อาถรรพ์ของวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนั้นเกิดขึ้นจากคำแช่ง (Jinx) ที่ลอร์ดโวลเดอมอร์แช่งเอาไว้ หลังจากที่เขาถูกดัมเบิลดอร์ปฏิเสธไม่ให้สอนในวิชาดังกล่าว
“แฮกริดบอกเราไงว่าไม่มีใครอยากทำงานนี้ เขาว่าตำแหน่งนี้ถูกแช่งเอาไว้”
– ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.13
ที่มาของคำสาปแช่ง
ขณะที่ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล ยังเป็นนักเรียนอยู่ เขาได้ข้อมูลที่น้อยคนจะรู้ว่าศาสตราจารย์เมอร์รี่ธอตที่สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ซึ่งแก่ชราและสอนที่ฮอกวอตส์มานาน “เกือบ 50 ปี” กำลังวางแผนเกษียณอายุ (เจ้าชายเลือดผสม บ.17) ทันทีที่ศาสตราจารย์กาลาเทีย เมอร์รีธอต เกษียณอายุจริง ๆ ในเดือนมิถุนายน 1945 (อ้างอิงจากเดือนที่ฮอกวอตส์ปิดภาคเรียนเป็นประจำทุกปี) ทอมที่จบการศึกษาในปีนั้น โดยพ่วงด้วยตำแหน่งประธานนักเรียนและพรีเฟ็คของบ้านสลิธีรินคนเก่ง ก็ขอสมัครงานในตำแหน่งดังกล่าวกับอาจารย์ใหญ่อาร์มันโด ดิพพิต แต่ถูกปฏิเสธอย่างนุ่มนวล แม้ศาสตราจารย์ดิพพิตจะรักใคร่ทอมมากก็ตาม เพราะเขามองว่าอายุสิบแปดปียังน้อยประสบการณ์เกินไป และเชื้อเชิญให้เขากลับมาสมัครใหม่ในอีกสองสามปีข้างหน้า สาเหตุที่ดิพพิตไม่รับทอมเข้าทำงานส่วนหนึ่งเพราะดัมเบิลดอร์เพื่อนร่วมงานของเขาหาเหตุผลมาอธิบายเพื่อโน้มน้าวไม่ให้รับทอมเข้าสอน (ดัมเบิลดอร์ไม่ได้บอกเหตุผลทั้งหมดกับดิพพิต) (เจ้าชายเลือดผสม บ.20)
ทอม: “ผมได้ยินว่าคุณเป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นการเลือกที่สมควรมาก”
ดัมเบิลดอร์: “ฉันดีใจที่เธอเห็นด้วย”
– เจ้าชายเลือดผสม บ.20
ฤดูหนาวที่หิมะตกปีหนึ่ง ขณะที่ดัมเบิลดอร์ขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่ ดูเหมือนตำแหน่งนี้จะว่างเว้นผู้สอนอีกครั้ง ทอม ริดเดิ้ลที่เห็นโอกาสก็หวนกลับมาฮอกวอตส์อีกครั้งเพื่อหวังจะได้เป็นอาจารย์อีกเช่นเคย ครั้งนี้เขากลับมาด้วยรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปพร้อมกับชื่อใหม่ที่เขาคิดขึ้นเอง “ลอร์ดโวลเดอมอร์” ทว่าดัมเบิลดอร์ยืนยันที่จะเรียกเขาด้วยชื่อเดิม และปฏิเสธความต้องการของทอมอีกหน ดัมเบิลดอร์รู้ดีว่าทอมไม่ได้อยากเป็นครู แต่กลับมาด้วยจุดประสงค์อื่น จุดประสงค์ที่ทอมไม่ยอมขอออกมาตรง ๆ แต่เขาพอคาดเดาแผนการได้ว่าทอมมองฮอกวอตส์เป็นคลังเวทมนตร์ และในบทบาทอาจารย์ (แน่นอนว่ามีอำนาจ) เขาสามารถสร้างสมัครพรรคพวกเพิ่มได้จากบรรดานักเรียนของเขา (เจ้าชายเลือดผสม บ.20)
“เขาต้องการสอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแน่นอน ผลลัพธ์ของการพบปะสั้น ๆ ของเราพิสูจน์ได้แน่ เธอรู้ไหม เราไม่เคยมีครูสอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่อยู่ได้นานเกินกว่าหนึ่งปีเลย ตั้งแต่ฉันปฏิเสธไม่ให้ตำแหน่งนั้นแก่ลอร์ดโวลเดอมอร์”
– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เจ้าชายเลือดผสม บ.20)
การถูกปฏิเสธครั้งนี้ รวมถึงชนวนเหตุอื่นจากการสนทนากับดัมเบิลดอร์ทำให้โวลเดอมอร์สาปแช่งวิชานี้ไม่ให้ใครก็ตามที่มารับตำแหน่ง อยู่ในตำแหน่งได้เกิน 1 ปี (ก่อนจากฮอกวอตส์ไปในการพบกันครั้งนั้น โวลเดอมอร์ได้แอบเอารัดเกล้าของเรเวนคลอที่เขาเปลี่ยนให้มันกลายเป็นฮอร์ครักซ์มาซ่อนไว้ในห้องต้องประสงค์ของฮอกวอตส์ด้วย)
ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ได้พยายามหาหนทางในการแก้หรือล้างคำแช่งของโวลเดอมอร์หรือไม่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะท้ายที่สุดคำแช่งยังดำเนินต่อไปนับแต่นั้น
ศาสตราจารย์ผู้ตกเป็นเหยื่อในคำแช่งนี้
ไม่มีข้อมูลรายชื่อศาสตราจารย์ที่ขาดหายไปในช่วงดัมเบิลดอร์เริ่มเป็นอาจารย์ใหญ่ราว ค.ศ. 1965 – 1990 หากช่วงเวลานี้ถูกต้องจะมีอาจารย์วิชานี้มากถึง 25 คน
“เขา (ล็อกฮาร์ต) เป็นคนเดียวต่างหากสำหรับตำแหน่งนี้ ฉันหมายความว่าเขาเป็นคนเดียวจริง ๆ ที่มาสมัคร ตอนนี้จะหาครูสอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดน่ะยากมากจริง ๆ ไม่มีใครอยากรับงานนี้ รู้มั้ย ทุกคนเริ่มคิดว่ามันเป็นงานต้องสาป ไม่มีครูสอนวิชานี้คนไหนอยู่ได้นานพ้นปีเลย”
– รูเบอัส แฮกริด (ห้องแห่งความลับ บ.7)
- ศาสตราจารย์ควิรินัส ควีเรลล์: (1991-2) ปีนั้นมีเขาเพียงคนเดียวที่ยื่นสมัครสอนป้องกันตัวฯ (ห้องแห่งความลับ บ.7) หลังย้ายวิชาที่สอนจากวิชามักเกิ้ลศึกษามาสอนวิชานี้ได้เพียงหนึ่งปีการศึกษา โวลเดอมอร์ที่สิงสู่ร่างเขาอยู่ก็ทำให้เขาถึงแก่ความตาย
- กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต: (1992-3) หลังเข้าสอนที่ฮอกวอตส์ เพราะไม่มีใครคนอื่นลงชื่อสมัคร ดัมเบิลดอร์จึงจำเป็นต้องรับเขาเข้าสอน และปล่อยให้สถานการณ์มากมายเปิดโปงความเลวร้ายของล็อกฮาร์ต ที่หลอกลวง สร้างชื่อจากการขโมยผลงานความรู้ของคนอื่น และพ้นสภาพศาสตราจารย์จากการถูกคาถาลบความทรงจำของตัวเองตีกลับ เพราะใช้ไม้กายสิทธิ์หัก ๆ ของรอน วีสลีย์ เสกคาถา
- ศาสตราจารย์รีมัส ลูปิน: (1993-4) เขาเป็นที่ประทับใจของเด็ก ๆ กับบทเรียนของเขา แต่แล้วเมื่อถูกสเนปเปิดโปงเรื่องที่เขาเป็นมนุษย์หมาป่า ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งไปในท้ายที่สุด
- บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ หรือศาสตราจารย์อลาสเตอร์ แม้ด-อาย มู้ดดี้ (ตัวปลอม): (1994-5) หลังถูกจับได้ว่าเขาไม่ใช่แม้ด-อายตัวจริง คอร์นีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ในขณะนั้นก็ส่งผู้คุมวิญญาณมาจุมพิต และทำให้เขาตายทั้งเป็นไปตลอดกาล เห็นได้ชัดว่าโวลเดอมอร์ไม่ได้สนใจบาร์ตี้ เคร้าช์ผู้ภักดีว่าจะมีชะตากรรมอย่างไรเมื่อเขาก้าวเข้ามาเป็นศาสตราจารย์วิชานี้ เขาสนใจเพียงแผนการที่ทำให้เขากลับคืนชีพอีกครั้ง
- โดโลเรส เจน อัมบริดจ์: (1995-6) เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนนักเรียนแบบท่องจำ และไม่อนุญาตให้มีการใช้ไม้กายสิทธิ์ในคลาสเรียนของเธอ เธอพ้นจากตำแหน่งเพราะถูกเซนทอร์เล่นงาน และพฤติกรรมที่เธอกระทำกับนักเรียนด้วยการใช้ความรุนแรง
- เซเวอรัส สเนป: (1996-7) เขาสอนที่ฮอกวอตส์มานานกว่า 14 ปี ซึ่งสมัครสอนครั้งแรกในตำแหน่งวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แต่ถูกดัมเบิลดอร์ปฏิเสธ และปฏิเสธเสมอนับแต่นั้น แต่สเนปก็ยังพยายามสมัครอยู่เป็นระยะตั้งแต่ได้สอนที่ฮอกวอตส์ (ภาคีนกฟีนิกซ์ บ.17) หากดัมเบิลดอร์แน่ใจว่าวิชานี้โดนคำแช่งไว้จริง ๆ จึงยืนกรานไม่ให้เขาสอนในวิชานี้ ก็ดูเป็นเหตุผลที่เชื่อถือได้ แต่ท้ายที่สุด เมื่อไม่มีใครสมัครในตำแหน่งนี้ เซเวอรัส สเนปที่ต้องสละวิชาปรุงยาให้ซลักฮอร์น ซึ่งปรารถนาจะได้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ก็สมหวังในที่สุด แต่แล้วเขาก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะสังหารอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และถูกตราหน้าในฐานะผู้หักหลังภาคี เป็นไปได้ว่าดัมเบิลดอร์ที่วางแผนอะไรไว้ตลอดปีนั้น จะมั่นใจว่าสเนปอยู่ได้แค่ปีเดียว เพราะท้ายที่สุดเขาต้องลงมือสังหารตนเองแทนเดรโก
“เขา (ดัมเบิลดอร์) ไม่ยอมให้ผมสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด รู้ไหม ดูเหมือนจะคิดว่ามันอาจทำให้ เอ่อ เกิดการหวนกลับ… จะยั่วยวนให้ผมกลับไปสู่วิถีเก่า ๆ”
– เซเวอรัส สเนป (เจ้าชายเลือดผสม บ.2)
- ในปี 1997-8 วิชานี้ถูกยกเลิกไป และแทนที่ด้วยวิชาศาสตร์มืด โดยมี อะมีคัส แคร์โรว์ ผู้เสพความตายเป็นผู้สอน เท่ากับว่าวิชานี้ว่างเว้นผู้สอนไปหนึ่งปีเต็ม
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากคำแช่งนี้คือ โวลเดอมอร์ไม่ได้มีเป้าประสงค์เพื่อให้คนรับตำแหน่งเหล่านั้นถึงแก่ความตาย แค่พ้นจากตำแหน่งไปเท่านั้น การตายของควีเรลล์เป็นกรณีเดียวเท่านั้นเท่าที่เราทราบว่าเสียชีวิตในระหว่างรับตำแหน่ง
สิ้นสุดคำแช่ง
เมื่อโวลเดอมอร์เสียชีวิตลงในวันที่ 2 พฤษภาคม 1998 คำแช่งที่โวลเดอมอร์เคยแช่งวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดไว้ก็สิ้นสุดลง ตอนนี้ฮอกวอตส์สามารถเก็บอาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนเก่งให้อยู่กับฮอกวอตส์ได้นานเท่าที่เขาหรือเธอต้องการจะสอนแล้ว (เจ.เค.โรว์ลิ่ง)
เกร็ดน่ารู้
- เจ.เค.โรว์ลิ่ง เคยจำแนกรายละเอียดของคำที่ใช้อธิบายคาถาต่าง ๆ ไว้ ว่า Jinx เป็นคาถาที่สร้างความน่ารำคาญแต่ขบขัน เช่น คำแช่งมัดลิ้น หรือคำแช่งทำให้ลอยกลับหัวที่สเนปโดน ขณะที่ Curse สงวนไว้กับเวทมนตร์ศาสตร์มืดที่เลวร้ายที่สุด อย่างคำสาปพิฆาต (JKRowling.com) อย่างไรก็ตาม Jinx ที่เป็นคาถาทั้งหมดในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ล้วนมีผลเพียงระยะสั้น ๆ หรือชั่วคราว ขณะที่คำแช่งของทอม ริดเดิ้ล ต่อตำแหน่งศาสตราจารย์วิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนั้นแตกต่างออกไป มันคงทน และยืนยาวกว่าคำแช่งขบขันที่ใช้เล่นงานคนอื่นให้ทุกข์ทรมานเพื่อความขบขันสะใจของผู้ร่าย ขณะเดียวกันก็มีจุดประสงค์ให้เกิดโชคร้ายที่ต่างไปจากคำแช่งทั่วไป เพราะมีเจตนาแบบกว้าง ไม่ได้เจาะจงผลที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นใครก็ตามที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งไป ให้อยู่ได้ไม่ถึงปี หากพิจารณานิยามของ เจ.เค. ดูเหมือนว่า การแช่ง (Jinx) ของโวลเดอมอร์ มีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความตลกร้ายของตัวเองจากการถูกปฏิเสธไม่ให้สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด อย่างไรก็ตามไม่มีข้อบ่งชี้แน่ชัดว่าการแช่งของโวลเดอมอร์นั้นกระทำอย่างไร มีการโบกไม้กายสิทธิ์หรือไม่ หรือเป็นการกล่าวคำแช่งออกไปด้วยความโกรธแค้นและอยากเอาคืนให้สาสม ตัวอย่างการบ่งชี้ถึงการใช้เวทมนตร์โดยไม่ต้องพึ่งไม้กายสิทธิ์ เห็นได้จากกรณีของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ความโกรธรุนแรงของเขาทำให้ป้ามาร์จตัวพองเป็นลูกโป่ง
- ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ระบุความหมายของ “สาป” ไว้ว่าเป็นคำแช่งให้เป็นไปต่าง ๆ ของผู้มีฤทธิ์อำนาจ เช่น เทวดา ฤๅษี แม่มด ส่วนคำว่า “แช่ง” หมายถึง กล่าวด้วยตั้งใจมุ่งร้ายเพื่อให้เขาเป็นเช่นนั้น และ “สาปแช่ง” คือ การกล่าวมุ่งร้ายให้ผู้อื่นเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง เช่น สาปแช่งไม่ให้ผุดให้เกิด จะเห็นได้ว่าความหมายของคำทั้งสามนั้นมีความใกล้เคียงกันอย่างมาก จุดต่างอย่างหนึ่งคือ คำสาปจะต้องมาจากผู้มีฤทธิ์อำนาจ ขณะที่การแช่งไม่ได้เจาะจง แต่มาจากเจตนามุ่งร้าย
- เฮอร์ไมโอนี่บอกกับเราว่าผู้แช่งจะต้องเพ่งสายตาไปที่คนถูกแช่งโดยไม่ให้คลาดสายตา (ศิลาอาถรรพ์ บ.11) แต่การแช่งของโวลเดอมอร์นั้นแตกต่างออกไป เพราะเป็นการแช่งโดยไม่มีเป้าหมายให้เพ่งมอง แต่แช่งไปยังใครก็ตามที่ดำรงตำแหน่งอาจารย์วิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แนวคิดที่ว่าโวลเดอมอร์มาคอยเพ่งมองเหยื่อเพื่อแช่งถูกหักล้างได้ทันที เพราะช่วงเวลาที่เขาสิ้นอำนาจไป (1981-1994) เขาซ่อนตัวและสูญเสียอำนาจ ไม่สามารถมาเพ่งมองใครได้ แต่คำแช่งยังดำเนินต่อไป หรืออีกกรณีที่อาจเป็นไปได้ก็คือ เขาแช่งใส่ห้องเรียนวิชานี้ การเพ่งมองจึงเพ่งมองไปที่ห้องเรียนตลอดการแช่ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อสรุปถึงวิธีการแช่งของเขา
- เจ.เค.โรว์ลิ่ง ระบุว่าสิ่งที่โวลเดอมอร์ทำเป็นคำสาป (Curse) ครั้งหนึ่งในระหว่างการตอบคำถามเด็ก ๆ ที่ White House Egg (อ้างอิง)
- เจ.เค.โรว์ลิ่ง ยืนยันว่า แรงบันดาลใจของเรื่องนี้มีที่มาจากภาพยนตร์ This is Spinal Tap ที่มือกลองของวง Spinal Tap มักเสียชีวิตด้วยสาเหตุประหลาด (เจ.เค.โรว์ลิ่ง 1, 2) คนแรกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะทำสวน คนต่อมาสำลักอาเจียนตาย ตามมาด้วยตัวไหม้ไฟได้เองขณะเล่นอยู่บนเวที (Wikipedia)
ช่วงเวลาที่แช่ง
ปีที่โวลเดอมอร์ทำการแช่งวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนั้นแยกเป็น 2 ไทม์ไลน์ ซึ่งน่าจะเป็นความผิดพลาดของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ผู้ประพันธ์ในความคลาดเคลื่อนของเวลา
ไทม์ไลน์ที่ 1
ดัมเบิลดอร์เล่าให้แฮร์รี่ฟังว่า หลังจากถูกดิพพิตปฏิเสธไม่รับเขาเป็นอาจารย์ที่ฮอกวอตส์ในปี 1945 ปีที่ทอมจบการศึกษา เขาก็ไปทำงานให้ร้านบอร์กินและเบิร์กส์ทันที หลังจากนั้น “ไม่นาน” เขาก็ได้รับมอบหมายงานพิเศษให้ไปดีลซื้อชุดเกราะวิเศษฝีมือก๊อบลินจากเฮปซิบาห์ สมิท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 10 ปีก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะนัดพบกับลอร์ดโวลเดอมอร์ เพื่อขอมาสอนในฮอกวอตส์อีกครั้ง
เมื่ออิงจากคำว่าทำงาน “ไม่นาน” จากปี 1945 ที่เขาเรียนจบและทำงานไม่นาน 10 ปีต่อมาที่พบกับดัมเบิลดอร์เพื่อของานที่ต้องการจึงน่าจะอยู่ในช่วงฤดูที่มีหิมะตกในปี ค.ศ.1955-7 (เจ้าชายเลือดผสม บ.20)
ไทม์ไลน์ที่ 2
แต่เมื่อเราพิจารณาจากไทม์ไลน์ของลูปินซึ่งเกิดในปี 1960 ถูกเกรย์แบ็กเล่นงานจนกลายเป็นมนุษย์หมาป่าในปี 1965 และเข้าเรียนฮอกวอตส์ในปี 1971 เหตุการณ์นัดพบเพื่อคุยเรื่องตำแหน่งงานวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด จึงกลายเป็นฤดูหนาวที่มีหิมะตก (เจ้าชายเลือดผสม บ.20) ในช่วงปี 1965-1971 จากคำกล่าวของลูปินซึ่งอธิบายว่าปีที่เขาเข้าเรียน ดัมเบิลดอร์เป็นอาจารย์ใหญ่แล้วพอดี ทำให้เขาได้โอกาสเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์แม้เป็นมนุษย์หมาป่าที่อันตราย
“แต่ว่าก่อนจะมีคนค้นพบน้ำยาระงับหมาป่า ครูจะกลายเป็นปีศาจร้ายเต็มตัวเดือนละครั้ง ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ครูจะมาเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ พ่อแม่คนอื่น ๆ คงไม่อยากให้ลูกเข้าใกล้ครู”
“แต่แล้วดัมเบิลดอร์ก็ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ เขาเป็นคนมีเมตตา เขาบอกว่าตราบใดที่เรามีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ครูจะมาโรงเรียนไม่ได้…”
– รีมัส ลูปิน (นักโทษแห่งอัซคาบัน บ.18 น.362)
จากจุดนี้เอง ดูเหมือนดัมเบิลดอร์จะพึ่งดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ในปี 1971 ปีที่ลูปินเข้าเรียน หรือก่อนหน้านั้นไม่กี่ปี เพราะดัมเบิลดอร์รู้ข่าวที่เกรย์แบ็กโอ้อวดไปทั่วเรื่องเล่นงานลูกชายของไลอัน ลูปิน เป็นไปได้ทีเดียวว่าดัมเบิลดอร์จะรู้แน่ชัดอยู่แล้วว่าเด็กชายมนุษย์หมาป่าคนนี้ต้องได้เข้าเรียนฮอกวอตส์เพราะมีชื่ออยู่ในหนังสืออนุญาต เมื่ออายุครบจึงได้เตรียมการเพื่อให้เขาได้เข้าเรียน โดยธรรมเนียมปฏิบัติของฮอกวอตส์แล้ว การพบปะเพื่อเชิญนักเรียนเข้าเรียนฮอกวอตส์จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เด็กคนนั้นอายุ 11 ปี ดัมเบิลดอร์อาจขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่ก่อนหน้านั้นแล้ว และเมื่อลูปินอายุครบ 11 ปี จึงได้เดินทางไปหาลูปินที่บ้านด้วยตนเอง และเชิญให้เขาเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ด้วยความตั้งใจจริง แม้เวลานั้นพ่อแม่ของเขาและคนมากมายจะมองว่ามนุษย์หมาป่าเป็นสิ่งมีชีวิตอันตรายและน่ารังเกียจ พวกเขาจึงไม่กล้าหวังว่าลูกชายจะได้เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ เลยสอนลูกด้วยตัวเองที่บ้าน และกันลูกออกจากสังคม (Pottermore)