นิโคลัส แฟลมเมล ตัวตนที่มีอยู่จริง!

นิโคลัส แฟลมเมล (Nicolas Flamel หรือ nikɔla flamɛl ในภาษาฝรั่งเศส)

เกิดราวปี 1330 ใน Pontoise ประเทศฝรั่งเศส และเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1418 (ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ระบุไว้ในช่วงปี ค.ศ. 1327 – 1992 = 665 ปี) 

นิโคลัส แฟลมเมล เป็นที่รู้จักในโลกเวทมนตร์ในฐานะของ “นักเล่นแร่แปรธาตุ” ที่สามารถประดิษฐ์ศิลาอาถรรพ์ หรือ ศิลานักปราชญ์ได้เป็นคนแรก

ก่อนที่นิโคลัส จะก้าวมาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ เขาเคยทำงานเป็นจิตรกร นักเขียน เป็นคนขายหนังสือ ผู้ใช้ชีวิตในความลำบากยากจน ในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 แฟลมเมลอาศัยอยู่ในห้องแคบเล็กๆ ของ Saint-Jacques la Boucherie ในปารีส ก่อนจะขยับขยายกิจการเล็กๆ ของตนเองไปซื้อบ้านหลังเก่าๆ ใน Rue de Marivaux และใช้พื้นที่ชั้นล่างเพื่อทำธุรกิจของเขา

ต่อมาเขาก็ได้แต่งงานกับเพอรีแนล หญิงหม้ายที่ดูดีและชาญฉลาด อายุมากกว่าเขาเล็กน้อย

นิโคลัส แฟลมเมล เป็นที่รู้กันถึงความสามารถด้านศิลปะลึกลับ (Hermetic art) และยังมีความรู้ทางการเล่นแร่แปรธาตุเก่าแก่ของอียิปต์และกรีกที่รุ่งเรืองในหมู่ชนอาหรับอีกด้วย

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปนักในช่วงศตวรรษที่ 14 กระทั่งคืนหนึ่งกับการฝันถึงข่าวดี เขาฝันเห็นทูตสวรรค์ยืนอยู่ต่อหน้าเขา ทูตสวรรค์ที่มีแสงส่องสว่างและมีปีกอย่างเทวา เขาแตะหนังสือในมือแล้วกล่าวว่า

“จงดูหนังสืองดงามนี้นิโคลัส แรกเริ่มเจ้าจักมิเข้าใจสิ่งใด ไม่มีใครใดเข้าใจ ทั้งเจ้าและผู้อื่น แต่วันหนึ่งเจ้าจักเห็นสิ่งซึ่งผู้อื่นไม่มีวันได้เห็น”

“Look well at this book, Nicholas. At first you will understand nothing in it neither you nor any other man. But one day you will see in it that which no other man will be able to see.”

แฟลมเมลยื่นมือไปรับหนังสือเล่มนั้น และฉากฝันก็สลายหายไปด้วยแสงสีทองสุกสว่าง…

บางส่วนจากหนังสือที่เชื่อว่าเป็นบางส่วนจากหนังสือเล่มดังกล่าว

เขายังจำความฝันนั้นได้อย่างชัดเจน แล้ววันหนึ่งขณะที่เขาเปิดร้านขายหนังสือตามปกติ ก็มีนักเขียนยากจนขัดสนเงินทองนำหนังสือต้นฉบับมาเสนอขายกับร้านของแฟลมเมล เขาปฎิเสธที่จะรับต้นฉบับจากนักเขียนจนๆ คนนั้นด้วยท่าทีหยามเหยียด แล้วต่อมาก็มีนักเรียนจนๆ เสนอขายหนังสือให้ห้องสมุดของเขา แต่สิ่งหนึ่งทำให้เขาเปลี่ยนใจในที่สุด เพราะหนังสือเล่มนั้นคือหนังสือเล่มเดียวกับที่ทูตสวรรค์ให้เขาดูในฝัน เขาตัดสินใจจ่ายด้วยเงิน 2 ฟลอริน โดยไม่มีการต่อรองราคากับนักเรียนคนนั้น  มันเป็นหนังสือเก่าๆ ที่ห่อปกด้วยทองแดง สลักด้วยแผนภาพและตัวหนังสือ ทว่าไม่มีชาวกรีกหรือใครสามารถอ่านและถอดรหัสข้อความเหล่านี้ได้ และแต่ละแผ่นก็ไม่ได้ทำจากกระดาษอย่างที่เขาคุ้นเคย มันถูกทำขึ้นด้วยเปลือกไม้อ่อนๆ และเขียนอย่างชัดเจนด้วยเหล็กแหลม แต่ละหน้าแบ่งออกเป็น 7 หมวดใหญ่ๆ และแบ่งย่อยอีกเป็น 3 ส่วน คั่นด้วยแผ่นเปล่าๆ ที่ไร้ตัวหนังสือ แม้จะอ่านไม่ออก แต่ก็พอจะเดาได้อยู่บ้าง ในหน้าแรกเป็นลายมือเขียนของผู้เขียนหนังสือ คือ Abraham the Jew  ผู้เป็นเจ้าชาย พระ ชาวเลวี (Levite) โหร และนักปราชญ์

หนังสือเล่มนี้เองที่บอกเล่าถึงศิลาอาถรรพ์ ผ่านสัญลักษณ์การเล่นแร่แปรธาตุและข้อความ รวมถึงแผนภาพมากมายในหนังสือเล่มนี้ แต่เขาไม่เคยเข้าใจข้อความที่แท้จริงทั้งหมดในหนังสือ

Nicolas_Flamel_Histoire_critique

ภาพของนิโคลัส แฟลมเมล ที่ปรากฏอยู่ในปี 1402 ตรงทางเข้า Sainte-Geneviève des Ardens

กระทั่งวัย 21 แฟลมเมลก็ตัดสินใจดั้นด้นหาความลับของหนังสือเล่มนี้ ไม่มีใครในปารีสช่วยเหลือเขาได้ เพราะเนื้อหาของหนังสือเต็มไปด้วยภาษาฮีบรูโบราณ เขียนโดยชาวยิว ซึ่งในช่วงเวลานั้นชาวยิวถูกขับไล่ออกจากฝรั่งเศส เขารู้ดีว่าชาวยิวอพยพไปอยู่ที่ใด แต่การจะไปถึงสเปนและเข้าไปในสเปนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แฟลมเมลจึงตัดสินใจทำพิธีปฏิญาณตนที่ St James of Compostela และใช้การเป็นนักบวชนี้ออกแสวงบุญในสเปน ไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนรับรู้ถึงแผนการที่แฟลมเมลมุ่งหวัง ยกเว้นแต่ภรรยาผู้รักษาความลับได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้นที่รู้ เขาจัดแจงคัดลอกเนื้อหาในบางส่วนติดตัวไประหว่างแสวงบุญ เพราะไม่อยากเสี่ยงที่จะเปิดเผยเล่มจริงให้คนอื่นได้รับรู้ เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมีคนที่ให้ความช่วยเหลือเขาได้ นั่นก็คือ Maestro Canches ชายแก่ใน Leon ที่บังเอิญได้ยินคำว่า Abraham the Jew เข้า และความช่วยเหลือของเขาทำนำพาให้แฟลมเมลค้นพบความลับของหนังสือทีละน้อย เป็นเวลาถึงสามปีกว่าจะเข้าใจหนังสือเล่มนี้ และค้นพบความลับของศิลาอาถรรพ์ในที่สุด

ศิลาอาถรรพ์ ในความหมายของนักเล่นแร่แปรธาตุคือธาตุที่เชื่อกันว่าเมื่อนำมาบดจะเปลี่ยนโลหะหนักให้กลายเป็นทองคำ และจะทำให้ผู้ดื่มหรือกินมันมีชีวิตเป็นอมตะ ซึ่งหากเราพิจารณาถึงการเข้าบวชในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกของแฟลมเมล นั่นอาจตีความในทางศาสนาได้ว่า ศิลาอาถรรพ์ไม่ใช่ก้อนศิลาอย่างที่นักเล่นแร่แปรธาตุพยายามค้นหากัน แต่แท้ที่จริงแล้วอาจหมายถึง พระเยซู ผู้ประทานชีวิตนิรันดร์ให้แด่ผู้ที่เชื่อในพระองค์ และเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน เพราะ “พระเยซูเปรียบดังศิลา (Rock of Ages)”

ตามหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ระบุว่า เขาเสียชีวิตในปี 1418 หลังจากที่ เพอรีแนล ภรรยาของเขาเสียชีวิตลง ทว่าบรรดาลูกศิษย์ของเขาเชื่อมั่นว่าอาจารย์ของเขายังมีชีวิตอยู่ ด้วยการค้นพบสุดวิเศษของศิลาอาถรรพ์

ป้ายหลุมศพของนิโคลัส แฟลมเมลในปารีส ปัจจุบันตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของกรุงปารีส

นี่คือภาพป้ายหลุมศพที่ลอกแบบมาจากของจริง ที่จารึกไว้ ณ Cimetiere des Innocents หรือ Holy Innocents’ Cemetery ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส

หลังภรรยาเสียชีวิตลง นิโคลัส แฟลมเมล ก็ตัดสินใจเขียนบันทึกเรื่องราวของตนเองกับการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อตกทอดให้เป็นมรดกแก่บรรดาศิษย์ของเขาต่อไป ก่อนการเสียชีวิตของนิโคลัส แฟลมเมล เขาได้อาศัยอย่างมีความสุขกับภรรยาของตนในบ้านหลังใหม่ที่สร้างขึ้นใน Rue de Montmorency

640px-P5140135

บ้านของนิโคลัส แฟลมเมล ใน Rue de Montmorency ที่ปัจจุบันเป็นร้านอาหารตั้งชื่อตามนิโคลัส แฟลมเมล

ในราวปี 1618 มีการขุดคลุมศพของนิโคลัส แฟลมเมล หลังการหยิบประเด็นหนังสือล้ำค่าเล่มนั้น และพบแต่เพียงความว่างเปล่าในหลุมฝังศพ