จินนี่ วีสลีย์ นักข่าวควิดดิชของเดลี่พรอเฟ็ต จากทะเลทรายปาตาโกเนีย
ยังไม่ทันที่จะโยนลูกควัฟเฟิล หรือจับลูกสนิชลูกแรกได้ การแข่งขันควิดดิชครั้งที่ 427 ก็เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง มีการรวมตัวของนักสัตว์วิเศษวิทยาในทะเลทรายเพื่อป้องกันเหตุโกลาหล และผู้บำบัดกว่า 300 คนที่เข้าช่วยเหลือผู้ที่เกิดอาการช็อก กระดูกหัก และถูกกัด กระทรวงเวทมนต์ของอาร์เจนตินาถูกโจมตีถึงการตัดสินใจใช้มาสคอตในพิธีเปิดที่ขาดความยั้งคิดและโง่เขลา
หนึ่งอาทิตย์ก่อนพิธีเปิด ทะเลสาบที่น่าประทับใจถูกสร้างขึ้นกลางทะเลทรายเพื่อดูคูวาก้า (Dukuwaqa) (สิ่งมีชีวิตที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างระหว่างคนกับฉลามได้) ของทีมฟิจิ ผู้จัดงานได้ประกาศว่าตัวแทนของแต่ละทีมที่ลงแข่งในอาทิตย์แรกจะได้เข้าร่วมการจัดแสดงเพื่อเป็นนิทรรศการที่โฆษณาถึง “ความยิ่งใหญ่ในความหลากหลายของโลกสัตว์วิเศษ”
พิธีเปิดเริ่มขึ้นตามปกติทั่วไปโดยมีเหล่าจีนี่ (Genies) แห่งสายน้ำของไอวอรีโคสต์ (Ivory Coast) มาเต้นรำอย่างสวยงามบนผิวน้ำของทะเลสาบ กระทั่งมาสคอตของฟิจิและนอร์เวย์ถูกปล่อยออกมาความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น
วาเลนติน่า วาซเกส (Valentina Vázquez) ประธานสมาชิกสภาเวทมนตร์ของอาร์เจนตินา ได้กล่าวว่า:
“ระหว่างที่เราเตรียมตัวต้อนรับดูคูวาก้ามาสคอตของฟิจิ เราก็แปลกใจที่ทางนอร์เวย์ร้องขอพื้นที่ในทะเลสาบสำหรับงูน้ำขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเซลมา (Selma) เราคิดไปว่าทางนอร์เวย์จะมาพร้อมกับการแสดงของกองกำลังโทรลล์เหมือนปกติ”
“เราไม่ทราบถึงการศึกษาเรื่องการเข้ากันระหว่างดูกูวาก้าและเซลมา เพราะฉะนั้นทางสภาเวทมนตร์ (Council of Magic) ไม่ขอรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจากการนำมาสคอตสองชนิดนี้มาไว้ใกล้กันมากเกินไป”
รอล์ฟ สคามันเดอร์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านสัตว์วิเศษวิทยา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับเดลี่พรอเฟ็ตด้วยความเห็นแย้ง:
“ดูกูวาก้าอยู่ในทะเลสาบน้ำอุ่น เซลมาอยู่ในทะเลสาบน้ำเย็น อย่างแรกเป็นสัตว์เปลี่ยนร่างที่สามารถเปลี่ยนร่างจากฉลามเป็นคนได้ อย่างหลังเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่กินเนื้อมนุษย์และปลา คุณคงจะมีสมองเท่าบิลลี่วิก ถ้าคุณไม่สามารถเห็นถึงหายนะได้ในทันทีที่คิดจะรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน”
ทะเลเลือด คือคำที่อธิบายเหตุการณ์ได้ดีหลังจากที่ทั้งสองถูกปล่อยลงสู่ทะเลสาบโดยคริสตัลบอลขนาดใหญ่ ผู้ดูแลของฟิจิและนอร์เวย์พยายามลงไปควบคุมสถานการณ์แต่ถูกขัดขวางด้วยบราซิเลียนคูรูพิร่า (Brazilian Curupira) (สิ่งมีชีวิตผมแดง คล้ายคนแคระที่อยู่ในป่า เท้าชี้กลับด้าน และคอยปกป้องสิ่งมีชีวิตที่มันคิดว่าจะถูกโจมตีโดยมนุษย์) คูรูพิร่าเข้าใจว่าผู้ดูแลจะเข้ามาทำร้ายดูคูวาก้าและเซลมา เลยเข้ามาโจมตี
ด้วยความวุ่นวายในสนามกีฬากับหยดเลือดที่กระเด็นจากทั้งพ่อมดและสัตว์วิเศษก็ไม่แปลกใจเลยที่ไนจีเรียนซาซาบอนแซม (Nigerian Sasabonsam) (สิ่งมีชีวิตคล้ายแวมไพร์ ขาหมุนได้) จะอาละวาดขึ้นมา นอกจากจะทำให้เกิดความวุ่นวายต่อผู้ชมและผู้จัดงานแล้ว ข่าวลือที่ว่าทีมเฮติ ได้นำอินเฟอไร (Inferi) มาเป็นมาสคอตของทีมก็เป็นเรื่องจริงด้วย ผู้ชมแตกตื่นไปทั่ว ในขณะที่อินเฟอไรก็เคลื่อนตัวไปตามสนามเพื่อพยายามจะจับและทำร้ายคนที่หกล้ม
กฎของขนาดและธรรมชาติของมาสคอตเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมายาวนานในคณะกรรมการกีฬาควิดดิชแห่งสหพันธ์พ่อมดนานาชาติ (ICWQC) ความพยายามที่จะให้มาสคอตเป็นสัตว์กินพืช ขนาดเล็กกว่าวัว และไม่หายใจเป็นไฟ ถูกคัดค้านโดยเสียงส่วนใหญ่ในปี 1995 สมาชิกผู้สนับสนุนควิดดิชทั่วโลกคัดค้านทุกอย่างที่พวกเขาคิดว่าจะวุ่นวายกับประเพณีและสีสันของการแข่งควิดดิชเวิลด์คัพ
แต่หลายคนเชื่อว่าการแข่งขันในการนำมาสคอตที่ดูน่าเกรงขามเข้ามา เริ่มจะมากเกินไป อาร์นุลฟ โม (Arnulf Moe) ผู้จัดการของทีมนอร์เวย์ ให้เหตุผลแก้ตัวถึงการนำเซลมาเข้ามาว่ามันแสดงถึงความมุ่งมั่นที่หนักแน่นและความดุดันของผู้เล่นชาวนอร์เวย์ ทั้งยังบอกว่าฝ่ายดูกูวาก้าเป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายก่อน
ผู้ชมในครั้งนี้ทำลายสถิติเดินทางด้วยกุญแจเดินทางกว่าหนึ่งหมื่นชิ้น เดินทางมายังใจกลางทะเลทรายปาตาโกเนียเพื่อพิธีเปิดการแข่งขัน ถึงแม้ว่าทางสภาเวทมนตร์ของอาร์เจนตินาจะได้รับคำชมเป็นอย่างมากจากการจัดการเดินทางที่ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย แต่จากจำนวนตัวเลขผู้บาดเจ็บที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขันก็สร้างความอับอายให้แก่ผู้จัดเป็นอย่างมาก
เกมแรกของการแข่งขันจะเริ่มขึ้นพรุ่งนี้ระหว่างทีมนอร์เวย์และไอวอรีโคสต์