือการฝึกการสะท้อนกลับกับคำสาปจริง ๆ ที่สุดแล้วการต้องอยู่กับคำสาปหูกระตุก (Twitchy-Ears Hex) หรือคำแช่งขาปุยนุ่น (Jelly-Legs Jinx) ก็เป็นวิธีอันแสนยอดเยี่ยมที่จะทำให้เราตั้งอกตั้งใจกับการเรียนคาถาเพื่อใช้ป้องกันตัว มีคาถาป้องกันหลากหลายบท แต่สำหรับบทที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน นี่คือคาถาที่ให้ผลดีที่สุด การใช้คาถานี้ครั้งที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นในปี 1484 ระหว่างการแข่งขันประลองยุทธ์บนหลังม้าในหมู่บ้านที่ป็อปเปิลตัน ประเทศอังกฤษ ทัศนียภาพของเมืองป็อปเปิลตันมองเห็นได้จากปราสาทที่เอิร์ลแห่งพอนช์ลีย์ (Earl of Paunchley) เป็นเจ้าของ เอิร์ลคือเผด็จการจอมกดขี่ผู้ทำให้ชีวิตของชาวเมืองน่าอดสู เขาออกกฎลงโทษอย่างโหดเหี้ยมต่อความผิดหยุมหยิม …
คาถาสะอาดเอี่ยม (Scouring Charm) ตั้งแต่คราบน้ำฟักทอง เศษเครื่องในกบ ยันปุ๋ยมูลมังกรเกรอะกรัง คาถาสะอาดเอี่ยมอันยอดเยี่ยมจะทำให้มันอันตรธานไปจนหมด วิธีการร่ายการขจัดคราบอันไม่พึงประสงค์ ให้ร่ายคาถา ‘สเกอร์จิฟาย (Scourgify)’ ท่าทางในการร่ายขยับไม้กายสิทธิ์ให้เรียบลื่นเป็นเส้นคดเคี้ยวเหมือนอักษร ‘S’ (ดูภาพ K) หมายเหตุหากคุณโตมาในครอบครัวผู้วิเศษที่มีเอลฟ์ประจำบ้าน คุณอาจจะรู้สึกว่าการใช้เวทมนตร์ในการทำความสะอาดด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ต่ำต้อยเกินไป แต่สบายใจได้ ครั้งแรกที่คุณต้องการจะล้างยางเหม็นออกจากเน็กไทโรงเรียนโดยไม่มีเอลฟ์ประจำบ้านคอยช่วยล่ะก็ คุณก็จะรู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้เรียนคาถาสะอาดเอี่ยมแน่
คาถาซ่อมแซม (Mending Charm) คาถาซ่อมแซมจะซ่อมแซมข้าวของที่พังได้ด้วยการสะบัดไม้ อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรู้จักการแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง อย่างไรก็ตาม นักเรียนจอมซุ่มซ่ามควรจำไว้ให้ดีว่าการใช้คาถานี้ได้อย่างเชี่ยวชาญนั้นไม่สามารถทดแทนการเรียนรู้ที่จะไม่ทำอะไรพังไปตั้งแต่แรกได้ คาถาปรับปรุงและซ่อมแซมมากมายถูกใช้กันมาหลายศตวรรษ แต่บทที่ได้ผลและทรงพลังที่สุดนั้นคิดค้นขึ้นโดยออราเบลล่า นัตต์ลีย์ (Orabella Nuttley) ในศตวรรษที่ 18 เพราะเป็นเสมียนผู้ต่ำต้อยในกระทรวงเวทมนตร์ ของกองตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ไม่ถูกต้อง ความเขินอายอย่างยิ่งยวดของออราเบลล่าคืออุปสรรคในหน้าที่การงานของเธอ ทั้งขี้กลัว นั่งบื้อใบ้เสมอในที่ประชุม และลุกลนเหลือเกินทุกครั้งที่พูด ออราเบลล่าจึงถูกมอบหมายให้ทำงานแสนธรรมดาที่สุดในสำนักงาน เช่น งานเอกสาร งานขัดถูและทำความสะอาดนกฮูกของกอง กระนั้น เมื่ออยู่บ้านออราเบลล่าได้ใช้เวลาว่างของเธอไปกับการทดลองคาถาด้วยความพยายามที่จะพัฒนาและเสริมความแข็งแกร่งให้กับคาถาที่เคยใช้ในวัยเยาว์ เรื่องแสนบังเอิญจึงนำไปสู่การเปิดเผยพรสวรรค์ที่ถูกซ่อนไว้ของออราเบลล่า ในปี …
การทำสัญญาทางเวทมนตร์ของคนสองคน ที่ใช้เลือดของทั้งคู่เป็นตัวเชื่อมโยงพันธะสัญญา การทำสัญญาเลือด ผู้ทำสัญญาทั้งสองคนจะใช้ไม้กายสิทธิ์กรีดมือของตนเอง จากนั้นใช้มือที่กรีดเลือดของทั้งคู่ผสานกันและกัน เมื่อเลือดของผู้ทำสัญญาเกี่ยวผสานกัน และภาชนะทำด้วยโลหะปรากฏขึ้นและครอบหยดเลือดทั้งสองหยดแห่งสัญญาไว้ การทำสัญญาเลือดก็เป็นอันสมบูรณ์ (บทภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ฉากที่ 73) เป็นไปได้ว่า หากภาชนะที่บรรจุเลือดของผู้ทำสัญญาถูกทำลาย สัญญาที่ทำไว้ก็จะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามการทำลายหรือยกเลิกสัญญาเลือดจะทำได้อย่างไรยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด คนที่ทำสัญญาเลือด อัลบัส ดัมเบิลดอร์ และเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ทั้งคู่ได้ทำสัญญาเลือดร่วมกันในช่วงที่สนิทสนมกันตอนวัยรุ่น โดยทำสัญญาเลือดเพื่อยืนยันว่าทั้งคู่จะไม่ทำร้ายกันและกัน และนั่นทำให้ในเดือนมิถุนายน 1927 อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ไม่สามารถต่อต้านหรือต่อสู้กรินเดลวัลด์ได้ แม้จะถูกขู่บังคับจากทางกระทรวงเวทมนตร์ให้เขาลุกขึ้นสู้กับกรินเดลวัลด์ …
ปฏิญาณไม่คืนคำเป็นคาถาสร้างพันธสัญญาที่รุนแรงมาก หากผู้ทำปฏิญาณพยายามยกเลิกคำมั่น ผิดคำมั่น หรือไม่ทำตามสัญญาที่ตกลงไว้จะถึงแก่ความตายทันที ปฏิญาณไม่คืนคำไม่ปรากฏคำร่ายที่แน่ชัดในการร่ายคาถา ในการทำปฏิญาณจะใช้คนทั้งหมด 3 คน โดย 1 คนทำหน้าที่เป็นผู้พันธนา (Bonder) หรือร่ายกำกับคาถา และอีกสองคนคือคู่สัญญา ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าปฏิญาณไม่คืนคำนี้สามารถสร้างคำสัญญามากกว่าคน 2 คนได้หรือไม่ รอน “ฟังนะ นายบอกเลิกปฏิญาณไม่คืนคำไม่ได้…” แฮร์รี่ “เรื่องนั้นฉันคิดเองได้แล้ว แปลกใจไหม แต่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้านายบอกเลิกมัน” รอน “นายตาย” – แฮร์รี่ พอตเตอร์ …
ฉันต้องยอมรับเลยว่าฉันค่อนข้างชื่นชอบคาถานี้เป็นพิเศษราวกับว่ามันเป็นคาถาที่ฉันสร้างขึ้นมาเองเลยทีเดียว มีข้อถกเถียงกันว่ามันควรจะถูกรวมไว้กับคำแช่งที่ใช้ในแบบเรียนหรือไม่ ฉันยังคงคิดว่าคาถาจู่โจมที่ไม่รุนแรงอย่างเช่นคาถานี้จะช่วยขจัดความพยายามของเด็กนักเรียนที่จะค้นหาหรือฝึกฝนคำสาปที่อันตรายมากกว่าเพื่อไปใช้ในการสู้กันในโรงเรียน อย่างที่ฉันเคยอธิบายไปก่อนหน้าในหนังสือเล่มนี้ ฉันเติบโตขึ้นในครอบครัวที่ใหญ่มาก และกับการที่เป็นสมาชิกที่เด็กที่สุด บางครั้งมันก็ยากที่จะทำอะไรที่ตั้งใจให้สำเร็จได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามหากความกลัวของใครสักคนกลายเป็นเหล่าค้างคาวสีดำ ที่ทยอยคลานออกมาจากรูจมูกของพวกเขาและกระพือปีกบินไป การใช้พวกค้างคาวก็อาจช่วยให้พวกเขาเงียบลงได้นานพอที่จะปล่อยให้คุณพูดได้บ้าง ฉันรับรองความช่ำชองในคำสาปนี้ของฉันได้เลยจากที่ใช้ในการโน้มน้าวพี่สาวของฉัน ไดอาดีมา (Diadema) เพื่อให้หล่อนคืนบรรดาชุดที่หล่อนยืมฉันไป แล้วก็ใช้เตือนความจำพี่สาวฉัน โรมิลด้า (Romilda) ให้ออกจากห้องฉันไปสักทีเวลาที่ฉันต้องการ และใช้ช่วยพี่สาวฉันอีกคน แท็งวิสทล์ (Tangwystl) เงียบเสียงลงหน่อยเวลาที่ฉันพยายามทำการบ้าน
คาถากุ๊กกุ๋ย ปรากฏครั้งแรกในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ บทที่ 13 ซึ่งในภาษาอังกฤษคาถากุ๊กกุ๋ยมาจากคำว่า Hocus Pocus สเนป: “คาถากุ๊กกุ๋ยของคุณน่ะ… ผมคอยอยู่นะ” ควีเรลล์: “ตะ-แต่ ผมไม่…” สเนป: “งั้นก็ดีแล้ว” – แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ บ.12 และยังมาปรากฏอีกครั้งในเล่ม 2 เมื่อแฮร์รี่พยายามร่ายคาถาปลอมๆ เพื่อแกล้งแหย่ดัดลีย์ให้ตกใจกลัว “จิกเกอรี่ โพกเคอรี่! โฮคัส …
ในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบันหรือหนังสือเล่ม 3 ของหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์มีการใช้คาถาเกิดขึ้นมากมายทั้งที่สามารถระบุคำร่ายกับผลที่ชัดเจนได้และระบุไม่ได้ ในบทความนี้ผู้เขียนขอเจาะจงเขียนถึงแค่คาถาและคำสาปที่มีคำร่ายชัดเจนเท่านั้น อย่างไรก็ดีหากมีคาถาที่มีผลใกล้เคียงกับกลุ่มคาถาดังกล่าวแต่ชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นคาถาเดียวกันหรือไม่ ผู้เขียนจะไม่นับรวม นอกจากนี้ในส่วนของการออกเสียงคำร่ายและพิกัดหน้าที่ปรากฏคาถา เนื่องจากการตีพิมพ์หนังสือฉบับภาษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งผู้เขียนจึงขอยึดเปรียบเทียบเนื้อหาใน 2 รุ่นด้วยกันคือ ปก (อ่อน) รุ่นแรกที่วาดโดยแมรี่ กรองแปร (พิมพ์ครั้งที่ 1 – พฤศจิกายน 2543) และปก (แข็ง) รุ่นฉลอง 15 ปีที่วาดโดยคาซึ คิบุอิชิ (พิมพ์ครั้งที่ …