หนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์มีทั้งหมด 7 เล่มถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งหมด 8 ภาค สร้างกระแสให้เกิดสาวกที่ติดตามแฮร์รี่ พอตเตอร์ไปทั่วโลก ในกลุ่มสาวกแน่นอนว่าก็มีหลายแบบ กลุ่ม 1-ติดตามแค่ภาพยนตร์และไม่เคยอ่านหนังสือเลย (พูดเลยว่าคุณพลาดรายละเอียดความมันสุดๆแล้วล่ะ!!) กลุ่ม 2-พอใจติดตามแค่หนังสือ และกลุ่ม 3-ติดตามทั้งสองอย่าง
แน่นอนว่าในแบบฉบับภาพยนตร์มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาเป็นหลัก รายละเอียดข้อมูลย่อมละเอียดสู้ในหนังสือไม่ได้ เลยทำให้เกิดปมเนื้อหามากมายที่คนที่ไม่อ่านหนังสือแล้วไปดูภาพยนตร์อย่างเดียวต้องมึนงงว่า เอ๊ะ! มันเกิดขึ้นได้ไงนะ นี่ยังไม่นับอีกว่าข้อมูลยิบย่อยหลายอย่างถูกเปลี่ยนแปลงต่างไปจากหนังสืออีก และเพราะแบบนี้เมื่อมีการคุยกันเรื่องรายละเอียดแฮร์รี่ พอตเตอร์เกิดขึ้น ซึ่งโดยส่วนมากกลุ่มที่คุยจะยึดรายละเอียดจากหนังสือเป็นหลักมากกว่า พอมีคนที่ดูแต่ภาพยนตร์อย่างเดียวมาร่วมวงก็อาจจะงงจนพูดอ้างข้อมูลผิดกันไปคนละทางได้
ถ้างั้นเรามาดูกันหน่อยไหมว่ามีประเด็นโดดเด่นอันไหนบ้างที่หนังสือกับภาพยนตร์ต่างกัน (จริงๆมีหลายประเด็นมากๆแต่คัดเอาอันเด่นๆที่คนกลุ่ม 3 จำกันได้ดีมาดีกว่า) จะได้แยกแยะกันถูกนะจ๊ะคนกลุ่ม 1-2 ^^
*ฉากในภาพยนตร์ที่ใช้ในการอ้างอิงยึดตามพวกฉากที่มีในภาพยนตร์หลักเท่านั้น ไม่ได้นับรวมพวกฉากที่ถูกตัดออก (Deleted scenes)
1.สมาชิกกองระวังหน้า
ในหนังสือ: ต้องมี 9 คน คือ รีมัส ลูปิน, อลาสเตอร์ มู้ดดี้, นิมฟาดอร่า ท็องส์, คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์, เอลฟายอัส โดจ, ดีดาลัส ดิกเกิ้ล, เอมเมอลีน แวนซ์, สเตอร์จิส พอดมอร์, เฮสเทีย โจนส์
ในภาพยนตร์: มีแค่ 5 คน คือ อลาสเตอร์ มู้ดดี้, นิมฟาดอร่า ท็องส์, คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์, เอลฟายอัส โดจ, เอมเมอลีน แวนซ์
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: นโยบายประหยัดคน ประหยัดงบ จบข่าว!
2.ปัทมาหลงบ้าน
ในหนังสือ: ปัทมา พาติลอยู่บ้านเรเวนคลอ และเป็นพรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอ
ในภาพยนตร์: ปัทมา พาติลอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ และเป็นแค่นักเรียนธรรมดาทั่วไป
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: ก็ยังงงมาถึงทุกวันนี้ว่าทีมงานจะเปลี่ยนบ้านให้ทำไมเนี่ย อ่อ ที่จริงนางหลงบ้านตั้งแต่ภาค 4 แล้ว (แต่ขอมาเม้าท์ภาค 5 ละกัน) นางใส่ชุดกริฟฟินดอร์หราเลยค่า!!! ทั้งๆที่จริงตามในหนังสือภาคนี้นางเริ่มโดดเด่นขึ้นมาในฐานะพรีเฟ็คหญิงแล้วเชียวนะ (แต่จะว่าไปทีมงานก็ไม่ค่อยให้ความสนใจประเด็นพรีเฟ็คในภาพยนตร์ภาคนี้เลยอยู่ดี)
3.ชีวิตพลิกผันของโช
ในหนังสือ: โชเป็นรุ่นพี่แฮร์รี่ 1 ปี และมีปัญหากับแฮร์รี่เพราะเพื่อนของเธอ (มารีเอตต้า เอจคอมป์) บอกเรื่องกองทัพดัมเบิลดอร์ให้อัมบริดจ์รู้
ในภาพยนตร์: โชเรียนรุ่นเดียวกับแฮร์รี่ (อ้างอิงจากคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ที่ว่าโชกังวลเรื่องผลสอบว.พ.ร.ส. และที่ในภาพยนตร์ภาค 7.2 โชยังใส่ชุดนักเรียนอยู่) และมีปัญหากับแฮร์รี่เพราะถูกอัมบริดจ์ล่อให้ดื่มสัจจะเซรุ่มเพื่อบอกเรื่องกองทัพดัมเบิลดอร์ให้อัมบริดจ์รู้
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: โดยส่วนตัวสงสารโชนะ ไม่ชอบให้ทีมงานภาพยนตร์วางบทให้โชเป็นแบบนี้ ถ้าแฮร์รี่กับโชต้องเลิกกันก็อยากให้เลิกกันเพราะโชเข้าข้างมารีเอตต้า และเข้าใจผิดแฮร์รี่เรื่องเฮอร์ไมโอนี่ ตามประสาผู้หญิงงี่เง่าจอมดราม่าเจอผู้ชายขี้วีนแบบในหนังสือมากกว่า มันดูมีน้ำหนัก สมเหตุสมผลในการเลิกกันของวัยรุ่นมากกว่า ไม่ใช่มาทิ้งปมให้แฮร์รี่ต้องมารู้ทีหลังว่าจริงๆโชถูกอัมบริดจ์หลอก ไม่ใช่ตั้งใจทรยศจริงๆ แต่ก็อย่างว่านโยบายประหยัดคน ไม่ต้องมีมารีเอตต้า จบเลย!
4.คนบอกเรื่องห้องต้องประสงค์ให้แฮร์รี่รู้
ในหนังสือ: ด๊อบบี้เป็นคนบอก ด๊อบบี้รู้เรื่องห้องนี้มาจากเอลฟ์ประจำบ้านอื่นๆของฮอกวอตส์ และเคยใช้ห้องตอนซ่อนวิงกี้ช่วงเมาบัตเตอร์เบียร์และดูแลวิงกี้จนหายเมา
ในภาพยนตร์: เนวิลล์เป็นคนไปเจอโดยบังเอิญแล้วมาบอกแฮร์รี่
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: อดเจอด๊อบบี้เลย เซ็งอ่ะ ทีมงานก็ขยันให้เนวิลล์ทำหน้าที่แทนด๊อบบี้ซะจัง
5.ฝันเตือนภัยและการเรียนสกัดใจ
ในหนังสือ: พอแฮร์รี่ฝันเห็นว่านายวีสลีย์ถูกงูกัด ดัมเบิลดอร์ก็เสกกุญแจนำทางให้แฮร์รี่ รอน จินนี่ เฟร็ด จอร์จใช้ไปบ้านกริมโมลด์เพลซทันที แล้วพวกเด็กวีสลีย์ แฮร์รี่ กับเฮอร์ไมโอนี่ได้ไปเยี่ยมนายวีสลีย์ที่โรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโกเพื่อผู้ป่วยและบาดเจ็บทีหลัง (บังเอิญเจอล็อกฮาร์ตกับพ่อแม่เนวิลล์ด้วย) และแฮร์รี่มาเรียนสกัดใจกับสเนปทีหลัง และแฮร์รี่เองก็เห็นความทรงจำเลวร้ายของสเนปผ่านเพนซิฟ
ในภาพยนตร์: พอแฮร์รี่ฝันเห็นว่านายวีสลีย์ถูกงูกัด ดัมเบิลดอร์จัดการเสกกุญแจนำทางให้รอน จินนี่ เฟร็ด จอร์จใช้ไปบ้านกริมโมลด์เพลซ และสั่งให้แฮร์รี่มาเรียนสกัดใจกับสเนปทันที โดยไม่มีฉากไปเยี่ยมนายวีสลีย์ที่โรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโกเพื่อผู้ป่วยและบาดเจ็บเลย ส่วนเรื่องที่แฮร์รี่เห็นความทรงจำเลวร้ายของสเนปเกิดในช่วงสเนปคุมอารมณ์ไม่อยู่และแฮร์รี่ใช้คาถาเกราะวิเศษ (โพรเทโก้) มาขัดคาถาพินิจใจ (เลกจิลิเมนส์) ของสเนปด้วย
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: ระยะเวลาภาพยนตร์มีน้อย เลยดำเนินเรื่องกระชับเลยไง แต่ถ้าให้เห็นความทรงจำผ่านเพนซิฟ พวกเราคงได้ดูฉากเรื่องของพ่อแม่แฮร์รี่ได้ยาวกว่านี้นะ และน่าเสียดายอดเห็นคนป่วยด้วยโรคแปลกๆในโรงพยาบาลเลย
6.เฟร็ดกับจอร์จโบยบินสู่อิสรภาพ
ในหนังสือ: ก่อนเฟร็ดกับจอร์จบินหนีไป 2 คนนี้สร้างความปั่นป่วนโดยทิ้งหนองน้ำไว้ที่ระเบียงทางเดิน (ใช้ผลิตภัณฑ์หนองน้ำกระเป๋าหิ้ว)
ในภาพยนตร์: ก่อนเฟร็ดกับจอร์จบินหนีไป 2 คนนี้สร้างความปั่นป่วนโดยป่วนการสอบว.พ.ร.ส. และอัมบริดจ์ด้วยดอกไม้ไฟชุดใหญ่
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: ฉากนี้บอกเลยว่าชอบแบบภาพยนตร์มากกว่า สะใจดี
7.เหตุการณ์ในกองปริศนา
ในหนังสือ: กองปริศนาลึกลับมาก มีของแปลกๆเยอะ เช่น สมองที่รัดคอคนได้, พวกผู้เสพความตายมากัน 12 คน, เนวิลล์เป็นคนทำลูกแก้วแตก
ในภาพยนตร์: กองปริศนาลึกลับน้อยไป ไม่มีของแปลกๆ, พวกผู้เสพความตายมาน้อยกว่า 12 คน, ลูเซียสรับลูกแก้วไม่ทัน ลูกแก้วเลยแตก
ความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนบทความ: เสียดาย ภาพยนตร์น่าจะทำฉากกองปริศนาให้สนุกกว่านี้ (มัวโฟกัสที่ฉากการต่อสู้ของดัมเบิลดอร์กับโวลเดอมอร์สินะ) ในหนังสือดูลึกลับ น่ากลัว และพวกเด็กๆได้สู้ดุเดือด หาทางเอาตัวรอดกันมากกว่า