Author: Feliona Bishop
คาถาเสกน้ำ (Water-Making Spell) เมื่อใช้คาถาเสกน้ำ จะมีน้ำสะอาดที่สามารถดื่มได้พุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ พ่อมดที่สามารถเสกคาถานี้ได้จึงไม่เคยมีปัญหาเรื่องขาดน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่พวกเขาต้องการเติมน้ำลงในแก้วระหว่างมื้อเย็น หรือดับไฟที่คิ้วหลังจากเผลอเสกคาถาจุดไฟโดยไม่ได้ตั้งใจ วิธีการร่าย ถ้อยคำวิเศษสำหรับการเสกน้ำคือ “อากัวเมนตี (Aguamenti)” อย่าลืมว่าต้องออกเสียงให้ชัดเจนเวลาร่าย ท่าทางในการร่าย การจะเสกคาถาอากัวเมนตีนั้น คุณจะต้องโบกไม้กายสิทธิ์ให้เป็นรูปคลื่น จากซ้ายไปขวา (ตามรูป Fig. B)
อารัมภบท ————————————————– ————————————————– ฉันเกิดในครอบครัวที่ยากจน เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่สาวเก้าคน รวมตัวฉัน สมัยที่ฉันยังเด็ก ยังไม่มีตำราคาถาสำหรับแม่มดฝึกหัดอย่างฉันที่จะอธิบายได้ชัดเจนและเข้าใจง่ายๆ หรือจะทำให้ขั้นตอนการใช้เวทมนตร์นั้นลึกลับซับซ้อนน้อยลงเลย ฉันพยายามอย่างมากที่จะทำความเข้าใจกับบทเรียนในตำราเก่าคร่ำครึที่ทางโรงเรียนให้ฉันมา ตอนกลับบ้าน การฝึกฝนคาถาของฉันก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของพี่สาวเจ้าเล่ห์ทั้งหลายของฉัน ที่พยายามจะกลั่นแกล้งให้ฉันฝึกใช้คาถาอย่างผิดๆ เสื้อคลุมตกทอดนั้นก็แค่ทำให้ฉันอับอายเฉยๆ แต่คาถาตกทอดนั้นสามารถก่อให้เกิดให้อันตรายได้ …
บทที่ 1 ในบทนี้ เราจะมาเรียนรู้คาถาที่เหมาะสมต่อการพัฒนาทักษะทางไม้กายสิทธิ์ของคุณ ซึ่งมีอยู่จำนวนสี่บทด้วยกัน คาถาใหม่ๆ เหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อวิชาชีพของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเสกให้วัตถุลอยได้ หรือทำให้ที่มืดสว่างขึ้นด้วยแสงไฟ คาถาลอยตัว (LEVITATION CHARM) คาถาลอยตัวเป็นหนึ่งในคาถาบทแรกๆ ที่พ่อมดวัยเยาว์ได้ร่ำเรียนกัน เพียงร่ายคาถาพร้อมกับสะบัดไม้ก็สามารถทำให้วัตถุลอยตัวได้แล้ว คาถาลอยตัวเป็นคาถาที่ดีต่อการทดสอบความสามารถทางเวทมนตร์ รวมไปถึงการควบคุมไม้กายสิทธิ์ของคุณ และเหนือสิ่งอื่นใด คือความอดทน คาถาลอยตัวได้รับการประดิษฐ์ขึ้นในปีค.ศ. 1544 โดยผู้วิเศษนาม จาร์เล็ธ โฮบาร์ต (Jarleth Hobart) ผู้มีความเชื่อผิดๆ ว่าเขาได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่สังคมผู้วิเศษพยายามทำและล้มเหลวมาตลอด ซึ่งก็คือการบิน …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ความชอบของพ่อมดแม่มดที่มีต่อรักบี้ทีมชาติสกอตแลนด์นับว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าพิสดาร เพราะสังคมผู้วิเศษส่วนมากนั้น ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับกีฬาของมักเกิ้ล ซึ่งพวกเขามักจะมองว่าเป็นกีฬาที่จืดชืดและงี่เง่าสิ้นดี อย่างไรก็ตาม รักบี้ทีมชาติสกอตแลนด์ ก็ได้กลายมาเป็นกระแสของโลกเวทมนตร์ ซึ่งเป็นทั้งเรื่องขบขัน เป็นทั้งสิ่งที่พ่อมดแม่มดส่วนหนึ่งให้ความสนใจ เรื่องราวเหล่านี้ได้ถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่สิบเก้า มันเป็นเรื่องราวที่สุขและเศร้าคละเคล้ากันไป ครอบครัวพ่อมดตระกูลบูแคนัน (Buchanan) อาศัยอยู่ในหมู่บ้านบริเวณพรมแดนสกอตแลนด์มาหลายชั่วอายุคนแล้ว ชื่อเสียงในด้านของความรุนแรงและความเมามาย รวมไปถึงรูปร่างที่ใหญ่โตมโหฬาร (เท่าที่จำความได้ ลำพังเพียงลูกสาวจากบ้านบูแคนันคนเดียวก็สามารถเอาชนะกีฬาชักเย่อประจำหมู่บ้านทุกปีได้) ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าไปสุงสิงกับพวกเขา และไม่มีใครล่วงรู้ถึงความสามารถทางเวทมนตร์ของครอบครัวนี้อีกด้วย เมื่อใดก็ตามที่เด็กจากบ้านบูแคนันอายุครบสิบเอ็ดปี พวกเขาจะหายตัวไปทีละคนๆ (เพื่อเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนที่ฮอกวอตส์) มีเสียงกระซิบกระซาบกันในหมู่บ้านว่า เด็กตัวใหญ่คึกคะนองพวกนั้นล้วนถูกพาตัวไปส่งยังสถานดัดสันดาน หรือยิ่งกว่านั้นที่สถานบำบัดจิต ในช่วงกลางศตวรรษที่สิบเก้า …
สำนักงานข่าว CNBC ได้เสนอชื่อ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ให้เป็น 1 ใน 200 คนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก CNBC จัด เจ.เค.โรว์ลิ่ง ถือเป็นหนึ่งในสองร้อยคนของโลก ที่มีอิทธิพลทางธุรกิจอย่างมากตลอดยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา CNBC กล่าวว่ารายชื่อนี้รวบรวม “กลุ่มชายหญิงที่ถูกคัดเลือกมาแล้วว่าได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ใน แวดวงธุรกิจ แวดวงการค้า และวิถีชีวิตของพวกเรา” CNBC ยังอธิบายว่ารายชื่อของพวกเขานั้น คือรายชื่อกลุ่มคนสองร้อยคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด จุดประกายการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และทำให้เกิดความวุ่นวายทางธุรกิจตลอดเสี้ยวศตวรรษที่ผ่านมา รายชื่อนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบยี่สิบห้าปีของสำนักงานข่าว CNBC และในอีกหลายเดือนข้างหน้า รายชื่อจะค่อยๆ หดลง จนเหลือเพียงยี่สิบห้าอันดับเท่านั้น …
เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง เดิร์มสแตรงก์ (Durmstrang) เดิร์มสแตรงก์เป็นโรงเรียนสำหรับพ่อมดแม่มดวัยเยาว์ที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยสู้ดีนัก และเป็นที่รู้กันดีว่าให้ความสำคัญกับการสอนศาสตร์มืดอย่างมาก แต่เดิมนั้น เดิร์มสแตรงก์มีชื่อเสียงในแง่ลบที่สุดในบรรดาโรงเรียนเวทมนตร์ทั้งสิบเอ็ดโรงเรียน แม้จะไม่สมควรได้รับชื่อเสียงนี้เท่าไหร่ มันเป็นความจริงที่ว่าเดิร์มสแตรงก์ โรงเรียนที่ผลิตพ่อมดแม่มดเก่งกาจหลายคนออกมานั้น เคยตกอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อมดที่ภักดีจนน่าสงสัย หรือมีเจตนามุ่งร้ายถึงสองหนในประวัติศาสตร์ รวมไปถึงอดีตนักเรียนเดิร์มสแตรงก์ที่สร้างชื่อเสียงอันเลวทรามให้กับโรงเรียนอีกด้วย ชายคนแรกในบรรดากลุ่มคนที่ไม่น่าอภิรมย์เหล่านั้น คือ ฮาร์แฟงก์ มุนเธอร์ (Harfang Munter) ผู้เข้าควบคุมโรงเรียนหลังการเสียชีวิตของผู้ก่อตั้งโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ เนริดา วุลชาโนวา (Nerida Vulchanova) แม่มดผู้ยิ่งใหญ่แห่งบัลแกเรียอย่างมีเงื่อนงำ มุนเธอร์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ด้วยการฝึกสอนการต่อสุ้ตัวต่อตัว และเวทมนตร์การต่อสู้ทุกแขนง ซึ่งปัจจุบันยังคงนับว่าเป็นหนึ่งในหลักสูตรที่โดดเด่นและน่าประทับใจ …
หลังจากที่เราประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การสร้างแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบันตอนสุดท้าย จะถูกปล่อยออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ และเราคิดว่าคุณคงจะเพลิดเพลินกับการได้ยินประสบการณ์โดยตรงจากสมาชิกในทีมครีเอทีฟในการสร้างตอนสุดท้ายนี้ โปรดทราบไว้ว่า ข้อมูลในบทความนี้อาจจะสปอยล์คุณได้ หากคุณยังอ่านหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ไม่จบ __________________________________________________________________ Q: คุณอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่ A: ฉันอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่มแรกเมื่อตอนอายุ 11 ปี หลังจากนั้น ฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอเล่มสองออกอย่างใจจดใจจ่อ ตลอดจนถึงเล่มๆ อื่นที่ตามมาในชุดนี้ …
รายละเอียดต่อไปนี้ กล่าวถึงพลังและคุณสมบัติของไม้ที่ใช้ทำไม้กายสิทธิ์ชนิดต่างๆ ที่ถูกบันทึกขึ้นในการทำงาน ด้วยเวลายาวนานในสายอาชีพนี้ ของนายการ์ริก โอลลิแวนเดอร์ (Mr Garrick Ollivander) ผู้เป็นที่สนใจอย่างแพร่หลายในฐานะ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ชั้นเยี่ยมของโลก เฝ้าดูนายโอลลิแวนเดอร์ ผู้เชื่อว่าไม้ที่ใช้ทำไม้กายสิทธิ์ มีความสามารถแทบจะเท่ามนุษย์ในการรับรู้และพึงพอใจ โอลลิแวนเดอร์บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับไม้ที่ใช้ทำไม้กายสิทธิ์ ดังนี้ : ไม้กายสิทธิ์ทุกอันมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ขึ้นกับชนิดของไม้และส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์วิเศษที่นำมาใช้เป็นแกนกลาง นอกจากนี้ ไม้กายสิทธิ์แต่ละอัน เมื่อเจอเจ้าของที่คู่ควรและเหมาะสม มันจะเริ่มเรียนรู้และพร่ำสอนผู้เป็นเพื่อนมนุษย์ของมันอีกด้วย บันทึกต่อไปนี้จะแสดงถึงรายละเอียดของไม้ต่างๆ ที่ผมชอบเลือกใช้ประดิษฐ์ไม้กายสิทธิ์ โดยผมจะไม่บรรยายถึงไม้กายสิทธิ์เฉพาะอันนอกจากชนิดไม้เท่านั้น มีชนิดไม้ส่วนน้อยมากที่สามารถนำมาผลิตเป็นไม้กายสิทธิ์ที่ดีได้ (เช่นเดียวกับส่วนน้อยของมนุษย์ที่สามารถร่ายเวทมนตร์คาถาได้) มันต้องใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายปีถึงจะบอกได้ว่าอันไหนมีพรสวรรค์ …
ในตอนแรกของเบื้องหลังตราสัญลักษณ์บ้านทั้งสี่นั้น เราได้นำผลงานของทีม Atomhawk Design ซึ่งออกแบบตราสำหรับบ้านกริฟฟินดอร์และเรเวนคลอมาให้ชมแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้ เราจะมาดูกันว่า พวกเขามีวิธีการสร้างตราสัญลักษณ์ของบ้านฮัฟเฟิลพัฟและบ้านสลิธีรินอย่างไร สร้างความเหมาะสมและบุคลิกภาพ คุณคงจะจำได้ว่าในตอนแรกนั้น ทีมงานได้โฟกัสไปยังคำอธิบายของเจ.เค โรว์ลิ่งในการสร้างตราสัญลักษณ์บ้าน โดยสะท้อนถึงจุดเด่นและลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบ้าน พวกเขาต้องการเก็บรายละเอียดเพื่อที่จะมอบความภาคภูมิใจในตัวบ้านทั้งหมด การร่างภาพตราสัญลักษณ์ฮัฟเฟิลพัฟ ปรากฏว่า ตราสัญลักษณ์ฮัฟเฟิลพัฟเป็นการสร้างผลงานที่ยากที่สุดของทีม เพราะมันมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับบ้านฮัฟเฟิลพัฟใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ พวกเราทราบว่าจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อที่จะออกแบบตราออกมาให้รู้สึกน่า เชื่อถือ และแสดงออกถึงธรรมชาติของบ้านฮัฟเฟิลพัฟ มีการตั้งคำถามมากมายว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ตัวแบดเจอร์แสดงออกถึงการเป็นสัตว์ที่มีความหนักแน่น …
มีพวกคุณจำนวนมากที่พร่ำบอกเราว่าคุณชื่นชอบงานศิลป์ของ Pottermore มาก ทางเราจึงคิดว่าคุณอาจอยากจะดูเบื้องหลังของการออกแบบตราทั้งหลาย เราได้พูดกับทีมงานออกแบบ Atomhawk Design ที่รับผิดชอบในด้านภาพประกอบตกแต่งของ Pottermore โดยในหน้านี้ พวกเราจะมาดูกันถึงเบื้องหลังความสำเร็จในการออกแบบตราสัญลักษณ์ของบ้านเร เวนคลอ และกริฟฟินดอร์ เริ่มแรก จุดเริ่มต้นของแต่ละบ้านนั้นเริ่มจากตราฮอกวอตส์ ซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกบนหน้านำเรื่องของหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ และแสดงถึงบ้านสี่หลังในฮอกวอตส์ ภาพวาดต้นฉบับของตราฮอกวอตส์กับคำอธิบายเกี่ยวกับบ้านที่ เจ.เค.โรว์ลิ่งเขียนไว้ เป็นแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมของพวกเราในการออกแบบตราที่ไม่เหมือนใครให้กับ Pottermore ขั้นตอน นักออกแบบเริ่มต้นด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดที่จะรวบรวมความเป็น ธาตุสี่ อันได้แก่ ไฟ …