Category: Wonderbook: Book of Spells

บทที่ 3 : คาถาเกราะวิเศษ (Shield Charm)

คาถาเกราะวิเศษ (Shield Charm) คาถาสุดพื้นฐานสำหรับการประลองเวท คาถาเกราะวิเศษนี้จะปกป้องผู้ร่ายเวทจากคาถาโจมตีแทบทุกบท คาถานี้คงไม่มีประโยชน์มากนักหากปราศจากการตอบสนองอย่างว่องไว และหนทางที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้ได้ก็คือการฝึกการสะท้อนกลับกับคำสาปจริง ๆ ที่สุดแล้วการต้องอยู่กับคำสาปหูกระตุก (Twitchy-Ears Hex) หรือคำแช่งขาปุยนุ่น (Jelly-Legs Jinx) ก็เป็นวิธีอันแสนยอดเยี่ยมที่จะทำให้เราตั้งอกตั้งใจกับการเรียนคาถาเพื่อใช้ป้องกันตัว มีคาถาป้องกันหลากหลายบท แต่สำหรับบทที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน นี่คือคาถาที่ให้ผลดีที่สุด การใช้คาถานี้ครั้งที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นในปี 1484 ระหว่างการแข่งขันประลองยุทธ์บนหลังม้าในหมู่บ้านที่ป็อปเปิลตัน ประเทศอังกฤษ ทัศนียภาพของเมืองป็อปเปิลตันมองเห็นได้จากปราสาทที่เอิร์ลแห่งพอนช์ลีย์ (Earl of Paunchley) เป็นเจ้าของ เอิร์ลคือเผด็จการจอมกดขี่ผู้ทำให้ชีวิตของชาวเมืองน่าอดสู เขาออกกฎลงโทษอย่างโหดเหี้ยมต่อความผิดหยุมหยิม …

บทที่ 3 : คาถาสะอาดเอี่ยม (Scouring Charm)

คาถาสะอาดเอี่ยม (Scouring Charm) ตั้งแต่คราบน้ำฟักทอง เศษเครื่องในกบ ยันปุ๋ยมูลมังกรเกรอะกรัง คาถาสะอาดเอี่ยมอันยอดเยี่ยมจะทำให้มันอันตรธานไปจนหมด วิธีการร่ายการขจัดคราบอันไม่พึงประสงค์ ให้ร่ายคาถา ‘สเกอร์จิฟาย (Scourgify)’ ท่าทางในการร่ายขยับไม้กายสิทธิ์ให้เรียบลื่นเป็นเส้นคดเคี้ยวเหมือนอักษร ‘S’ (ดูภาพ K) หมายเหตุหากคุณโตมาในครอบครัวผู้วิเศษที่มีเอลฟ์ประจำบ้าน คุณอาจจะรู้สึกว่าการใช้เวทมนตร์ในการทำความสะอาดด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ต่ำต้อยเกินไป แต่สบายใจได้ ครั้งแรกที่คุณต้องการจะล้างยางเหม็นออกจากเน็กไทโรงเรียนโดยไม่มีเอลฟ์ประจำบ้านคอยช่วยล่ะก็ คุณก็จะรู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้เรียนคาถาสะอาดเอี่ยมแน่

บทที่ 3 : คาถาซ่อมแซม (Mending Charm)

คาถาซ่อมแซม (Mending Charm) คาถาซ่อมแซมจะซ่อมแซมข้าวของที่พังได้ด้วยการสะบัดไม้ อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรู้จักการแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง อย่างไรก็ตาม นักเรียนจอมซุ่มซ่ามควรจำไว้ให้ดีว่าการใช้คาถานี้ได้อย่างเชี่ยวชาญนั้นไม่สามารถทดแทนการเรียนรู้ที่จะไม่ทำอะไรพังไปตั้งแต่แรกได้ คาถาปรับปรุงและซ่อมแซมมากมายถูกใช้กันมาหลายศตวรรษ แต่บทที่ได้ผลและทรงพลังที่สุดนั้นคิดค้นขึ้นโดยออราเบลล่า นัตต์ลีย์ (Orabella Nuttley) ในศตวรรษที่ 18 เพราะเป็นเสมียนผู้ต่ำต้อยในกระทรวงเวทมนตร์ ของกองตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ไม่ถูกต้อง ความเขินอายอย่างยิ่งยวดของออราเบลล่าคืออุปสรรคในหน้าที่การงานของเธอ ทั้งขี้กลัว นั่งบื้อใบ้เสมอในที่ประชุม และลุกลนเหลือเกินทุกครั้งที่พูด ออราเบลล่าจึงถูกมอบหมายให้ทำงานแสนธรรมดาที่สุดในสำนักงาน เช่น งานเอกสาร งานขัดถูและทำความสะอาดนกฮูกของกอง กระนั้น เมื่ออยู่บ้านออราเบลล่าได้ใช้เวลาว่างของเธอไปกับการทดลองคาถาด้วยความพยายามที่จะพัฒนาและเสริมความแข็งแกร่งให้กับคาถาที่เคยใช้ในวัยเยาว์ เรื่องแสนบังเอิญจึงนำไปสู่การเปิดเผยพรสวรรค์ที่ถูกซ่อนไว้ของออราเบลล่า ในปี …

บทที่ 3 : คําสาปปีศาจค้างคาว (Bat-bogey Hex)

ฉันต้องยอมรับเลยว่าฉันค่อนข้างชื่นชอบคาถานี้เป็นพิเศษราวกับว่ามันเป็นคาถาที่ฉันสร้างขึ้นมาเองเลยทีเดียว มีข้อถกเถียงกันว่ามันควรจะถูกรวมไว้กับคำแช่งที่ใช้ในแบบเรียนหรือไม่ ฉันยังคงคิดว่าคาถาจู่โจมที่ไม่รุนแรงอย่างเช่นคาถานี้จะช่วยขจัดความพยายามของเด็กนักเรียนที่จะค้นหาหรือฝึกฝนคำสาปที่อันตรายมากกว่าเพื่อไปใช้ในการสู้กันในโรงเรียน อย่างที่ฉันเคยอธิบายไปก่อนหน้าในหนังสือเล่มนี้ ฉันเติบโตขึ้นในครอบครัวที่ใหญ่มาก และกับการที่เป็นสมาชิกที่เด็กที่สุด บางครั้งมันก็ยากที่จะทำอะไรที่ตั้งใจให้สำเร็จได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามหากความกลัวของใครสักคนกลายเป็นเหล่าค้างคาวสีดำ ที่ทยอยคลานออกมาจากรูจมูกของพวกเขาและกระพือปีกบินไป การใช้พวกค้างคาวก็อาจช่วยให้พวกเขาเงียบลงได้นานพอที่จะปล่อยให้คุณพูดได้บ้าง ฉันรับรองความช่ำชองในคำสาปนี้ของฉันได้เลยจากที่ใช้ในการโน้มน้าวพี่สาวของฉัน ไดอาดีมา (Diadema) เพื่อให้หล่อนคืนบรรดาชุดที่หล่อนยืมฉันไป แล้วก็ใช้เตือนความจำพี่สาวฉัน โรมิลด้า (Romilda) ให้ออกจากห้องฉันไปสักทีเวลาที่ฉันต้องการ และใช้ช่วยพี่สาวฉันอีกคน แท็งวิสทล์ (Tangwystl) เงียบเสียงลงหน่อยเวลาที่ฉันพยายามทำการบ้าน

บทที่ 3 : คาถาพูนทวี (Doubling Charm)

คาถาพูนทวี* (DOUBLING CHARM) คาถาพูนทวี (หรือที่รู้จักกันมากกว่าในชื่อของ คำสาปเจมิโน) ค้นพบโดยแม่มดฝาแฝด: เฮลิซา และซีน่า ฮีสลอป (Helixa and Syna Hyslop) หลังจากการตายอย่างเงียบๆ และแปลกประหลาดสักหน่อยของทั้งคู่ ญาติๆ ที่เหลือก็พบว่าภายในแมนชั่นที่เคยเป็นที่พักอาศัยตลอดชีวิตของพวกเธอนั้นเต็มไปด้วยสิ่งของที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว รวมไปถึงยังพบรายละเอียดของคาถาที่เขียนด้วยลายมือที่เหมือนกันสองแผ่นวางไว้คู่กันบนโต๊ะกินข้าวที่เข้าชุดกัน แล้วคาถาเพิ่มจำนวนก็เริ่มสร้างปัญหาทันทีที่มันถูกค้นพบ เกิดข้อโต้แย้งกันมากมายกับคำถามที่ว่าจะรู้ได้ยังไงว่าของที่เกิดขึ้นใหม่จากคำสาปเจมิโนจะมีคุณค่าเท่ากับคู่ของมันหรือไม่ ด้วยลักษณะที่เหมือนกันในทีแรกมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะสามารถแยกแยะมันได้ แม้ว่าชิ้นที่ถูกเพิ่มขึ้นมานั้นจะเน่าหรือเสื่อมสลายไปได้เร็วกว่า โชคร้ายที่คาถานี้ยังมีเรื่องประหลาดอย่างหนึ่งที่ยังไม่เคยมีใครเอาชนะมันได้สำเร็จ นั่นคือ ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้นอกจากผู้ที่เป็นคนเสกคาถา ซึ่งไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามหากเขาหรือเธอถูกขัดขวาง ของที่เพิ่มจำนวนอยู่นั้นก็จะเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ เป็นชั่วโมงหรือเป็นวันจนกว่าของที่งอกออกมาจะเสื่อมสลายหมดไปเอง …

บทที่ 3 : คาถาเซาะร่อง (Gouging Spell)

บทที่ 3 ทักษะการใช้ไม้กายสิทธิ์ที่ยอดเยี่ยม ความสามารถในการร่ายคาถาอันเป็นเลิศหรือไหวพริบในการปรุงยาจะสำคัญอะไร ถ้าเธอไม่สามารถประยุกต์ใช้มันได้ คาถาในบทนี้จะทำให้เธอสามารถแก้ไขและกำจัดเรื่องยุ่งยากให้หมดไปรวมถึงเรื่องสำคัญที่สุด – สามารถใช้มันป้องกันตัวเองได้อีกด้วย จงศึกษาคาถาชุดนี้อย่างทะลุปรุโปร่งเสียก่อนจะพยายามใช้มัน (โปรดจำเอาไว้ว่าถึงจะศึกษาอย่างละเอียดแล้วแต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน) คาถาเซาะร่อง (GOUGING SPELL) คาถาเซาะร่องจะทำให้พ่อมดแม่มดสามารถเซาะช่องผ่านแผ่นดินและหินได้อย่างดาย ตั้งแต่ใช้ขุดหาต้นอ่อนของสนาร์กาลัฟฟ์โดยนักสมุนไพรรุ่นแรกๆ ไปจนถึงใช้ทลายสุสานโบราณที่ผู้ล้างคำสาปยังไม่ค้นพบเพื่อล่าสมบัติ ซึ่งจากลักษณะการใช้งานดังกล่าวทำให้คาถาเซาะร่องเป็นคาถาประเภทที่ต้องใช้แรงงานอย่างหนักในการควบคุมไม้กายสิทธิ์ วิธีการร่าย ใช้คาถา “ดีโฟดีโอ (Defodio)” เพื่อเซาะผ่านแผ่นดินและก้อนหิน ท่าทางในการร่าย ตวัดไม้กายสิทธิ์ลงตรงๆ จากนั้นย้ายไปทางซ้ายแล้วตวัดลงอีกครั้ง (ดูภาพ Fig. I)

บทที่ 2 : คาถาขยายขนาดและหดตัว (Engorgement & Shrinking Charms)

คาถาที่ตรงไปตรงมาแต่อันตรายอย่างน่าประหลาดใจเหล่านี้ส่งผลให้ของบางอย่างขยายขนาดหรือหดตัวได้ คุณกำลังจะได้เรียนรู้คาถาทั้งคู่นี้พร้อมกัน เพื่อว่าคุณจะได้สามารถแก้ไขการร่ายคาถาที่มากเกินไปได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับการบังเอิญไปหดขนาดการบ้านของคุณลงจนมีขนาดเล็กกระจิ๋ว หรือการปล่อยให้คางคกยักษ์ไปอาละวาดในแปลงดอกไม้ที่โรงเรียนของคุณ วิธีการร่าย การร่ายคาถาเพื่อทำให้สิ่งของขยายขนาดขึ้นคือ ‘เอ็นกอร์จิโอ’ (Engorgio) การหดขนาดสิ่งของอย่างน่าอัศจรรย์ทำได้โดยกล่าวคาถา ‘เรดูซิโอ’ (Reducio) ท่าทางในการร่าย การจะทำให้สิ่งของขยายขนาดขึ้นให้วาดเป็นรูปลูกศรชี้ขึ้น ส่วนการทำให้สิ่งของหดขนาดลงให้โบกไม้กายสิทธิ์เป็นรูปชี้ลง (ดังรูป H)

บทที่ 2 : คาถาเผยความลับ (Revealing Charm)

คาถาเผยความลับจะเผยให้เห็นถึงหมึกล่องหนหรือข้อความที่ถูกซ่อนไว้โดยเวทมนตร์ คาถานี้สามารถแก้มนตร์ปกปิดส่วนมากได้ ดังนั้นควรระวังไว้ว่าแผนก่อให้เกิดความเสียหายใดๆที่ถูกปกปิดไว้ด้วยหมึกล่องหนสามารถถูกเปิดเผยได้ง่าย ๆ โดยผู้ปกครองที่เป็นผู้วิเศษและอาจารย์เช่นกัน นักวิจัยเวทมนตร์จำนวนมากใช้หมึกล่องหนเพื่อที่จะซ่อนงานของพวกเขาจากคู่แข่ง ดังนั้นคาถาเผยความลับจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อนักวิชาการผู้จริงจังเหล่านั้น ผู้มีชื่อเสียงด้านตัวเลขมหัศจรรย์ บริดเจ็ต เว็นล็อก (Bridget Wenlock) ให้การปกป้องอย่างยิ่งกับการค้นพบของเธอด้วยการเขียนอย่างเฉพาะตัวด้วยหมึกล่องหน ยังไม่ต้องกล่าวถึงการเขียนกลับหัวกลับหาง กลับหน้ากลับหลัง และลายมือที่เลวร้ายของเธอ เว็นล็อกมีชื่อเสียงเรื่องการเหม่อลอยพอ ๆ กับโรคหวาดระแวงของเธอ และบ่อยครั้งที่มักจดบันทึกย่อด้วยหมึกล่องหนลงบนเศษกระดาษก่อนจะทำมันหายหลังจากนั้นทันที มักจะเห็นว่าเธอกลับไปที่ทินเวิร์ทบ้านเกิดของเธออยู่บ่อย ๆ พยายามที่จะใช้คาถาเผยความลับบนเศษกระดาษทุกแผ่นเพื่อหาการคำนวณตัวเลขมหัศจรรย์ที่หายไป เว็นล็อกเคยจดทฤษฎีบท*ที่ค้นพบใหม่เกี่ยวกับคุณสมบัติทางเวทมนตร์ของเลขเจ็ดตอนเวลาอาหารเช้าในวันหนึ่ง ซึ่งเธอจดมันลงบนด้านหลังของซองจดหมายซองหนึ่งโดยใช้หมึกล่องหนประจำของเธอ จากนั้นเธอไปส่งจดหมายให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอ โดยใช้ซองจดหมายที่ในภายหลังเธอเชื่อว่าต้องเป็นซองเดียวกันกับที่แฝงทฤษฎีบทของเธอไว้ ทันทีที่ตระหนักถึงความผิดพลาดของเธอ เว็นล็อกรีบฉวยไม้กวาดของเธอและออกไล่ตามนกฮูกที่ถือจดหมายไป …

บทที่ 2 : คาถาเสกนก (Bird-Conjuring Charm)

คาถาเสกนก (Bird-Conjuring Charm) เมื่อร่ายคาถาเสกนก จะมีฝูงนกเล็กๆ บินออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ จำไว้เสมอว่าสัตว์ที่คุณเสกออกมานั้นไม่มีชีวิตอยู่จริง ยิ่งคุณเสกคาถานี้ได้เชี่ยวชาญเท่าไร สัตว์ก็จะยิ่งดูสมจริงมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณจะต้องผิดหวังหากพยายามเก็บมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยง เพราะมันเป็นเพียงภาพมายาที่เกิดจากคาถาของคุณ วิธีการร่าย คุณต้องเรียนรู้คาถาที่ถูกต้องในการร่ายคาถาเสกนก และคาถาบทนั้นคือ “อาวิส (Avis)” ท่าทางในการร่าย โบกไม้กายสิทธิ์เป็นแนวโค้งจากซ้ายไปขวา (เหมือนปีกนก) หมายเหตุ แน่นอนว่าการเสกสัตว์ตัวเป็นๆ ออกมานั้นเป็นเรื่องยากเย็นมหาศาล คัมภีร์เวทมนตร์เล่มนี้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติมากกว่าภาคทฤษฎี แต่อาจารย์ของคุณสามารถอธิบายหลักการชีวิตประดิษฐ์ด้านยีนด้อย (Principle of Artificianimate Quasi-Dominance) ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจอะไรหลายๆ …

บทที่ 2 : คาถาจุดไฟ (Fire-Making Spell)

บทที่ 2 ถึงเวลาของคาถาที่ซับซ้อนมากขึ้นแล้ว ภายในบทนี้ การร่ายคาถาจะทวีความท้าทายและเสี่ยงอันตรายมากขึ้น หากสติปัญญาอยู่กับคุณ ในไม่ช้า คุณจะสามารถร่ายคาถาใหม่ๆ ได้ ตั้งแต่การเสกให้หมึกล่องหนปรากฏ เสกนกออกจากไม้กายสิทธิ์ ไปจนถึงการร่ายไฟเวทมนตร์   คาถาจุดไฟ (Fire-Making Spell) คาถาจุดไฟเป็นคาถาที่มีประโยชน์เสมอในครัวเรือนของพ่อมดแม่มด นับตั้งแต่การจุดไฟในเตาผิง ไปจนถึงเสกไฟใส่พุดดิ้งคริสต์มาส มันเป็นคาถาที่น่าประทับใจก็จริง แต่นักเรียนจะได้รับคำตักเตือนว่าการเสกคาถาจุดไฟแบบไม่ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรงตามมาได้ การแสดงสุดคลาสสิกเรื่อง “อนิจจา ฉันเสกคาถาแปลงร่างใส่เท้าของฉัน” ของมัลเลอคลี ที่มีชะตากรรมอันน่าสลดถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่มีการบันทึกชื่อนักแสดงในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจเป็นการดีที่สุด เพราะครึ่งแรกขององก์หนึ่ง พวกเขาถูกผู้ชมขว้างฟักทองใส่เข้าให้ …