ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์: เมืองลอนดอน [Part 3]

มาเที่ยวกันต่อเลย…สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1 คลิกที่นี่ ส่วนตอนที่ 2 คลิกที่นี่ เลยค่ะ

วันที่ 13 กันยายน 2011

วันที่ 3 ของทริปตามรอยแฮร์รี่ฯที่ลอนดอนรอบแรก วันนี้พยายามออกให้เช้าหน่อยเพราะต้องออกนอกเมือง เราเริ่มต้นด้วยการถ่ายรูปกับป้ายชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 (อีกแล้ว ฮ่าๆ คราวนี้มีเจอครอบครัวคนไทยด้วย) จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดินสาย Northern จากสถานี King’s Cross St. Pancras ไปลงสถานี Golders Green เพื่อไปย่านที่ใช้ถ่ายทำบ้านเฮอร์ไมโอนี่แถวชานเมืองชื่อ Hampstead Garden Suburb

คราวนี้เราต้องซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบโซน 1-4 ราคา 7.30 ปอนด์ (*อย่าลืมว่านี่คือราคาตอนปี 2011 นะคะ) ไปนะ แล้วพอไปถึงสถานี Golders Green แล้วก็ต้องเดินต่อไปอีกเกือบ 20 นาทีถึงจะถึงย่านถ่ายทำ อ่อ! ย่านที่ว่านี้ปรากฏในหนังภาค7.1 ในหนังเราจะเห็นโบสถ์ St. Jude’s ในตอนที่เฮอร์ไมโอนี่ออกจากบ้าน ส่วนบ้านที่ใช้ถ่ายทำเป็นบ้านเฮอร์ไมโอนี่คือบ้านเลขที่ 9 (มารู้เรื่องบ้านเลขที่เอาตอนหลังจากไปมาแล้ว เสียใจ T^T)

พอเสร็จจากภารกิจย้อนรอยชีวิตเฮอร์ไมโอนี่ เราก็นั่งรถไฟกลับมาที่สถานี King’s Cross St. Pancras เพื่อจะไปกันต่อที่ถนน Green Lanes วิธีไปมีให้เลือกหลายทางนะ แบบที่เราเลือกคือ นั่งรถไฟใต้ดินโดยใช้สิทธิ์บัตรแบบคุมโซน 1-4 เนี่ยแหละ (จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วเพิ่ม ฮ่าๆ) โดยนั่งสาย Piccadilly จากสถานี King’s Cross St. Pancras ไปลงสถานี Bounds Green หรือ Amos Grove ก็ได้ แล้วค่อยเดินต่ออีกเกือบ 20 นาที หรือถ้าจะให้เดินใกล้ๆจุดถ่ายทำหน่อยก็เลือกนั่งรถไฟจากสถานี King’s Cross ไปลงสถานี Palmers Greenก็ได้

สำหรับถนน Green Lanes ที่นี่ใช้ถ่ายทำในภาค3 ฉากรถเมล์อัศวิน ตอนเออร์นี่ขับรถไปตามถนนตอนกลางคืน ก่อนถึงฉากหยุดรถรอหญิงแก่ข้ามถนนก่อนขับต่อ

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟจากชานเมืองที่ว่านี้กลับเข้ามาตัวเมืองอีกที…..ก็เหมือนเดิมเลยนั่งสาย Piccadilly ไปลงสถานี Green Park แล้วเดินต่อ กะจะไป Buckingham Palace ดูขบวนทหารยามเปลี่ยนกะ…..แต่สุดท้ายก็มาถึงไม่ทัน เศร้าอีกแล้ว T^T อดดูตามระเบียบ

แต่ไม่เป็นไร ไว้เข้าลอนดอนงวดหน้าค่อยมาดูใหม่ก็ได้ เชอะ!! แต่ตอนนี้เดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Victoria ดีกว่า

จากสถานี Victoria เรานั่งสาย Circle หรือ District ก็ได้มาลงสถานี Monument แล้วเดินไปที่ Leadenhall Market เป้าหมายของเราอยู่ที่ร้านหมายเลข 42 ซอยบูลเฮด ที่ใช้ถ่ายทำฉากทางเข้าร้านหม้อใหญ่รั่ว ในภาค 1 โดยตัวร้านถูกคอมพิวเตอร์กราฟิกดัดแปลงด้วย

ร้านที่ถ่ายทำเป็นทางเข้าร้านหม้อใหญรั่วนี่จะว่าไปก็หัวการค้าสุดๆนะ ทั้งๆที่เป็นร้านขายกระเป๋า แต่เล่นมีขายของแฮร์รี่เสริมด้วย ฮ่าๆ แต่ขายราคาแพงกว่าที่ร้านของเล่นแฮมลี่ส์แหละ

สถานที่ต่อมา เราเดินไปต่อที่โบสถ์วิหารเซนต์ปอล (ที่จริงจะนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี St. Paul’s ก็ได้นะ แต่ว่าถ้าเดินจากจุดที่แล้วก็ราวๆ 15 นาที) ที่เราเห็นกันในหนังภาค 6 ตอนฉากสะพานมิลเลนเนี่ยมพังค่ะ สถานที่นี้เหมือนเช่นเคย คล้ายกับโบสถ์หลายๆที่…..ห้าม! ถ่ายรูปด้านใน (อีกแล้ว)…..การตกแต่งภายในสวยมากๆ

*ข้อมูลวัน-เวลาและค่าเข้าชมวิหารเซนต์ปอล >>คลิกที่นี่<<

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือโดมขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถขึ้นบันไดวนไปดูวิวลอนดอนบนยอดโดมได้…..แน่นอนว่าเราไม่พลาด (แต่ขอบอกว่าเหนื่อยมาก ขั้นบันไดถี่สุดๆ วนไปมา ไม่มีลิฟท์ด้วยอ่ะนะ แนะนำว่าฟิตความอึดมาให้ดีถ้าอยากขึ้น) วิวด้านบนสวยดีนะ ลมพัดเย็นสบายดี เราจะได้เห็นตึกหลายๆตึกย่านแม่น้ำเทมส์ด้วยนะ

บางตึกที่เห็นปรากฏในฉากมักเกิ้ลมองดูท้องฟ้าช่วงก่อนพวกผู้เสพความตายอาละวาดในภาค 6 ค่ะ ตึกที่โดดเด่นจนจำได้เลยคือ ตึก Gherkin (ที่เราว่าตัวตึกเหมือนหัวกระสุนนะ แต่ถ้ายึดตามชื่อเล่นของตึกนี้ ฝรั่งมองว่าตึกเหมือนแตงกวา)…..จะอยู่ชมวิวนานมากก็ไม่ได้ เพราะพื้นที่ยืนจำกัดมีคนขึ้นตามมาเรื่อยๆ ต้องไปเที่ยวที่อื่นต่อละ

อ่อ ก่อนออกจากเซนต์ปอล เราหาข้อมูลมาก่อนหน้าแล้วว่าทางเข้า Geometric Staircase ที่ใช้ถ่ายทำในภาค3 ฉากบันไดวนไปห้องเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ และในภาค4 ฉากบันไดวนหลังเลิกชั้นเรียนของมู้ดดี้ อยู่ตรงแถวประตูทางออก โซนทางขึ้นห้องสมุดของโบสถ์ อยู่ปีกด้านขวาของทางเข้าหลักของโบสถ์…..แต่พอเดินไปถึงปรากฏว่าเป็นพื้นที่ๆไม่อนุญาตให้เข้า…..โอ๊ย! อดดูอีกละ งั้นก็เหมือนเดิม (แอบ) ถ่ายแค่ประตูด้านนอกก็ได้ T^T (พยายามแอบถ่ายด้านในนิดนึงอีกตะหาก ฮ่าๆ)

ที่ต่อไปคือ บ้านสัตว์เลื้อยคลาน (Reptile House) ที่สวนสัตว์ลอนดอน (London zoo)…..เพราะว่าใช้เวลากับที่เซนต์ปอลมาก แถมเลือกเส้นทางได้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ (เลือกนั่งรถไฟใต้ดินสาย Central นั่งจากสถานี St. Paul’s มาลงสถานี Oxford Circus แล้วเปลี่ยนสายเป็นสาย Bakerloo นั่งมาลงสถานี Regent’s Park แล้วเดินทะลุสวน) เลยต้องวิ่งจ้ำอ้าวทะลุ Regent’s Park สุดๆ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ทันคิวเข้ารอบสุดท้าย เฟลตามระเบียบ เจ้าหน้าที่บอกให้มาอีกทีพรุ่งนี้ T^T …..ในเมื่อเข้าไม่ได้ ก็ไปที่อื่นต่อเลยก็ได้ หึ! เราเลยเดินไปสถานี Camden Town นั่งรถไฟใต้ดินสาย Northern ไปลงสถานี Leicester Square แบกสังขารเดินไปถ่ายรูป-อัดวีดีโอที่ Cecil Court (ว่ากันว่าเป็นไอเดียตรอกไดแอกอน)

จากนั้นก็ลองไปดูที่อยู่สำนักงานของสำนักพิมพ์บลูมส์บิวรี่อีก 2 แห่งที่ค้นข้อมูลเจอในเน็ต…..ที่แรกคือ 50 Bedford Square (นั่งรถไฟใต้ดินสาย Northern จากสถานี Leicester Square มาลงสถานี Tottenham Court Road)

ส่วนที่สองคือ 36 Soho Square ที่นีีเดินมาจากที่แรกได้ ประมาณ 10 นาที

จะว่าไปที่อยู่สำนักงานนี่ก็น่างงนะ ทำไมไม่มีป้ายสำนักงานก็ไม่รู้อ่ะ แต่ก็ไปตามที่อยู่เป๊ะนะ…..และปิดท้ายที่เที่ยววันนี้ เราก็ไปที่พิคคาดิลลี่ (อีกแล้ว) ฮ่าๆ ไปร้านแฮมลี่ส์ซื้อไม้กายสิทธิ์เพิ่ม คราวนี้เป็นไม้ของเดรโก สเนป และโวลดี้ ส่วนไม้เอลเดอร์ก็ต้องตามล่าหาต่อไป เพราะของดันหมดสต็อกชั่วคราว เหอะๆ