นับตั้งแต่สำนักพิมพ์บลูมส์บิวรี่ (Bloomsbury) ได้ประกาศให้ทราบในปี ค.ศ.2013 ว่ากำลังจัดพิมพ์นวนิยายแฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้งเจ็ดเล่มของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง (J.K.Rowling) ในรูปแบบที่มีภาพประกอบ จิม เคย์ (Jim Kay) นักวาดภาพประกอบที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ก็เริ่มทำงานอย่างเต็มที่เพื่อนำโลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ออกมาสู่ความมีชีวิตชีวา
เคย์ซึ่งยอมรับว่าประหลาดใจในการควบคุมตนเอง กล่าวว่า การวาดภาพประกอบหนังสือเล่มแรกเป็นงานที่ ‘ยากเป็นพิเศษ’ “มันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าจะต้องทำอะไรมากแค่ไหน แต่อยู่ตรงที่ความกดดันมากกว่าครับ ทุกครั้งที่ผมนั่งลงตรงหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า ผมจะรู้สึกเหมือนกำลังจับมือทักทายอยู่กับความกดดัน!”
เขาใช้เวลา 12 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างสรรค์ให้จักรวาลทั้งหมดของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ออกมาให้เห็นเป็นภาพ เริ่มต้นจากฮอกวอตส์ที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนพลาสติกเพื่อเป็นแบบจำลองของโรงเรียน และตรวจสอบทุกๆ อย่างให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และ “ตกแต่งด้วยทิศทางที่เหมาะสม”
ส่วนหนึ่งของภาพประกอบที่วาดยากที่สุด คือภาพของเหล่าเด็กๆ จากหนังสือ เขากล่าวว่าส่วนสำคัญอยู่ที่การเพิ่มลายเส้นดินสอเข้าไปนั้น ทำให้ “อายุของพวกเด็กๆ เพิ่มขึ้นเป็นสิบปี” ดังนั้น เขาจึงออกแบบให้รูปภาพของเขาอยู่บนพื้นฐานของเด็กจริงๆ
ขณะกำลังวาดภาพแฮร์รี่ เขาจินตนาการถึงบุคลิกของ “เด็กที่มีความพยายามมุ่งมั่นจะทำบางอย่างให้สำเร็จ ชอบต่อสู้ กระตือรือร้น” แต่กระนั้นเคย์ก็ไม่สามารถค้นพบบุคลิกเช่นนั้นได้เสียทีเดียว จนกระทั่งเขาได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดินในลอนดอน “ผมขอร้องแม่ของเขาว่าขออนุญาตวาดภาพเขา และได้ให้นามบัตรของผมไป ผมใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการถ่ายภาพของเด็กชายคนนั้น – ผมบอกเขาไม่ได้จริงๆ ว่าเขากำลังจะกลายเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์”
สำหรับแรงบันดาลใจของเคย์เกี่ยวกับเฮอร์ไมโอนี่นั้นมาจากหลานสาวของเขาเอง ซึ่ง “เหมือนเฮอร์ไมโอนี่มากทีเดียว โดยเฉพาะในเวลาที่เธอเคลื่อนไหว” และเขายังใช้เพื่อนคนหนึ่งที่เป็นนักวาดภาพประกอบมาเป็นพื้นฐานตอนที่จินตนาการถึงดัมเบิลดอร์ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าใครคือคนคนนั้นก็ตาม
ทุกภาพจะมีรายการโยง (ข้อความที่ชี้บอกผู้อ่านว่าให้ไปอ่านอีกตอนหนึ่งในหนังสือเล่มเดียวกัน) ไม่เพียงเฉพาะในหนังสือนวนิยายแฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้งเจ็ดเล่ม แต่ยังรวมไปถึงหนังสือเล่มอื่นของเจ.เค.โรว์ลิ่งที่เกี่ยวข้องกับโลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วย ตัวอย่างเช่น ภาพๆ หนึ่งที่เผยแพร่กันทั่วไปจากเล่มแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ ที่แสดงให้เห็นลักษณะทางกายภาพของโทรลล์ ซึ่งใช้ข้อมูลจากหนังสือเรื่องสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่
เคย์บอกว่าเท่าที่เขารู้มานั้น เจ.เค.โรว์ลิ่ง ผู้ประพันธ์แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่เคยเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย “เธอเป็นคนที่วิเศษมาก เธอแค่ปล่อยให้คุณนำเสนอหลายๆ สิ่งในรูปแบบใหม่ๆ”
เขากล่าวว่า “ผมได้รับจดหมายจากเธอที่บอกว่าเธอชอบมันมากแค่ไหน และนั่นเป็นจดหมายที่ดีที่สุดที่ผมเคยได้รับเลยครับ มันทำให้ผมใช้เวลาหกเดือนเพื่อปลุกกำลังใจในการกลับไปเขียนอีกครั้ง”
ขณะที่วาดภาพประกอบสำหรับหนังสือเล่มแรก เขาใช้วัสดุหลากหลายแตกต่างกันไป ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่กับวิธีใดวิธีเดียว “ผมไม่มีเคล็ดลับอะไร และไม่รู้เลยว่าภาพที่วาดเสร็จแล้วจะออกมาเป็นยังไง ผมใช้อะไรก็ได้ในการทำงาน หนังสือเล่มนี้ใช้สีน้ำและดินสอเป็นส่วนใหญ่ แต่การวาดภาพสีน้ำเป็นงานที่ยาก ดังนั้นจึงมีการใช้สีน้ำมันและสีอะคริลิกร่วมด้วย ผมไม่ได้เป็นคนที่พิถีพิถันเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ ผมทำแปรงพังไปหลายอันแทนที่จะประทับตราอันใหม่ให้สมกับที่พวกเขาอุตส่าห์รังสรรค์เครื่องหมายให้ดูน่าสนใจ
รูปร่างหน้าตาของตัวละครทั้งหลายจะต้องเหมือนกันตลอดเนื้อหาทั้งเจ็ดเล่ม แต่ในเล่มที่สองจะมีภาพลักษณะพิเศษหลากหลายมากกว่า “ในเล่มแรกจะมีภาพเหมือนมากมายและผู้คนที่ยืนอยู่นิ่งๆ ผมต้องจัดฉาก ดังนั้นมันจึงคงที่มากกว่า แต่ในเล่มสองจะมีชีวิตชีวาและมีการเคลื่อนไหวมากกว่า”
วันที่กำหนดจะออกวางจำหน่ายหนังสือที่มีภาพประกอบเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ (ราคา 30 ปอนด์) คือวันที่ 6 ตุลาคมนี้ สำนักพิมพ์บลูมส์บิวรี่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยขนาดของหนังสือชุดนี้ แต่บอกว่าขายลิขสิทธ์เพื่อพิมพ์ถึง 23 ภาษา (หนึ่งในนั้นคือภาษาไทยด้วย)
เคย์ได้ลงนามสัญญาที่จะวาดภาพประกอบให้กับหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้งเจ็ดเล่ม และสำนักพิมพ์บลูมส์บิวรี่ก็วางแผนจะออกวางจำหน่ายปีละเล่ม แม้ว่าเคย์จะบอกไว้ว่าเขาอาจจะหยุดพักหลังจากหนังสือเล่มที่สาม (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน) เพื่อให้เขามีโอกาสทำงานที่ใช้ความคิดของตัวเองสร้างเรื่องราวออกมา
“ผมไม่มีเวลาจะไปทำงานอื่นเลยจริงๆ ในตอนนี้” เขาบอก “แต่ผมก็สามารถทำงานนี้ได้ตลอดทั้งวัน ทุกๆ วัน มันมีหนทางมากมายที่แตกต่างกัน ที่ผมจะใส่มันเข้าไปในงานชิ้นนี้ มันเป็นงานที่ใช้เวลายาวนานมากเลยครับ”