ศาสตราจารย์มักกอนนากัล (Professor McGonagall)

วันเกิด: 4 ตุลาคม
ไม้กายสิทธิ์: ไม้เฟอร์ แกนกลางบรรจุเอ็นหัวใจมังกร ความยาวเก้านิ้วครึ่ง, แข็งทื่อ
บ้านฮอกวอตส์: กริฟฟินดอร์
ความสามารถพิเศษ: แอนิเมจัส (เป็นแมวลายสีเทาที่มีตำหนิชัดเจน)
เชื้อสาย: บิดาเป็นมักเกิ้ล มารดาเป็นแม่มด
ครอบครัว: มีสามีชื่อเอลฟินสโตน เออร์ควอร์ต (Elphinstone Urquart) ซึ่งเสียชีวิตแล้ว และไม่มีบุตร
งานอดิเรก: เย็บปักถักร้อย ตรวจทานบทความในนิตยสารแปลงร่างวันนี้ ชมควิดดิช สนับสนุนทีมมอนโทรส แมกไพส์

ชีวิตในวัยเด็ก

มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล (Minerva McGonagall) เป็นลูกคนแรกและลูกสาวคนเดียวของบาทหลวงผู้สอนศาสนานิกายเพรสไบทีเรียนชาวสกอต (Scottish Presbyterian minister) กับแม่มดผู้จบการศึกษาจากฮอกวอตส์ เธอเติบโตขึ้นในตอนเหนือของสกอตแลนด์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และเธอค่อยๆ ตระหนักว่ามีบางสิ่งแปลกๆ เกี่ยวกับความสามารถและการแต่งงานของพ่อแม่เธอ

***ภายหลังจากภาพยนตร์ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald เข้าฉาย ก็มีการตัดช่วงเวลาเกิดของมิเนอร์ว่าออกไปจาก Pottermore ต้นฉบับ

พ่อของมิเนอร์ว่า บาทหลวงโรเบิร์ต มักกอนนากัล (Robert McGonagall) ได้ประทับใจในความกล้าหาญของอิโซเบล รอส (Isobel Ross) ผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านของเขาโรเบิร์ตเชื่อว่าอิโซเบลเข้าเรียนที่โรงเรียนหญิงล้วนในอังกฤษ ซึ่งความจริงแล้วที่อิโซเบลหายไปจากบ้านเป็นเวลาหลายเดือนนั้น เธอไปเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์

เมื่อทราบว่าพ่อแม่ของเธอ (ซึ่งเป็นพ่อมดและแม่มด) จะไม่ยอมรับความสัมพันธ์ที่จริงจังกับมักเกิ้ลหนุ่ม อิโซเบลจึงเก็บความสัมพันธ์ที่กำลังไปได้ดีไว้เป็นความลับ เมื่อเธออายุได้ 18 ปี เธอเองก็ตกหลุมรักโรเบิร์ต แต่โชคไม่ดีนักที่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นอะไร

การหนีตามกันไป สร้างความโกรธเกรี้ยวให้พ่อแม่ทั้งสองอย่างมาก ตอนนี้เธอตัดขาดกับครอบครัวของเธอแล้ว แต่ถึงกระนั้นอิโซเบลก็ไม่สามารถทำลายความสุขในการฮันนีมูน ด้วยการบอกความจริงแก่สามีคนใหม่ที่เธอหลงรักว่าเธอเรียนจบและเป็นนักเรียนชั้นยอดในวิชาเวทมนตร์คาถาที่ฮอกวอตส์ หรือแม้แต่เคยเป็นกัปตันทีมควิดดิชของโรงเรียน อิโซเบลและโรเบิร์ตย้ายไปอยู่ที่บ้านพักของบาทหลวงแถวชานเมืองเคธเนสส์ (Caithness) ที่ซึ่งอิโซเบลผู้งดงามพิสูจน์ให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจว่าเธอเชี่ยวชาญในการใช้เงินเดือนของบาทหลวงที่น้อยนิดนั้นได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

การให้กำเนิด มิเนอร์ว่า ลูกคนแรกของสามีภรรยาหนุ่มสาวเป็นเหมือนบททดสอบทั้งช่วงเวลาแห่งความสุขและช่วงเวลาแห่งปัญหา ด้วยความคิดถึงครอบครัวและชุนชนผู้วิเศษที่เธอจากมาเพราะความรัก อิโซเบลยืนยันที่จะตั้งชื่อลูกสาวแรกเกิดตามชื่อคุณยายของเธอ แม่มดผู้มีพรสวรรค์มหาศาล ทว่าชื่อที่ประหลาดนี้สร้างความแปลกใจให้แก่คนในชุมชนที่เธออาศัยอยู่ และบาทหลวงโรเบิร์ต มักกอนนากัล ก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายเรื่องชื่อที่ภรรยาเลือกแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตศาสนา นอกจากนี้ เขายังถูกทำให้กลัวด้วยอารมณ์หงุดหงิดของภรรยา ซึ่งเพื่อนของเขาให้ความเชื่อมั่นว่าผู้หญิงมักจะมีอารมณ์แปรปรวนหลังจากที่คลอดลูก และอิโซเบลจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

ทว่าอิโซเบลยิ่งตีตัวออกห่างเขามากขึ้น เธอมักจะแยกตัวไปอยู่กับมิเนอร์ว่าวันละหลายชั่วโมง อิโซเบลรู้ว่าลูกสาวของเธอมี แม้จะเผยออกมาเล็กน้อย แต่ไม่มีทางผิดพลาด เครื่องหมายของเวทมนตร์ออกมาจากตัวเธอตั้งแต่ชั่วโมงแรก ของเล่นที่ถูกวางทิ้งไว้บนชั้นด้านบนหายมาโผล่ในเปลของเธอ แมวของครอบครัวถูกเธอเรียกมาหาก่อนที่เธอจะพูดได้ ปี่สกอตของพ่อเธอเล่นเองเป็นครั้งคราวจากห้องที่อยู่ห่างไกล เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ทารกน้อยมิเนอร์ว่าหัวเราะออกมาเบาๆ

อิโซเบลรู้สึกลังเลใจระหว่างความกลัวกับความภูมิใจ เธอรู้ว่าเธอต้องสารภาพความจริงกับโรเบิร์ต ก่อนที่เขาจะพบเจอบางอย่างที่บอกให้เขารู้ ท้ายที่สุด โรเบิร์ตถามคำถามอย่างสุดที่จะหักห้ามใจและนั่นทำให้อิโซเบลน้ำตาแตก เธอหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอออกมาจากกล่องที่ล็อกไว้ใต้เตียงนอนของเธอ และแสดงให้เขาเห็นในสิ่งที่เธอเป็น

ถึงแม้ มิเนอร์ว่า ยังเด็กเกินกว่าจะจำอะไรได้ในคืนนั้น แต่ผลที่ตามมาของมันทำให้เธอเข้าใจความขมขื่นในความยากลำบากของการเติบโตโดยมีเวทมนตร์ในโลกมักเกิ้ล แม้ว่าโรเบิร์ต มักกอนนากัล ยังคงรักภรรยาของเขาไม่ลดน้อยลงหลังจากที่รู้ว่าเธอเป็นแม่มด แต่เขาก็ช็อกอย่างมากกับการเปิดเผยตัวตนของเธอ และในความจริงที่เธอเก็บมันเป็นความลับปิดบังเขาไว้มานานมีอะไรที่มากกว่านั้น โรเบิร์ตผู้ภูมิใจตัวเองในความเที่ยงตรงและสัตย์ซื่อ บัดนี้กำลังเข้าสู่ชีวิตที่มีแต่ความลับ ซึ่งนั่นค่อนข้างต่างจากนิสัยของเขา อิโซเบลอธิบายด้วยเสียงสะอื้นว่าเธอ (รวมทั้งลูกสาวของพวกเขา) ถูกผูกมัดด้วยบทบัญญัตินานาชาติเกี่ยวกับความลับ (International Statute of Secrecy) และพวกเขาจำเป็นต้องปกปิดความจริงเกี่ยวกับพวกเขา หรือไม่ก็เผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของกระทรวงเวทมนตร์ โรเบิร์ตหวาดหวั่นใจ ทั้งคนในท้องที่ คนในคณะ ผู้ที่เคร่งศาสนา ผู้ที่ทำตามกฎอย่างเที่ยงตรงและผู้ที่สืบทอดธรรมเนียมปฏิบัติ จะรู้สึกอย่างไรถ้าทราบว่าบาทหลวงของพวกเขามีภรรยาเป็นแม่มด

รักยังคงอยู่ แต่ความเชื่อใจระหว่างพ่อแม่ของเธอได้พังทลายลงไปแล้ว และมิเนอร์ว่าเด็กที่ฉลาดและช่างสังเกตได้รับรู้ในสิ่งนี้พร้อมความเศร้าโศก เมื่อมีเด็กเพิ่มมาอีกสองคน ทั้งคู่เป็นเด็กผู้ชายที่ถือกำเนิดในครอบครัวมักกอนนากัล และในอีหรอบเดียวกัน ทั้งสองแสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านเวทมนตร์ มิเนอร์ว่าช่วยแม่ของเธออธิบายให้มัลคอล์ม (Malcolm) และโรเบิร์ตน้อย (Robert Junior) ฟังว่า พวกเขาต้องไม่โอ้อวดความสามารถทางด้านเวทมนตร์ และช่วยเหลือมารดาในการปกปิดไม่ให้พ่อของพวกเขารู้เรื่องอุบัติเหตุและความผิดพลาดที่เกิดจากเวทมนตร์ของพวกเขาในบางครั้ง

มิเนอร์ว่าสนิทกับพ่อที่เป็นมักเกิ้ลของเธอมาก ผู้ที่มีนิสัยใจคอคล้ายกับเธอมากกว่าแม่ เธอเห็นพร้อมกับความเจ็บปวดว่าเขาต้องพยายามต่อสู้เพียงใดกับเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดของครอบครัว เธอรู้สึกได้เช่นกันว่ามันตึงเครียดขนาดไหน สำหรับแม่ของเธอที่ต้องอยู่ร่วมกับทุกอย่างในหมู่บ้านมักเกิ้ล ความคิดถึงอิสรภาพของการอยู่กับคนประเภทเดียวกัน และการใช้พรสวรรค์อันมากมายที่มี มิเนอร์ว่าไม่เคยลืมว่าแม่เธอร้องไห้หนักขนาดไหน เมื่อจดหมายเชิญเข้าเป็นนักเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์มาถึงในวันเกิดครบรอบ 11 ขวบของมิเนอร์ว่า เธอรู้ว่าที่อิโซเบลสะอื้นเบาๆ ไม่ใช่เพียงแค่เธอภาคภูมิใจ แต่ยังออกมาจากความอิจฉาอีกด้วย

ชีวิตในวัยเรียน

มักเป็นแบบนี้เสมอ ในกรณีที่พ่อมดแม่มดน้อยมาจากครอบครัวที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับความสามารถทางด้านเวทมนตร์ ฮอกวอตส์สำหรับ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล นั้นเป็นสถานที่ที่ปลดปล่อยความสนุกสนานและอิสรภาพ

มิเนอร์ว่าได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษในคืนแรก เมื่อเธอเผยให้เห็นว่าเธอเป็นพวกหมวกชะงัก (Hatstall) หลังจากที่ผ่านไปห้านาทีครึ่ง หมวกคัดสรรซึ่งลังเลใจระหว่างบ้านเรเวนคลอและบ้านกริฟฟินดอร์ ก็ส่งเธอไปบ้านหลัง (ในหลายปีต่อมา เหตุการณ์นี้เป็นหัวข้อที่ชวนขำระหว่างมิเนอร์ว่าและเพื่อนร่วมงาน ฟิเลียส ฟลิตวิก (Filius Flitwick) ผู้ที่หมวกคัดสรรได้รับความเดือดร้อนและสับสนมากเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปที่ตรงข้ามกัน สองอาจารย์ประจำบ้านขำขันการรำลึกที่พวกเขาได้รับการคัดสรร แต่มันก็เป็นช่วงเวลาสำคัญในวัยหนุ่มสาวของพวกเขา ที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมองของกันและกัน)

มิเนอร์ว่าได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในฐานะนักเรียนดีเด่นที่สุดในชั้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพรสวรรค์ในการแปลงร่าง ในขณะที่เธอก้าวหน้าด้านการเรียน เธอก็ได้พิสูจน์ว่าเธอได้สืบทอดทั้งพรสวรรค์จากแม่ และความยึดมั่นอย่างแข็งแกร่งในศีลธรรมจากพ่อ การเรียนในโรงเรียนของมิเนอร์ว่าคาบเกี่ยวกับโพโมน่า สเปราต์ ถึงสองปี ซึ่งต่อมากลายเป็นอาจารย์ประจำบ้านฮัฟเฟิลพัฟ ทั้งสองสาวมีความสุขกับความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน และยืนยาวไปอีกหลายปี

ก่อนที่เธอจะจบการศึกษาจากฮอกวอตส์ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัลมีบันทึกที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความสำเร็จของเธอ คือ การได้คะแนนสูงสุดในการสอบ ว.พ.ร.ส. และ ส.พ.บ.ส. การเป็นพรีเฟ็ค การเป็นประธานนักเรียนหญิง และได้รับรางวัลชนะเลิศหน้าใหม่ผู้มีความหวังที่สุดของนิตยสารแปลงร่างวันนี้  (Transfiguration Today Most Promising Newcomer) ภายใต้คำแนะนำของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ครูผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการแปลงร่างของเธอ เธอได้รับการจัดการให้เป็นแอนิเมจัสในรูปสัตว์ประจำตัวของเธอ พร้อมกับลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ (แมวลายสีเทาที่มีลายเป็นรูปแว่นสี่เหลี่ยมรอบดวงตา) โดยได้รับการรับรองอย่างถูกต้องด้วยการขึ้นทะเบียนแอนิเมจัสของกระทรวงเวทมนตร์ มิเนอร์ว่ายังเหมือนกับแม่ของเธอด้วยการเป็นผู้เล่นควิดดิชที่มีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตาม การตกจากไม้กวาดเพราะการเล่นสกปรกอย่างน่ารังเกียจในปีสุดท้ายของเธอ (การโกงในเกมระหว่างกริฟฟินดอร์กับสลิธีรินที่ตัดสินว่าใครจะได้ถ้วยชนะเลิศ) ทำให้เธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก กระดูกซี่โครงหักบางส่วน และทำให้ความปรารถนาในชีวิตของเธอคือการที่อยากจะเห็นสลิธีรินโดนชนจนกระเด็นในสนามควิดดิช แม้ว่าเธอจะละทิ้งการเล่นควิดดิชเมื่อจบจากฮอกวอตส์ แต่การชอบความท้าทายที่มีมาแต่กำเนิดทำให้ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกระตือรือร้นสนใจในชะตากรรมของทีมบ้านของเธอ และยังคงคอยจับตามองสังเกตหาผู้ที่มีพรสวรรค์ในด้านควิดดิช

ครั้งแรกของการอกหัก

เมื่อจบการศึกษาจากฮอกวอตส์ มิเนอร์ว่ากลับไปที่บ้านเพื่อเพลิดเพลินกับฤดูร้อนครั้งสุดท้ายกับครอบครัวของเธอ ก่อนที่จะออกเดินทางสู่ลอนดอน ที่ซึ่งเธอได้รับเสนอตำแหน่งในกระทรวงเวทมนตร์ (กองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์) ในช่วงหลายเดือน ได้พิสูจน์ความยากลำบากในชีวิตของมิเนอร์ว่ากับวัยเพียงสิบแปดปี เธอได้พิสูจน์ว่าเธอเองเป็นลูกสาวของแม่อย่างแท้จริง ด้วยการตกหลุมรักหัวปักหัวปำกับชายหนุ่มที่เป็นมักเกิ้ล

มันเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ที่อาจกล่าวได้ว่าเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ดูกัล แมคเกรเกอร์ (Dougal McGregor) เป็นลูกชายของเจ้าของฟาร์มในท้องถิ่นที่หล่อ ฉลาด และมีอารมณ์ขัน ถึงแม้ว่าเธอจะสวยไม่เท่าอิโซเบล แต่มิเนอร์ว่าก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีไหวพริบ ดูกัลและมิเนอร์ว่ามีส่วนคล้ายกันในการมีอารมณ์ขัน การโต้เถียงกันได้อย่างสูสี และความต้องการค้นหาความลึกลับในตัวของแต่ละคน ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว ดูกัลก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นนาที่เพิ่งไถเพื่อขอเธอแต่งงาน และมิเนอร์ว่าก็ตอบตกลง

เธอกลับไปที่บ้าน ตั้งใจจะบอกพ่อกับแม่เรื่องการหมั้นของเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็พบว่าเธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เธอนอนไม่หลับทั้งคืน เธอคิดถึงตัวเธอเองในอนาคต ดูกัลไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมิเนอร์ว่าเป็นอะไร ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพ่อของเธอที่ไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับอิโซเบล ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกัน มิเนอร์ว่าคิดว่าหากเธอแต่งงานกับดูกัลในอีกไม่นานนี้ มันจะเป็นจุดจบทุกอย่างในความทะเยอทะยานของเธอ นั่นหมายถึงไม้กายสิทธิ์ของเธอจะถูกล็อกเก็บเอาไว้ และเด็กๆ ต้องหัดพูดโกหก ซึ่งบางครั้งก็ต้องโกหกแม้กระทั่งกับพ่อของพวกเขาเอง เธอไม่หลอกตัวเองว่าดูกัล แมคเกรเกอร์จะไปลอนดอนกับเธอ ในขณะที่เธอไปทำงานทุกวันที่กระทรวงเวทมนตร์ เขาต้องคอยดูแลสืบทอดกิจการฟาร์มของพ่อเขา

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น มิเนอร์ว่าถลาออกจากบ้านพ่อแม่ของเธอ เพื่อไปบอกดูกัลว่าเธอเปลี่ยนใจแล้ว และเธอไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ ซึ่งเมื่อสนใจในความจริงแล้ว ถ้าหากเธอละเมิดบทบัญญัตินานาชาติเกี่ยวกับความลับ เธอก็คงเสียงานที่กระทรวงฯ เธอจึงเลิกกับเขา เธอไม่สามารถให้เหตุผลที่ดีได้ว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจ เธอทิ้งเขาไปพร้อมความรู้สึกที่ท่วมท้น และเดินทางไปลอนดอนในสามวันต่อมา

หน้าที่การงานในกระทรวงเวทมนตร์

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของเธอต่อกระทรวงเวทมนตร์ถูกแต่งแต้มด้วยความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเร็วๆ นี้เธอเพิ่งจะประสบกับช่วงที่มีปัญหาร้ายแรงทางด้านอารมณ์ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล จึงไม่มีความสุขเอาเสียเลยกับบ้านและที่ทำงานใหม่ เพื่อนร่วมงานของเธอบางคนมีอคติต่อต้านมักเกิ้ล ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เธอเคารพบูชาพ่อของเธอที่เป็นมักเกิ้ล และยังคงรักดูกัล แมคเกรเกอร์ เธอเสียใจแม้ว่าเธอเป็นพนักงานที่มีประสิทธิภาพและมีพรสวรรค์มาก และเป็นที่รักใคร่ของเอลฟินสโตน เออร์ควอร์ต (Elphinstone Urquart) เจ้านายที่อายุมากกว่าเธอมาก แต่มิเนอร์ว่าไม่มีความสุขในลอนดอน และเธอพบว่าเธอเองคิดถึงสกอตแลนด์ ในที่สุดหลังจากการทำงานที่กระทรวงมาเป็นเวลาสองปี เธอก็ได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ ถึงอย่างนั้นเธอเองกลับปฏิเสธ เธอส่งนกฮูกไปยังฮอกวอตส์ สอบถามว่าเธอสามารถจะถูกพิจารณาเพื่อเข้าสอนตามประกาศได้หรือไม่ ภายในหนึ่งชั่วโมงนกฮูกถูกส่งกลับมาและเสนอให้เธอทำงานในแผนกวิชาแปลงร่าง ภายใต้หัวหน้าแผนก อัลบัส ดัมเบิลดอร์

มิตรภาพกับอัลบัส ดัมเบิลดอร์

โรงเรียนต้อนรับการกลับมาของมิเนอร์ว่า มักกอนนากัลด้วยความยินดี มิเนอร์ว่าพุ่งตัวเองเข้าสู่งาน ซึ่งเธอพิสูจน์ตัวเองว่าเธอเป็นครูที่เข้มงวดแต่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ หากเธอเก็บจดหมายจากดูกัล แมคเกรเกอร์ไว้ในกล่องแล้วล็อกเก็บไว้ใต้เตียงของเธอ ย่อมเป็นสิ่งที่ (เธอบอกตัวเองอย่างหนักแน่น) ดีกว่าจะเก็บไม้กายสิทธิ์ของเธอไว้ในนั้น แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อทราบเรื่องราวที่เธอพยายามจะลืมจากอิโซเบล (ในตอนกลางของจดหมายพูดคุยซึ่งกล่าวถึงข่าวในท้องถิ่น) ว่าดูกัลได้แต่งงานกับลูกสาวเจ้าของฟาร์มแห่งหนึ่งแล้ว

อัลบัส ดัมเบิลดอร์ พบมิเนอร์ว่าพร้อมน้ำตาในห้องเรียนของเธอช่วงค่ำ และเธอยอมเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เขาฟัง อัลบัส ดัมเบิลดอร์ทั้งปลอบใจและสอนเธอ เล่าเรื่องราวให้มิเนอร์ว่าฟังเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของเขาซึ่งเธอไม่เคยรู้มาก่อน ข้อมูลที่สงวนไว้ในคืนนั้นได้รับการแลกเปลี่ยนกันระหว่างคนสองคนและหลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเคารพและมิตรภาพซึ่งกันและกัน

มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล เป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่คนที่รู้หรือสงสัยในเหตุการณ์น่าสะพรึงสำหรับอัลบัส ดัมเบิลดอร์ เมื่อปี 1945 ว่ามันเป็นอย่างไร ตอนที่เขาตัดสินใจเผชิญหน้าและเอาชนะพ่อมดมืด เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (เพิ่มเติมจากหนังสือ Hogwarts of Heroism, Hardship and Dangerous Hobbies)

การเรืองอำนาจครั้งแรกของโวลเดอมอร์

มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ไม่เคยสอนทอม ริดเดิ้ล ในสมัยที่เขายังเด็ก แต่เธอได้รับการแบ่งปันข้อมูลอย่างลับ ๆ ในสิ่งที่ดัมเบิลดอร์หวั่นและสงสัยเกี่ยวกับตัวเขา มิเนอร์ว่าไม่ได้ถูกชักนำให้เข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์ในช่วงที่โวลเดอมอร์ไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจในครั้งแรก (ซึ่งในขณะนั้น ภาคีนกฟีนิกซ์ถูกกระทรวงเวทมนตร์มองว่าเป็นกลุ่มผู้ทรยศ เนื่องจากรัฐมนตรีเกรงกลัวความสามารถพิเศษและความเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ของดัมเบิลดอร์ และมีแนวโน้มที่จะปิดบังความเกรงกลัวเหล่านั้น โดยกล่าวหาว่าดัมเบิลดอร์หวังจะมาแทนที่ตำแหน่งของตน) อย่างไรก็ตาม ความสามารถของมิเนอร์ว่าในการกลายร่างเป็นแอนนิเมจัสได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์ในช่วงยุคมืดของประวัติศาสตร์ผู้วิเศษ เหล่านักเรียนของเธอไม่รู้เลยว่าเธอใช้เวลาหลายต่อหลายคืนในการสอดแนมให้กับกระทรวงเวทมนตร์ภายใต้รูปลักษณ์ของแมวตัวลาย เพื่อนำข้อมูลที่สำคัญยิ่งในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของพวกผู้สนับสนุนโวลเดอมอร์มาให้แก่เหล่ามือปราบมาร

เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ในชุมชนผู้วิเศษ มิเนอร์ว่าต้องประสบความทุกข์ทนกับการสูญเสียบุคคลใกล้ชิดในช่วงการเรืองอำนาจครั้งแรกของโวลเดอมอร์ ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ก็คือการสูญเสียโรเบิร์ต (Robert) น้องชายของเธอ, ลิลี่ เอฟเวนส์ และ เจมส์ พอตเตอร์ ซึ่งทั้งสองเป็นนักเรียนคนโปรดของเธอ และดูกัล แมคเกรเกอร์ ผู้ซึ่งถูกฆาตกรรมพร้อมกับภรรยาและลูก ๆ ของเขา ในการสุ่มโจมตีภายใต้การต่อต้านมักเกิ้ลของเหล่าผู้เสพความตาย ข่าวล่าสุดเหล่านี้เป็นเหมือนสายลมพัดโหมกระหน่ำมาสู่มิเนอร์ว่า ผู้ซึ่งถามตัวเองมาตลอดว่าเธอจะสามารถช่วยชีวิตดูกัลไว้ได้หรือไม่ หากเธอแต่งงานกับเขาก่อนหน้านี้


เพิ่มเติมจากหนังสือ Hogwarts of Heroism, Hardship and Dangerous Hobbies แปลและเรียบเรียง: Daga Por @Muggle-V.com

ชีวิตแต่งงาน

ผ่านช่วงปีแรกๆ ที่ฮอกวอตส์ผ่านไป มิเนอร์ว่า มักกอนนากัลยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีในแง่มิตรภาพกับ เอลฟินสโตน เออร์ควอร์ต เจ้านายเก่าที่กระทรวงเวทมนตร์ เขามักจะมาเยี่ยมเธอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สกอตแลนด์ และสร้างความประหลาดใจพร้อมความลำบากใจอย่างมากให้กับเธอ ด้วยการขอเธอแต่งงานในร้านน้ำชาของมาดามพุดดี้ฟุต แต่ด้วยความที่ยังรักดูกัล แมคเกรเกอร์อยู่มิเนอร์ว่าจึงปฏิเสธเขาไป

อย่างไรก็ตาม เอลฟินสโตนก็ไม่เคยหยุดรักเธอ หรือหยุดขอเธอแต่งงานเลย แม้ว่าเธอยังคงปฏิเสธเขาต่อไป ถึงอย่างไร การเสียชีวิตของดูกัล แมคเกรเกอร์ แม้จะทำให้เธอบอบช้ำทางจิตใจ แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้มิเนอร์ว่าเป็นอิสระ หลังจากนั้นไม่นาน โวลเดอร์มอร์ก็พ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เอลฟินสโตน ซึ่งตอนนี้ผมหงอกแล้วขอเธอแต่งงานอีกครั้งในฤดูร้อนระหว่างเดินเล่นรอบๆ บริเวณทะเลสาบในฮอกวอตส์ ครั้งนี้มิเนอร์ว่าตอบตกลง เธออยู่เคียงข้างเอลฟินสโตนในวัยเกษียณอย่างมีความสุข และซื้อกระท่อมเล็กๆ ในฮอกส์มี้ดสำหรับพวกเขาทั้งคู่ จากที่นี่ มิเนอร์ว่าสามารถเดินทางไปทำงานทุกวันได้อย่างสะดวกสบายขึ้น

เป็นที่รู้จักกันดีอย่างต่อเนื่องสู่นักเรียนรุ่นต่อรุ่นในฐานะ “ศาสตราจารย์มักกอนนากัล” มิเนอร์ว่าเป็นผู้สนับสนุนสิทธิของสตรีบางอย่างเสมอ ด้วยการประกาศว่าเธอยังคงจะใช้สกุลเธอแม้จะแต่งงานแล้ว ผู้ที่ยึดถือประเพณีเก่าๆ ต่างพากันสงสัย ว่าทำไมมิเนอร์ว่าถึงปฏิเสธที่จะยอมใช้สกุลของเลือดบริสุทธิ์ และยังคงใช้สกุลของพ่อที่เป็นมักเกิ้ลของเธออยู่?

การแต่งงาน (ถูกตัดให้สั้นอย่างน่าเศร้า ถึงแม้ว่ามันจะถูกโชคชะตากำหนดไว้แล้วก็ตาม) เป็นการแต่งงานที่มีความสุขมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีลูกด้วยกัน แต่มิเนอร์ว่าก็มีหลานสาว และหลานชาย (ลูกๆ ของน้องชายเธอ มัลคอล์มและโรเบิร์ต) ที่เธอไปเยี่ยมเยือนพวกเขาที่บ้านบ่อยๆ นี่เป็นช่วงเวลาที่สมความปรารถนาอย่างยอดเยี่ยมสำหรับมิเนอร์ว่า

อุบัติเหตุการเสียชีวิตของเอลฟินสโตน ที่ถูกต้นแทนทาคูเลอะมีพิษกัดในช่วงชีวิตการแต่งงานที่เข้าสู่ปีที่สามของพวกเขา นำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างมหาศาลแก่ทุกคนที่รู้จักทั้งคู่ มิเนอร์ว่าไม่สามารถทนอยู่คนเดียวในกระท่อมของพวกเขาได้ เธอเก็บข้าวของของเธอหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของเอลฟินสโตน และกลับสู่ห้องนอนที่ปูด้วยหินในปราสาทฮอกวอตส์ของเธอ ห้องที่สามารถเข้าได้เมื่อผ่านประตูที่ถูกซ่อนอยู่ในกำแพงห้องเรียนชั้นแรก เธอเป็นบุคคลที่กล้าหาญและสันโดษเสมอ เธอทุ่มเทพลังงานทั้งหมดเพื่องานของเธอ และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น อาจมีเพียงอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ที่เข้าใจเสมอว่าเธอทนทุกข์ทรมานมากขนาดไหน

 

สงครามครั้งที่สองของผู้วิเศษ

ในช่วงสงครามครั้งที่สองของผู้วิเศษ มิเนอร์ว่าไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการเป็นสายลับให้กับกระทรวงอีกต่อไป เธอเชื่อว่าภายในกระทรวงเกิดการทุจริตและเป็นอันตราย แน่นอนว่าท่าทีของมิเนอร์ว่าถูกโดโลเรส เจน อัมบริดจ์ (ผู้ที่กระทรวงส่งมารุกล้ำฮอกวอตส์ ในฐานะของผู้ตรวจการจากกระทรวง และอาจารย์ผู้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด) มองว่ากระด้างกระเดื่องต่อกระทรวง ซึ่งอัมบริดจ์นี่เองคือคนที่ขัดแย้งกับมิเนอร์ว่าอย่างรุนแรงมากกว่าผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ ในช่วงชีวิตการทำงานที่ยาวนานและหลากหลายของเธอ หลังจากการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้เสพความตายที่เข้ามาบุกรุกฮอกวอตส์ในช่วงการตายของดัมเบิลดอร์ มิเนอร์ว่าได้กลายมาเป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์อย่างเต็มตัว ซึ่งไม่ว่าขณะนั้นหรือเมื่อไหร่ ก็ยังถูกมองว่าเป็นองค์กรนอกกฎหมายอยู่ร่ำไป

เมื่อมีการแต่งตั้งเซเวอรัส สเนป เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน หลังจากที่มิเนอร์ว่ารักษาการชั่วคราวในตำแหน่งนี้ เธอก็ยังคงเป็นอาจารย์อยู่ในโรงเรียนเพื่อปกป้องนักเรียนเท่าที่เธอจะทำได้ ภายใต้การดูแลที่มุ่งร้ายของพี่น้องตระกูลแคร์โรว์ ซึ่งเป็นผู้เสพความตายที่โวลเดอมอร์กำหนดให้มาเป็นอาจารย์อยู่ที่ฮอกวอตส์ แม้ว่าความจงรักภักดีของเธอที่มีต่อดัมเบิลดอร์จะเป็นที่รู้กันดี แต่โวลเดอมอร์และเหล่าผู้สนับสนุนของเขาก็ยังเชื่อว่ามิเนอร์ว่ามีความสามารถเกินกว่าที่จะยอมสูญเสียไป และฉลาดเกินกว่าที่จะไม่ยอมเข้าร่วมกับพวกเขาอย่างเต็มตัว เมื่อมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่พวกเขาค่อนข้างเข้าใจผิด และการกระทำของมิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ในระหว่างการสู้รบอันโด่งดังของฮอกวอตส์ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสวามิภักดิ์ของเธอที่มีต่อภาคีนกฟีนิกซ์ไม่เคยสั่นคลอนเลย เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มสุดท้ายของผู้ที่ต่อสู้กับโวลเดอมอร์ก่อนที่เขาจะตาย ในการเผชิญหน้าที่เธอเป็นผู้รอดชีวิต และต่อมาในภายหลังเธอก็กลายเป็นอาจารย์ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจของโรงเรียนที่เธอได้ดูแลมาเป็นอย่างดีและอย่างยาวนาน หลังจากนั้นมิเนอร์ว่าก็ได้รับรางวัลเหรียญตราแห่งเมอร์ลินชั้นหนึ่งจากคิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์คนใหม่ และหลังจากนั้นไม่นานชื่อของเธอก็ไปปรากฏอยู่ในการ์ดกบช็อกโกแลตในฐานะพ่อมดแม่มดผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นการได้รับเกียรติที่เธอยอมรับว่าไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย


เพิ่มเติมจากหนังสือ Hogwarts of Heroism, Hardship and Dangerous Hobbies แปลและเรียบเรียง: Daga Por @Muggle-V.com

 

ความสัมพันธ์กับแฮร์รี่ พอตเตอร์

มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ไม่รู้สึกต่อเรื่องบันเทิงใจแบบลับ ๆ  ของการแสดงตลกสำหรับพวกชอบแหกกฎ แต่กระนั้น เธอก็มักจะสงสัยต่อนโยบายของดัมเบิลดอร์ในการอนุญาตให้แฮร์รี่เสี่ยงอันตรายต่าง ๆ อย่างสุดโต่ง และยืดหยุ่นต่อกฎระเบียบต่าง ๆ ของโรงเรียน ในระหว่างช่วงชีวิตวัยรุ่นของแฮร์รี่ และเธอมักจะแสดงให้เห็นถึงการปกป้องแฮร์รี่มากกว่าที่อาจารย์ใหญ่ทำ แฮร์รี่ถูกหาว่าเป็นที่ชื่นชอบของมิเนอร์ว่า ไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นลูกชายของนักเรียนคนโปรดตลอดกาลทั้งสองคนของเธอเท่านั้น แต่เพราะเขาก็เหมือนเธอ ที่ต้องทุกข์ทนกับการสูญเสียคนใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนที่แฮร์รี่เป็นนักเรียนของเธอ เธอก็ไม่เคยทำให้เขาเสียเด็ก แม้ว่าเธอจะโปรดปรานเขาก็ตาม เธอแสดงให้เห็นถึงความเชื่อใจลึก ๆ ของเธอ ที่มีต่อเขาในระหว่างการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์ ซึ่งในช่วงเวลานั้น เธอสนับสนุนแฮร์รี่อย่างแจ่มชัด ทั้งที่เธอไม่เคยล่วงรู้ความลับแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยของเขาหรือของดัมเบิลดอร์มาก่อนเลย หลังจากการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับแฮร์รี่ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ก็ตัดสินใจในประเด็นถกเถียงที่จะนำภาพเหมือนของเซเวอรัส สเนป เข้ามาร่วมในภาพเหมือนของอาจารย์ใหญ่ชายหญิงคนก่อน ๆ ในห้องทำงานของเธอ


เพิ่มเติมจากหนังสือ Hogwarts of Heroism, Hardship and Dangerous Hobbies แปลและเรียบเรียง: Daga Por @Muggle-V.com

แนวคิดของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง

มิเนอร์ว่า เป็นเทพธิดาแห่งสงครามและสติปัญญาของโรมัน วิลเลียม มักกอนนากัล ได้รับการยกย่องให้เป็นนักกวีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ มีบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานฉันได้เกี่ยวกับชื่อของเขา และความคิดที่ว่าเธอเป็นหญิงงาม ดูจะห่างไกลเมื่อเทียบกับจอมตลกมักกอนนากัล

ตัวอย่างเล็กน้อยจากงานของเขา จะได้เห็นความตลกโดยไม่ได้เจตนาของเขา ที่จะได้อ่านต่อจากนี้เป็นงานเขียนส่วนหนึ่งของบทกวี เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงภัยพิบัติทางรถไฟสมัยวิกตอเรีย:

สะพานรถไฟอันสวยงามของซิลเวอรี่ เทย์!
อนิจจา! ฉันเสียใจที่ต้องเอ่ยว่า
เก้าสิบชีวิตถูกพรากจากไป
ในวันสะบาโตครั้งสุดท้ายของปี 1879
จะถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน


ต้นฉบับภาษาอังกฤษ: https://www.pottermore.com/writing-by-jk-rowling/professor-mcgonagall

แปลและเรียบเรียงหลักโดย: Carissa Argus @Muggle-V.com