Author: Daga Por
แนวคิดของเจ.เค.โรว์ลิ่ง การเล่นแร่แปรธาตุ (การค้นคว้าเกี่ยวกับศิลาอาถรรพ์ ซึ่งจะเปลี่ยนแร่โลหะให้กลายเป็นทองคำ และทำให้ผู้ครอบครองอ่อนเยาว์อยู่ตลอดกาล) ครั้งหนึ่งเคยเชื่อกันว่าเป็นไปได้และมีอยู่จริง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการค้นคว้าเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุอาจจะซับซ้อนมากกว่านั้น และเป็นรูปธรรมน้อยกว่านั้น เมื่อเทียบกับสิ่งที่มันเผยโฉมออกมาครั้งแรก หนึ่งในการตีความเกี่ยวกับ ‘คำแนะนำ’ ที่นักเล่นแร่แปรธาตุบอกไว้ก็คือ มันเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนำนักเล่นแร่แปรธาตุออกจากความเขลา (แร่โลหะ) ไปสู่การรู้แจ้งเห็นจริง (ทองคำ) ดูเหมือนว่ามันจะมีองค์ประกอบอันลึกลับในการทำงานของนักเล่นแร่แปรธาตุ นั่นคือ พันธะสัญญาที่มีอยู่เรื่อยไป ซึ่งทำให้มันแตกต่างจากวิชาเคมี (ไม่น่าสงสัยเลยว่าศาสตร์หนึ่งเป็นเหมือนแขนงย่อย และอีกศาสตร์หนึ่งเป็นเหมือนผู้บุกเบิก) สีแดงและสีขาวต่างก็เกี่ยวข้องกับบทความเก่าแก่ของการเล่นแร่แปรธาตุมาหลายยุคสมัย การตีความอย่างหนึ่งก็คือ ทั้งแร่โลหะและทองคำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของสองด้านที่แตกต่างกันในธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งจะต้องประนีประนอมให้เข้ากัน นี่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับชื่อของชาวคริสเตียน …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง อัซคาบันมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อคุมขังนักโทษแต่อย่างใด เกาะในทะเลเหนือซึ่งด้านบนมีป้อมปราการแห่งแรกถูกทำให้ไม่ปรากฏบนแผนที่ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ของมักเกิ้ลหรือของผู้วิเศษ และเชื่อกันว่าถูกสร้างสรรค์ขึ้นหรือขยายให้ใหญ่ขึ้นด้วยวิธีการทางเวทมนตร์ ป้อมปราการที่อยู่เหนือขึ้นไปนั้น เดิมเป็นที่อยู่ของพ่อมดที่ไม่มีชื่อเสียงมากนัก ชื่อ อีคริซดิส (Ekrizdis) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ทราบสัญชาติของเขา อีคริซดิสซึ่งต่างเชื่อกันว่าวิกลจริต เป็นผู้ฝึกฝนด้านศาสตร์มืดประเภทที่เลวร้ายที่สุด เขาอาศัยอยู่เพียงลำพังกลางมหาสมุทร และล่อลวง ทรมาน รวมทั้งฆ่ากะลาสีเรือมักเกิ้ลหลายคนด้วยความสนุกสนาน เมื่อเขาเสียชีวิตลง และคาถาพรางตาที่เขาเคยเสกไว้ค่อยๆ จางหายไป ทำให้กระทรวงเวทมนตร์รู้ว่ายังมีเกาะและสถานที่อีกแห่งหนึ่งอยู่ด้วย บรรดาผู้ที่เข้าไปตรวจสอบหาข้อมูล ณ ที่แห่งนั้นปฏิเสธที่จะบอกเล่าในภายหลังว่าพวกเขาได้เจออะไรที่นั่น แต่สิ่งที่น่าหวาดกลัวน้อยที่สุดก็คือ …
เนื้อหาต่อไปนี้ เป็นเนื้อหาเก่าจากเว็บไซต์ jkrowling.com เวอร์ชั่นแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งอาจมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับใน Pottermore และเป็นเนื้อหาเก่าแต่มีสาระใจความที่น่าสนใจ ทาง Muggle-V จึงแปลรวบรวมเก็บไว้ให้แฟนๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ รุ่นใหม่ได้อ่านกัน เรื่องราวของนกฮูกปรากฏโดดเด่นอยู่ในความเชื่อถือโชคลางหลายต่อหลายเรื่องทั่วโลก สำหรับชาวกรีก นกฮูกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของอธีน่า เทพีแห่งปัญญาและการสงคราม เมื่อใดก็ตามที่พบเห็นนกฮูกบินอยู่เหนือกองทัพกรีกก่อนออกรบ จะถือว่าเป็นลางดีที่บ่งบอกถึงชัยชนะ ในทางกลับกัน สำหรับชาวโรมันถือว่านกฮูกเป็นสัตว์นำโชคร้ายซึ่งทำนายถึงความตายและหายนะ ส่วนในสหราชอาณาจักรมีความเชื่อในเรื่องโชคลางว่าจะโชคร้ายเมื่อเห็นนกฮูกในเวลากลางวัน ซึ่งเป็นความเชื่ออันงมงายที่ฉันรู้สึกขบขันกับเนื้อเรื่องในบทแรกของเล่มศิลาอาถรรพ์ ที่มีนกฮูกจำนวนมากปรากฏตัวออกมาอย่างฉับพลันทันทีในตอนกลางวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมีบางอย่างที่โชคดีมากๆ เกิดขึ้น แม้ว่าบรรดามักเกิ้ลจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม …
นกฮูกเป็นสัตว์วิเศษที่ถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดในการขนส่งจดหมายและพัสดุในโลกของผู้วิเศษ พวกมันเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความเร็วและความรอบคอบ รวมทั้งความสามารถในการค้นหาผู้รับจดหมายและพัสดุโดยไม่ต้องจ่าที่อยู่หน้าซอง เด็กนักเรียนปีหนึ่งได้รับอนุญาตให้นำนกฮูกไปโรงเรียนได้ในฐานะสัตว์เลี้ยง เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ความเชื่อถือโชคลางอันเก่าแก่ในสหราชอาณาจักรที่ว่าการเห็นนกฮูกบินผ่านไปในตอนกลางวันถือเป็นลางร้ายนั้น สามารถอธิบายได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อใดก็ตามที่พ่อมดแม่มดเปิดเผยตัวเพื่อส่งข้อความในเวลากลางวัน แปลว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่น่าตื่นเต้นเร้าใจกำลังเกิดขึ้นในโลกเวทมนตร์ มักเกิ้ลอาจจะประสบเหตุการณ์ไม่สู้ดีตามมาเป็นระลอกหลังจากนั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการที่นกฮูกส่วนใหญ่ออกหากินในเวลากลางคืน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะถูกมักเกิ้ลมองว่าเป็นลางร้าย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นทั้งผู้รับใช้และเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเหล่าพ่อมดแม่มดมานานนับศตวรรษ ทั้งๆ ที่มีทางเลือกอื่นอีกมากมายในการสื่อสารผ่านระยะทางไกลๆ โดยใช้เวทมนตร์ (รวมถึงคาถาผู้พิทักษ์ ผงฟลู อุปกรณ์เวทมนตร์ต่างๆ เช่น กระจกเงา และแม้กระทั่งเหรียญ) แต่การใช้นกฮูกที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้ในการส่งสาร ก็ยังเป็นวิธีสามัญที่สุดที่บรรดาพ่อมดแม่มดทั่วโลกเลือกใช้ ข้อดีของการใช้นกฮูกในการส่งสาร ก็คือคุณลักษณะหลายอย่างของพวกมันซึ่งทำให้มักเกิ้ลที่เห็นเกิดความสงสัย (ไม่ว่าจะเป็นการทำงานภายใต้ความมืดที่ครอบคลุมยามราตรี …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง แผ่นดินส่วนหนึ่งของฮอกวอตส์ทำหน้าที่เป็นเหมือนแหล่งธรรมชาติ ที่สงวนไว้สำหรับบรรดาสัตว์วิเศษ ซึ่งมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากในบริเวณที่อยู่อาศัยของมักเกิ้ล ในทะเลสาบเต็มไปด้วยเหล่าสัตว์วิเศษ ซึ่งอาจจะทำให้นักธรรมชาติวิทยาของมักเกิ้ลเป็นลมล้มพับไปด้วยความยินดี ถ้าความหวาดกลัวไม่เข้าจู่โจมพวกเขาซะก่อน สัตว์วิเศษต่างๆ ได้แก่ กรินดี้โลว์ (ปีศาจน้ำตัวเล็กๆ ที่ดุร้าย), ชาวเงือก (สายพันธุ์สก็อตที่แข็งแกร่ง) และปลาหมึกยักษ์ ซึ่งสามารถทำให้เชื่องได้กึ่งหนึ่ง และยินยอมให้พวกเด็กนักเรียนจั๊กจี้หนวดของมันได้ในวันที่แดดจ้า ระหว่างที่มันนอนอาบแดดอยู่บนผิวน้ำตื้นๆ ปลาหมึกยักษ์มีชีวิตอยู่จริงๆ แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์วิเศษที่มีความลึกลับซับซ้อนเสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งๆ ที่ร่างกายอันใหญ่โตเกินธรรมดาของมันถูกซัดเข้าหาฝั่งทั่วทุกมุมโลก แต่ปลาหมึกยักษ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยถูกจับมาอยู่ในภาพยนตร์ของมักเกิ้ลเลย จนกระทั่งปี ค.ศ.2006 ฉันจึงสงสัยในพลังเวทมนตร์ที่พวกมันมีเหลือเกิน แนวคิดของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง …
ภาพของพ่อมดคนหนึ่ง ซึ่ง Thomas Taylor เคยวาดไว้บนปกหลังของหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ (ฉบับอังกฤษของ Bloomsbury) มันเป็นภาพที่สะดุดตา จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันมาแรมปีในแฟนไซต์แฮร์รี่ พอตเตอร์ และบรรดาผู้วิจารณ์ทั้งหลาย เมื่อความสงสัยเหล่านั้นมีเสียงสะท้อนดังขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาพของพ่อมดผู้นั้นถูกแทนที่อย่างรวดเร็วด้วยภาพวาดของดัมเบิลดอร์ ซึ่งเป็นที่จดจำกันได้อย่างแน่ชัด แล้วถ้าอย่างนั้น ใครกันคือพ่อมดปริศนาคนแรก? และพลังชั่วร้ายไหนกันที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง? ในบรรดาความเห็นมากมายเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นภาพของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ในวัยหนุ่มที่ดูแปลกพิกล ขณะที่มุมมองอื่นมองว่าเป็นศาสตราจารย์ควีเรลล์ หรือนิโคลัส แฟลมเมล ที่ตีความกระทั่งว่าเป็นศิลาอาถรรพ์ที่โป่งนูนออกมาจากกระเป๋าของเขา บางคนเคยบอกว่า “เห็นได้ชัดๆ ว่าคนวาดภาพนี้ไม่ได้อ่านเนื้อหาในหนังสือก่อนจะวาดภาพนั้น” …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง 1990 แคนาดา 270, สกอตแลนด์ 240 ความผิดหวังอันขมขื่นของสกอตแลนด์ ที่มีซีกเกอร์อย่างเฮคเตอร์ ลามันต์ (Hector Lamont) พลาดการจับลูกสนิชไปอย่างเฉียดฉิวเพียงมิลลิเมตร ในการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเฮคเตอร์ตำหนิพ่อของเขา ไปทั่ว ที่ไม่ให้นิ้วมือแก่เขายาวกว่านี้อีกสักหน่อย 1994 ไอร์แลนด์ 170, บัลแกเรีย 160 พิธีเปิดสนามถูกข่มรัศมีไปเกือบหมดด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการแข่งขันครั้งนี้ การจับลูกสนิชที่น่าประทับใจด้วยฝีมือของซีกเกอร์ดาวรุ่ง วิกเตอร์ ครัม เพียงพอที่จะกอบกู้เกียรติยศของทีมบัลแกเรีย แต่ไม่เพียงพอที่จะปกป้องชัยชนะไว้ได้ …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ตาม คำแนะนำอย่างเป็นทางการของการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพ ซึ่งได้รับการจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการกีฬาควิดดิชแห่งสหพันธ์พ่อมดนานาชาติ (ICWQC) สามารถหาได้ทั่วไปตามแผงหนังสือที่มีชื่อเสียงของเหล่าพ่อมดแม่มดทั้งหลาย ซึ่งต่างรู้สึกตรงกันว่ามีราคาสูงอย่างน่าขันถึง 39 เกลเลียน ระบุไว้ว่า การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศถูกกำหนดให้จัดขึ้นทุกๆ 4 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1473 เป็นต้นมา ในฐานะที่ควิดดิชเป็นมากกว่าการแข่งขันกีฬาที่มีความสำคัญที่สุดในโลกของผู้วิเศษ จึงมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับความเที่ยงตรงของถ้อยแถลงนี้ ในขณะที่มีเพียงทีมในทวีปยุโรปเท่านั้นที่มีการแข่งขันในระหว่างศตวรรษที่ 15 และ 16 บรรดาผู้เคร่งครัดทั้งหลายต่างเสนอช่วงเวลาของการเริ่มต้นการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพ ให้นับจากศตวรรษที่ 17 เป็นต้นไป เมื่อกีฬาชนิดนี้ได้เปิดตัวออกสู่ทั่วทุกทวีป นอกจากนี้ยังมีการโต้เถียงที่ดุเดือดเกี่ยวกับความเที่ยงตรงของบันทึกทางประวัติศาสตร์บางส่วนของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ การวิเคราะห์หลังจบเกมการแข่งขันจำนวนมาก มีเนื้อหาสาระสำคัญไปที่การแทรกแทรงด้วยเวทมนตร์*ให้เกิดผลตามต้องการ …
ร่วมรับรู้การสร้างสรรค์เหตุการณ์ตอนสุดท้ายของแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี จากภาพร่างเริ่มต้นสู่งานศิลป์ชิ้นสมบูณ์ ทอม ฮอด์กสัน (Tom Hodgson) ผู้อำนวยการสร้างของพอตเตอร์มอร์ ได้แบ่งปันภาพวิดีโอที่นำเสนอขั้นตอนการทำงานของเขาสู่สายตาผู้ชม ซึ่งเป็นแฟนๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่งานเฉลิมฉลองแฮร์รี่ พอตเตอร์ (A Celebration of Harry Potter) ณ ยูนิเวอร์แซล ออร์แลนโด รีสอร์ท วิดีโอตัวนี้สร้างขึ้นสำหรับงานครั้งนี้โดยเฉพาะ แสดงให้เห็นวิธีการวาดภาพร่างจนกระทั่งการลงสีในขั้นตอนสุดท้ายของเหตุการณ์ ที่ชื่อว่า ‘ตรามารของสเนป’ (จากบทที่ …
หลังจากที่มีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเธอเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วันนี้ทีมงาน Muggle-V แปลเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ อาจจะนานไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยครับ ใครที่อยากอ่านฉบับภาษาอังกฤษอีกรอบ คลิกเลยครับ ไม่ให้เสียเวลา มาดูเนื้อหาทั้งหมดในฉบับภาษาไทยกันเลยดีกว่า เจ.เค.โรว์ลิ่ง นักเขียนและผู้ใจบุญ โจ โรว์ลิ่ง เคยเขียนหนังสือเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งติดอันดับหนังสือขายดีในประวัติศาสตร์ จนกระทั่งบัดนี้ เธอยังคงเดินเรื่องให้มีความสนุกสนาน อบอุ่น และจริงใจ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการกุศล เช่น มูลนิธิคอมิกรีลีฟ การวิจัยโรคปลอกประสาทอักเสบ …