เนื้อหาใหม่จาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง
คาถาผู้พิทักษ์เป็นคาถาป้องกันที่มีชื่อเสียงที่สุด (และเป็นที่รู้กันว่าเสกได้ยากมาก) จุดมุ่งหมายคือการสร้างผู้คุ้มครองหรือผู้พิทักษ์ ซึ่งเป็นรูปร่างของสัตว์ที่มีสีขาวเงิน รูปร่างที่แท้จริงของผู้พิทักษ์จะยังไม่ชัดเจน จนกว่าจะร่ายคาถาได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากจะเป็นหนึ่งในคาถาป้องกันที่มีพลังอำนาจมากที่สุด ซึ่งรู้กันดีในหมู่ผู้วิเศษ คาถาผู้พิทักษ์ยังถูกใช้ส่งสารระหว่างผู้วิเศษอีกด้วย ในฐานะที่เป็นพลังทางด้านเวทมนตร์แห่งความสุขและความหวัง ที่สามารถใช้ป้องกันตัวได้อย่างสมบูรณ์ (การรำลึกถึงความทรงจำซึ่งเป็นเรื่องดีๆ เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสิ่งเหล่านี้) มันจึงเป็นคาถาเดียวเท่านั้นที่ใช้ได้ผลดีในการต่อสู้กับผู้คุมวิญญาณ พ่อมดและแม่มดส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างผู้พิทักษ์ได้ และการสร้างผู้พิทักษ์ได้ โดยทั่วไปถือว่าเป็นเครื่องหมายของความสามารถทางเวทมนตร์ขั้นสูง
พ่อมดแม่มดบางคนอาจสร้างผู้พิทักษ์ที่ไม่มีรูปร่างได้ โดยมีลักษณะคล้ายกลุ่มก้อนของไอน้ำหรือหมอกบาง ๆ สีเงิน บางครั้งพ่อมดแม่มดก็เลือกสร้างผู้พิทักษ์ที่ไม่เป็นรูปร่างด้วยความตั้งใจ เมื่อพวกเขาต้องการอำพรางรูปร่างที่แท้จริงของมัน (ตัวอย่างเช่น รีมัส ลูปิน ซึ่งเกรงว่าผู้พิทักษ์ที่มีรูปร่างจะเปิดเผยให้รู้ว่าเป็นผู้พิทักษ์ของเขามากจนเกินไป) ผู้พิทักษ์ที่ไม่มีรูปร่างนี้ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ที่แท้จริง ในขณะเดียวกัน ยังให้การคุ้มครองที่มีขอบเขตจำกัด มันไม่สามารถให้พลังปกป้องคุ้มครองได้เหมือนผู้พิทักษ์ที่เป็นรูปร่าง ซึ่งมีลักษณะและรูปร่างของสัตว์
คาถาผู้พิทักษ์เป็นหนึ่งในคาถาที่เก่าแก่ที่สุด และปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์เวทมนตร์ยุคต้นหลายเรื่อง แม้จะมีความสัมพันธ์กับการต่อสู้เพื่อช่วงชิงตำแหน่งชั้นสูงมาอย่างยาวนาน (ผู้ที่สามารถสร้างผู้พิทักษ์ให้มีรูปร่างมักได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสูงภายในศาลสูงวิเซ็นกาม็อตและกระทรวงเวทมนตร์) แต่คาถาผู้พิทักษ์ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่พ่อมดฝ่ายมืด ขณะเดียวกันก็มีความเชื่อที่แพร่หลายและมีเหตุผลว่า ผู้วิเศษที่ไม่มีหัวใจอันบริสุทธิ์จะไม่สามารถสร้างผู้พิทักษ์ที่สมบูรณ์ได้ (ตัวอย่างของการเสกคาถาที่ส่งผลตรงกันข้ามกับที่ตั้งใจ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด ก็คือ พ่อมดศาสตร์มืดที่ชื่อ แรคซิเดียน (Raczidian) ผู้ซึ่งถูกกัดกินด้วยหนอนแมลงวัน) พ่อมดแม่มดที่มีปัญหาทางศีลธรรมจำนวนน้อยคนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการเสกคาถานี้ (อย่าง โดโลเรส อัมบริดจ์ ซึ่งสามารถเสกผู้พิทักษ์ที่เป็นแมว เพื่อปกป้องคุ้มกันเธอจากพวกผู้คุมวิญญาณ) นั่นอาจเป็นเพราะความศรัทธาอย่างแท้จริง และความเชื่อมั่นในความถูกต้องของการกระทำของคนคนหนึ่ง สามารถสร้างความสุขที่จำเป็นต่อการร่ายคาถานี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งชายและหญิงที่มีการตอบสนองน้อยต่อผลที่เกิดจากพวกสัตว์ฝ่ายมืด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับพวกเขาเหล่านั้น ถือว่าคาถาผู้พิทักษ์เป็นคาถาที่ไม่จำเป็นที่จะต้องมีไว้ในคลังคาถาของพวกเขาเลย
ไม่มีกระบวนการใดที่น่าเชื่อถือได้เลย เท่าที่มีการค้นพบมา สำหรับการทำนายรูปร่างผู้พิทักษ์ของแต่ละบุคคล แม้ว่าศาสตราจารย์คาทัลลัส สแปงเกิล (Professor Catullus Spangle) ผู้วิจัยด้านคาถาที่มีชื่อเสียงมากในศตวรรษที่ 18 จะเริ่มต้นสร้างหลักการที่แน่นอน ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นความจริง
สแปงเกิลยืนยันว่า ผู้พิทักษ์เป็นตัวแทนของสิ่งที่ถูกซุกซ่อนไว้โดยไม่รู้ตัว แต่มีอยู่แน่แท้ภายในตัวตนของแต่ละคน “เป็นที่ประจักษ์” เขาใช้คำนี้ใน คาถาสำหรับการป้องกันและยับยั้ง (Charms of Defence and Deterrence) ซึ่งเป็นงานเขียนชิ้นเอกของเขา:
‘… เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับปิศาจที่ไร้มนุษยธรรมอย่างผู้คุมวิญญาณ ที่จะดึงเอาสิ่งเลวร้ายของเขาหรือเธอออกมา ผู้พิทักษ์ก็คือตัวตนที่ถูกซ่อนเร้นไว้อย่างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงคราวจำเป็นจึงแสดงตัวออกมา…’
สแปงเกิลอธิบายถึงการปรากฏตัวของผู้พิทักษ์ ในรูปร่างที่ผู้ร่ายคาถาอาจไม่ได้คาดคิด เขาเหล่านั้นไม่เคยรู้สึกถึงความสัมพันธ์พิเศษนี้ ไม่แม้แต่จะระลึกได้
สแปงเกิลยังสนใจเกี่ยวกับพ่อมดแม่มดที่เป็นข้อยกเว้น ซึ่งสามารถสร้างผู้พิทักษ์เป็นรูปร่างของสัตว์ที่ตนเองชื่นชอบด้วย เขาระบุว่า…
‘เป็นความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ของผมเลยว่า ผู้พิทักษ์เป็นตัวบ่งชี้สิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจหรือสิ่งผิดปกติบางอย่าง ซึ่งผู้วิเศษผู้นั้นไม่อาจซ่อนอัตตาของตนเองในวิถีชีวิตปกติทั่วไปได้ ผู้วิเศษโดยเนื้อแท้อาจแสดงจุดประสงค์พิเศษบางอย่าง ซึ่งคนทั่วไปเลือกที่จะปกปิดไว้มากกว่า สำหรับรูปร่างของผู้พิทักษ์ประเภทนี้ คุณต้องระมัดระวังว่าใช้เพื่อแสดงออกถึงความเคารพนับถือ หรือใช้เพื่อเป็นคำเตือน ขึ้นอยู่กับการเลือกของพ่อมดแม่มดที่สร้างผู้พิทักษ์เอง’
รูปร่างของผู้พิทักษ์อาจจะเปลี่ยนไปตามเหตุการณ์ในชีวิตของพ่อมดแม่มด เช่น การเปลี่ยนรูปร่างของผู้พิทักษ์เนื่องจากการสูญเสียคนใกล้ชิด การตกหลุมรัก หรือการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งในบุคลิกลักษณะของแต่ละคน เช่น ผู้พิทักษ์ของนิมฟาดอร่า ท็องส์ ที่เปลี่ยนรูปจากกระต่ายป่า (Jack Rabbit)* ไปเป็นหมาป่า (ไม่ใช่มนุษย์หมาป่า) เมื่อเธอตกหลุมรัก รีมัส ลูปิน พ่อมดแม่มดบางคนไม่สามารถเสกคาถาผู้พิทักษ์ได้เลย จนกระทั่งประสบเหตุการณ์ที่สะเทือนใจหรือตกใจสุดขีด
มันเป็นเรื่องปกติและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ผู้พิทักษ์จะมีรูปร่างเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามธรรมชาติในพื้นที่ซึ่งผู้เสกคาถาอาศัยอยู่ บางครั้งจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า การที่มนุษย์ให้ความใกล้ชิดกับสัตว์เป็นเวลานาน ทำให้ผู้พิทักษ์มีรูปร่างเป็นสัตว์ที่ธรรมดาที่สุด อย่างสุนัข แมว และม้า (กระนั้นก็ต้องระลึกไว้ว่า ไม่ว่าผู้พิทักษ์จะมีรูปร่างเป็นอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นสิ่งพิเศษอย่างมาก) อย่างไรก็ตาม ผู้พิทักษ์ทุกแบบจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้ที่สร้างมันขึ้นมา และแม้ว่าจะเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันทุกประการ ก็ยังสร้างผู้พิทักษ์ได้ต่างกัน
การมีผู้พิทักษ์เป็นรูปร่างของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเป็นกรณีที่เกิดได้น้อยมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี น่าแปลกที่ความผูกพันยาวนานกับผู้วิเศษ ทำให้ผู้พิทักษ์ที่เป็นนกฮูกกลายเป็นสิ่งพิเศษ แต่ผู้พิทักษ์ที่พบได้น้อยที่สุด คือผู้พิทักษ์ที่มีรูปร่างเป็นสัตว์วิเศษ เช่น มังกร เธสตรอล และนกฟีนิกซ์ และต้องไม่ลืมด้วยว่า หนึ่งในสัตว์ที่เป็นผู้พิทักษ์ที่รู้จักกันดีที่สุดตลอดเวลาที่ผ่านมา คือ หนูธรรมดาๆ ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ของพ่อมดน้อยในตำนาน ชื่อ อิลเลียส (Illyius) ผู้ที่ใช้ผู้พิทักษ์เพื่อหยุดยั้งการโจมตีของกองทัพผู้คุมวิญญาณเพียงลำพัง ขณะที่ผู้พิทักษ์ที่มีเวทมนตร์และหาได้ยากสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ใครมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้น หรือน่าชื่นชมยินดีมากไปกว่าความสำเร็จในการปกป้องคุ้มครองให้แก่ผู้ร่ายคาถา
*กระต่าย Jack Rabbit เป็นกระต่ายป่าขนาดใหญ่ในอเมริกาเหนือ มีหูและขาหลังยาวมาก
ต้นฉบับภาษาอังกฤษ: https://www.pottermore.com/writing-by-jk-rowling/patronus-charm
บทความที่เกี่ยวข้อง