Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the image-sizes domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/muggle-v.com/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the rank-math domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/muggle-v.com/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6114
ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์: เมืองลอนดอน [Part 1] | Muggle-V

ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์: เมืองลอนดอน [Part 1]

วันนี้พี่ Lily จะพาไปตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่เมืองลอนดอน (London) เมืองหลวงของประเทศอังกฤษกันค่ะ…..เอาล่ะ หยิบเพนซิฟประจำตัวแต่ละคนมา ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปดูความทรงจำของพี่กันเลย

 

วันที่ 11 กันยายน 2011

เมื่อวานเพิ่งย้ายที่พักแท้ๆ (จากหอพักมหาวิทยาลัยมาเป็นบ้านเช่า) ห้องก็ยังเคลียร์ของไม่เสร็จ นอนอยู่กับบ้านได้แค่คืนเดียวก็หนีเที่ยวซะละเรา อะไรจะไฟแรงอยากเที่ยวปานนั้นเนี่ย!! (ก็จองตั๋วเที่ยวลอนดอนมาตั้งเดือนกว่าแล้วนี่…..เดี๋ยวเปิดเรียน ป.โทจะไม่มีเวลาเที่ยวยาวๆเอา…..อีกอย่างค่าตั๋วรถไฟตอนที่จองก็ไม่ได้แพงมาก ใช้ส่วนลดของสมาชิกบัตร 16-25 railcard ได้ด้วย…..ทำตาปริบๆ อ้างเข้าไว้ๆ ^^)

วันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางโดยโทรเรียกแท็กซี่มารับที่บ้านเลย (ประเด็นคือยังไม่คุ้นทางกับบ้านใหม่ กลัวตกรถไฟ) แล้วไปที่สถานีรถไฟลีดส์ (Leeds) ขึ้นรถไฟรอบ 8.05น. ที่ชานชาลาที่ 9

ประมาณ2ชั่วโมงครึ่งต่อมา เราก็ถึงลอนดอน รถไฟแล่นเทียบชานชาลาที่ 0 (ก็แปลกดีนะ ปกติสถานีรถไฟส่วนใหญ่ไม่มีชานชาลาหมายเลขนี้) ที่สถานี King’s Cross (ซึ่งใช้ถ่ายทำภาค 1, 2, 5, 7.2)…..เอาล่ะ ถึงเวลาลุย! เริ่มต้นตามรอยของจริงจ้า!! >//<

พอออกจากรถไฟปุ๊บ ลากกระเป๋าเดินทางเดินไปถ่ายรูป อัดวีดีโอทั่วสถานีคิงส์ครอสเลยค่า บอกเลยว่าความรู้สึกตอนนั้นพอเห็นบรรยากาศสถานีรถไฟคิงส์ครอสนี่มันน่าดี๊ด๊ามาก (ถึงแม้ตอนนั้นสถานีกำลังซ่อมแซมหลายจุดก็เถอะ) คนอื่นเขามุ่งหน้าไปทางออก แต่เราไม่!!

ก่อนอื่นมุ่งตรงไปถ่ายรูปตรงกำแพงประตูโค้งที่เป็นแผงกั้นชานชาลาที่ 4 กับ 5 ก่อน ซึ่งเป็นที่ๆใช้ถ่ายทำฉากแผงกั้นเข้าชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 ในภาค1 กับ 2 จ้า

สักพักคนที่เดินไปเดินมาเริ่มซาละ เลยเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟดู ถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสะพานลอยที่เห็นในหนัง เพราะงงว่าทำไมที่เห็นอยู่เป็นสะพานแบบติดกระจก เจ้าหน้าที่ก็ใจดีนะ (คงเห็นยัยนี่แปลก ๆ ถ่ายรูปวนเวียนอยู่นั่นล่ะ ฮ่า ๆ) เขาถามว่ามานี่เพราะเรื่องแฮร์รี่ฯสินะ แล้วก็ชี้ที่สะพานกระจกนั่นแหละว่าคือจุดถ่ายทำหนัง

พอเราเดินลัดเลาะมาเรื่อยๆจากโถงชานชาลาหลักที่ 0-8 จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปหาชานชาลาที่ 9-11 อีกจุดหนึ่ง…..ตรงใกล้ๆทางไปมันเคยมีห้องพักด้วยนะ (แต่ตอนนี้ปิดซ่อมอยู่) เป็นห้องพักนักเดินทางที่เคยใช้ถ่ายทำตอนภาค 5 ตอนที่แฮร์รี่กับซิเรียสเข้าไปคุยกันเรื่องภาคี

ส่วนตรงระหว่างชานชาลาที่ 9 กับ 10 ของจริงจะไม่มีแผงกั้นนะ (เพราะงี้ทีมงานหนังถึงต้องถ่ายทำกันตรงชานชาลาที่ 4 กับ 5 ไง) แต่จะเป็นรางรถไฟติดกันเลย

จุดถ่ายรูปกับรถเข็นและป้ายชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 จากที่ค้นข้อมูลในหลายๆเว็บมาก่อน เห็นว่าเปลี่ยนตำแหน่งหลายที่อยู่ เคยอยู่ด้านในอาคารสถานีนะ แต่เพราะมีปัญหาหลากหลาย เช่น คนทำรถเข็นพัง คนเยอะรบกวนคนเดินทางอะไรประมาณนี้ ทางสถานีเขาเลยย้ายมาไว้ตรงจุดปัจจุบัน (ตอนช่วงที่เที่ยวคราวนี้) คือตรงห้องเล็กๆหน้าทางเข้าอาคารสถานีใกล้ชานชาลาที่ 1 แทน ประมาณว่าอยู่ด้านนอกอยากถ่ายรูป คิวยาวยังไง ตามสะดวกเลย

และในที่สุด…..ก็ได้ถ่ายรูปแล้ว ^^ ใครที่ไปเดี่ยวแบบเรา ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครถ่ายรูปให้นะ เพราะก็มีคนต่อคิวรอถ่ายรูปตลอดแหละ ก็หาใครสักคนช่วยถ่ายรูปให้ได้

พอถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ ซึมซับบรรยากาศหนำใจแล้ว ก็หาอะไรกินรองท้องหน่อยดีกว่า และตัวเลือกนั่นคือ…..ร้านแมคโดนัลด์ข้างสถานีคิงส์ครอสตรงข้ามจุดถ่ายรูปนั่นเอง ฮ่าๆ…..กินเสร็จ ก็ถึงเวลาชีพจรลงเท้าอีกครั้ง…..ลากกระเป๋าไปโรงแรมย่านสถานีที่จองไว้ และฝากกระเป๋าเดินทางก่อน แต่ยังเช็คอินไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา…..สักพักก็ออกตระเวนเที่ยวอีกที เที่ยวใกล้ๆก่อน ฆ่าเวลารอไปเช็คอินโรงแรม แรกสุดเราไปที่สถานี St. Pancras

สำหรับสถานีนี้ใช้ถ่ายทำแค่ตัวอาคารด้านนอกนะ ปรากฏในหนังภาค 2 ตอนรถฟอร์ดแองเกลียบิน

ถ้าเทียบดูกับตัวอาคารด้านนอกของสถานีคิงส์ครอส (ภาพที่โพสต์เป็นภาพหลังซ่อมแซมแล้ว) สถานีเซนต์แพนคราสนี่ สวย อลังการกว่าเยอะ

ด้านในก็ใหญ่กว่า (ก็แน่ล่ะ ก็เป็นสถานีรถไฟ Eurostar ข้ามไปยุโรปด้วยนี่หน่า)

มีรูปปั้นใหญ่ ๆ เก๋ ๆ ด้วยนะ อ่อ! แล้วที่สถานีเซนต์แพนคราสมีร้านของเล่น Hamleys สาขาย่อยด้วยนะ แต่ของเล่นแฮร์รี่มีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นของเล่นสำหรับเด็ก ๆ มากกว่า ถ้าอยากได้ของเล่นแฮร์รี่ควรไปสาขาใหญ่เลย

จากสถานีเซนต์แพนคราส เราก็เดินไปเรื่อยๆ จะเจอหอสมุด British Library ก่อน

และพอเดินต่อไปอีกก็จะถึงสถานี Euston สถานีนี้ไม่ได้ใช้ถ่ายทำหนังนะ แต่มาเกี่ยวกับแฮร์รี่ตรงที่ว่า เจเคเคยมึนตอนสัมภาษณ์ และโบ้ยประเด็นแผงกั้นชานชาลาที่ 9 กับ 10 ที่สถานีคิงส์ครอส ว่าเธอจำสับสนกับแผงกั้นที่สถานียูสตั้น…..แต่ เอ่อ ความจริงก็คือ สถานียูสตั้นเองก็ไม่มีแผงกั้นเหมือนกันจ้า เป็นรางรถไฟติดกันตะหาก

พอสำรวจสถานีนี้เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินย้อนกลับมา แต่เป็นอีกฝั่งของถนน เดินเลาะเส้นทางมาเรื่อยๆ ก็เจอมหาวิทยาลัย University College London (UCL)…..เห็นบรรยากาศแล้วน่าเรียนมากๆ อันดับ university rank ก็ดีด้วยอ่ะ (แต่ค่าครองชีพที่ลอนดอนกับค่าเล่าเรียนที่นี่สู้ไม่ไหวแฮะ ฮ่า ๆ)

เดินไปเดินมาแถวนั้นก็เห็นร้านหนังสือ Waterstones เข้าให้ ห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้วสิ ว่าจะเดินเล่นเข้าไปงั้นๆ แต่ไหงได้หนังสือติดมือออกมาด้วย 5 เล่ม (นิยาย 3 เล่ม กับหนังสือเกี่ยวกับแฮร์รี่อีก 2 เล่ม) กับของเล่นแฮร์รี่กล่องเล็กๆ (แบบที่มีขายในร้าน Kinokuniya ที่ไทย) เป็นสร้อยฮอร์ครักซ์ อีก 1 กล่องซะงั้นล่ะ โธ่! นิสัย ;P

เดินมาเรื่อย ๆ อีก ก็จะเจอ British museumเป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่ดังมากนะ แต่เสียดายเวลาสำหรับทริปนี้เราไม่พอ ไว้โอกาสหน้ามาลอนดอนใหม่ค่อยเข้าดูละกัน

จากนั้นเราก็เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที ก็ถึง Charles Dickens Museum เป็นบ้านของชาร์ลส์ ดิกเก้นส์นักเขียนชื่อดังในสมัยก่อน ผลงานดัง ๆ ก็เช่น A Christmas Carol, Oliver Twist, David Copperfield, Great Expectations และอีกมากมาย ถ้าใครสนใจด้านวรรณกรรม และประวัตินักเขียนชื่อดัง สถานที่นี้ก็น่ามาแวะมาเที่ยวมากนะ

เอาล่ะ พอดูเวลาแล้ว เราว่าไปจัดการเช็คอินโรงแรมเลยดีกว่า…..ทีนี้ จัดการที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเที่ยวต่อ…..เราซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบตั๋ว One Day โซน 1-2 ราคา 6.60 ปอนด์ (*อย่าลืมว่านี่คือราคาตอนปี 2011 นะคะ) เพราะคิดว่าถ้าต้องขึ้น ๆ ลง ๆ นั่งรถไฟเกิน 3 รอบ มันก็พอคุ้มล่ะ

(เรื่องประเภทของตั๋วนี่ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนนะ รวมถึงจำนวนครั้งในการนั่งรถไฟด้วย บางคนอาจจะเลือกตั๋วแบบเติมเงินอย่าง Oyster Card ก็ได้ ราคาก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงวันและเวลาที่ใช้ นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขประเด็นส่วนลดจากบัตรประเภทต่างๆด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติม >>คลิกที่นี่<<)

พอได้ตั๋วเรียบร้อย ก็นั่งรถไฟใต้ดินสาย Piccadilly จากสถานี King’s Cross St. Pancras ไปลงสถานี Piccadilly Circus เลยจ้า

พอถึงสถานีที่หมายพิคคาดิลลี่เซอร์คัส ขึ้นมาจากใต้ดินปุ๊บ…..แม่เจ้า มันเริ่ดมาก!! บรรยากาศเหมือนไทม์สแควร์ที่นิวยอร์คเลยอ่ะ ครึกครื้นดี ชอบๆ แต่ก็ชมบรรยากาศนานไม่ได้ ต้องบึ่งไปร้านแฮมลี่ส์สาขาใหญ่ก่อน เพราะร้านจะปิด 6 โมง…..พอดูเวลาแล้ว เอาว่ะ!! เดินจ้ำอ้าวสิเนี่ย ว่าแต่ถนน Regent มันอยู่มุมไหนละคะพี่น้อง!! ถนนก็มีหลายแยกด้วยสิ 3G จ๋า App Map จ๋าช่วยที!!…..แต่สุดท้ายก็ต้องใช้วิธีเดินวนไปดูป้ายชื่อถนนทุกแยก ทุกหัวมุมตึกช่วยตัวเองอยู่ดี

*ข้อมูลเวลาเปิด-ปิดร้าน Hamleys สาขา Regent Street >>คลิกที่นี่<<

และแล้วก็ไปทันร้านปิดแบบเส้นยาแดง ร้านอลังการน่าเดินนานๆมากเลย ฟินสุดๆ

แต่ว่าก็ได้เดินแค่ 10 นาที เลยซื้อแค่ (แค่…เหรอ!?) ชุดไม้กายสิทธิ์กองทัพดัมเบิลดอร์ ไม้กายสิทธิ์ลูน่าภาค 7 ปากกาไม้กายสิทธิ์แฮร์รี่กับโวลเดอมอร์…..เท่านั้นเอ๊ง!!!! เรื่องราคารวมทั้งหมดอย่าให้ said เลยดีกว่านะ เดี๋ยวตกใจกัน ฮ่า ๆ

พอซื้อของเสร็จ ด้วยสภาพแบบยัยบ้าหอบฟาง แต่รู้สึกฟินเว่อร์กับการช็อปแบบสุดๆ ^^ เลยลงเอยด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินย้อนเส้นทางเดิมเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อน

จัดการเอาของเก็บเรียบร้อยแล้วก็ออกเที่ยวต่อ…..คราวนี้ไปลองดูย่านที่พักของคนทั่วไป ที่เขาว่ากันว่าเป็นรูปแบบไอเดียแนวย่านบ้านของกริมโมลด์เพลซ (จริงๆกริมโมลด์เพลซทำฉากและถ่ายทำที่สตูดิโอลีฟเดนเลย) กันบ้าง

แต่ก็มีข่าวลือว่าเป็นหลายจุดเกิ๊น เพราะฉะนั้นเราก็ไปดูมันทุกจุดละกัน…..จุดแรกคือ Claremont Square จุดนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักนัก เลยเดินไปได้

พอพิจารณาลักษณะแคลร์มอนท์สแควร์เสร็จ ก็เดินย้อนกลับมาสถานีคิงส์ครอส และก็มิวายเห็นจุดถ่ายรูปกับป้ายชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 มีคนถ่ายอยู่น้อย ถ้างั้นขอถ่ายรูปอีกรอบสนองนี้ดหน่อยละกัน

จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดินสาย Piccadilly จากสถานี King’s Cross St. Pancras ไปลงสถานี Holborn แล้วเดินต่อไปดูสถานที่ๆ Lincoln’s Inn Fields ซึ่งตัวบ้านย่านนี้ก็ยังไม่ค่อยตรงกับแบบบ้านของกริมโมลด์เพลซซะทีเดียว

เอาล่ะ! ปิดท้ายที่เที่ยววันนี้ขอนั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Piccadilly Circus อีกรอบ ไปครึกครื้นแบบ No Alcohol ชมแสงสีย่าน Piccadilly Circus กับ Shaftesbury Avenue ที่ปรากฏในฉากที่กลุ่มแฮร์รี่หายตัวมาจากงานแต่งงาน ในภาค 7.1 ก่อนละ

 *ยังมีตอนต่อไปอีกนะคะ

ตอนที่ 2 >>คลิกที่นี่<<

ตอนที่ 3 >>คลิกที่นี่<<

ตอนที่ 4 >>คลิกที่นี่<<

***************************************************************************

แหล่งอ้างอิง

– หนังสือ Harry Potter Page to Screen

– หนังสือ Harry Potter on Location

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต ตอนที่ 1

– ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต ตอนที่ 2

– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 2 [1/3]

– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 2 [2/3]

– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 2 [3/3]

– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 7

– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 15

– เว็บไซต์ Cheapukholidaybreaks (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Empireonline (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Ezinemark (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Hp-lexicon (อ้างอิง)

– เว็บไซต์ Travelbritannia (อ้างอิง)