ทอม ริดเดิ้ล (Tom Riddle)

ทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ (Tom Riddle Senior)

ทอม ริดเดิ้ล ชายหนุ่มมักเกิ้ลผู้เลอโฉม ลูกชายเศรษฐีเจ้าของที่ดินคฤหาสน์หลังงามในหมู่บ้านลิตเติลแฮงเกิลตัน ทอม ริดเดิ้ล คือพ่อแท้ ๆ ของลอร์ดโวลเดอมอร์

ครอบครัวริดเดิ้ล

ทอม ริดเดิ้ล เกิดในปี 1905 เป็นมักเกิ้ลชาวอังกฤษ ลูกชายเศรษฐีเจ้าของที่ดินโทมัสและแมรี่ ริดเดิ้ล ทั้งสามอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังงามเหนือหมู่บ้านลิตเติลแฮงเกิลตัน ที่ยอร์กเชอร์ พวกเขามีแม่บ้านคอยรับใช้ และแฟรงก์ ไบรซ์ ทหารผ่านศึกเป็นคนสวนคอยดูแลบ้าน

“ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นคฤหาสน์หลังงามและอาจจัดเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดและโอ่อ่าที่สุดในรัศมีหลายกิโลเมตรได้อย่างไม่ยาก…”

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี บ.1
ภาพวาดคฤหาสน์ริดเดิ้ลจาก Pottermore
ภาพวาดคฤหาสน์ริดเดิ้ลจาก Pottermore

บุคลิกลักษณะ

ทอมเป็นหนุ่มหล่อผมดำ (เจ้าชายเลือดผสม บ.10) เขาและพ่อแม่ไม่ได้เป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน พวกเขาต่างมีนิสัยหัวสูงและเย่อหยิ่งเช่นเดียวกัน ซึ่งหากเชื่อตามคำล่ำลือของคนในหมู่บ้านลิตเติลแฮงเกิลตันแล้ว ทอม ริดเดิ้ล จัดว่าแย่ยิ่งกว่าพ่อแม่ของเขาเสียอีก (ถ้วยอัคนี บ.1)

มอร์ฟินบอกว่าทอมกับลูกชายที่ไม่ได้ตั้งใจ หน้าตาเหมือนกันอย่างกะแกะ (เจ้าชายเลือดผสม บ.17 น.351)

“ฉันคิดว่าแกคือมักเกิ้ลนั่นเสียอีก” มอร์ฟินกระซิบ “แกเหมือนไอ้มักเกิ้ลนั่นยังกะแกะ”

“มักเกิ้ลไหน” ริดเดิ้ลถามเสียงห้วน

“ไอ้มักเกิ้ลที่นังน้องสาวของฉันติดใจน่ะสิ ไอ้มักเกิ้ลที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่เลยไปทางนั้น” มอร์ฟินตอบ และโดยไม่คาดคิด เขาถ่มน้ำลายลงบนพื้นระหว่างทั้งสอง “แกเหมือนไอ้ริดเดิ้ลนั่นจริง ๆ แต่ตอนนี้มันก็ต้องแก่แล้วสิ มันแก่กว่าแกตอนนี้ฉันนึกออกแล้ว…”

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม บ.17 น.352

เรื่องราวชีวิต

ในปี 1925 ทอม ริดเดิ้ล กำลังคบหาดูใจอยู่กับเซซิเลีย หญิงสาวหน้าตาน่ารัก และดูเหมือนศีลจะเสมอกัน (เจ้าชายเลือดผสม บ.10 น.209)

ระหว่างที่เขาขี่ม้าเล่นตามลำพังในเดือนกันยายน 1925 เขาถูกมอร์ฟิน ก๊อนท์ พ่อมดที่อาศัยอยู่ในกระท่อมโกโรโกโสใกล้หมู่บ้าน เสกคำแช่งหรือคำสาปเล่นงานให้เป็นลมพิษปวดแสบปวดร้อน เพราะเขาเกลียดมักเกิ้ลมาก แถมยังจับได้ว่าน้องสาวของตนเองแอบชอบเขา เป็นเหตุให้มอร์ฟินต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในความผิดฐานทำร้ายมักเกิ้ลในวันที่สิบสี่กันยายน (ถ้วยอัคนี บ.10)

เซซิเลีย: “โธ่เอ๋ย น่าเกลียดอะไรอย่างนี้! คุณพ่อของเธอรื้อรังหนูนั่นทิ้งไปไม่ได้หรือ ทอม”

ทอม: “นี่ไม่ใช่ของเรา ทุกอย่างที่อยู่อีกด้านของหุบเขาเป็นของเรา แต่กระท่อมนี้เป็นของตาแก่จรจัดชื่อก๊อนท์กับลูกเขา ลูกชายน่ะบ้าชัด ๆ เลย เธอน่าจะได้ยินเรื่องที่พวกเขาเล่ากันในหมู่บ้านนะ – – “

เซซิเลีย: “ทอม ฉันอาจจะดูผิดไปนะ – – แต่มีใครตอกตะปูแขวนงูไว้ที่ประตูนั่นใช่ไหม”

ทอม: “พระเจ้าช่วย จริงของเธอ! ต้องเป็นเจ้าลูกชายแน่เลย ฉันบอกเธอแล้วว่าหมอนั่นน่ะไม่เต็มเต็ง อย่าไปมองเลย เซซิเลียที่รัก”

มอร์ฟิน: ” ‘ที่รัก’ ‘ที่รัก’ มันเรียกหล่อน แบบนี้มันก็ไม่เอาแกน่ะสิ”

– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี บ.10 น.207

เมื่อเมโรเพ ก๊อนท์ หญิงสาวที่คลั่งรักเขาอย่างหนักเป็นอิสระจากพ่อและพี่ชายโหดเหี้ยม เธอก็เริ่มวางแผนชีวิตใหม่และตั้งใจบอกลาบ้านเส็งเคร็งของเธอ ช่วงธันวาคม 1925 – มกราคม 1926 ทอม ริดเดิ้ล ก็พลาดตกอยู่ภายใต้อำนาจยาเสน่ห์ของเมโรเพ ก๊อนท์ และหนีตามเธอไป โดยทิ้งเซซิเลียหญิงสาวที่รักไว้เบื้องหลัง แน่นอนว่าเรื่องราวของชายหนุ่มร่ำรวยหนีตามหญิงจรจัดกลายเป็นประเด็นซุบซิบเรื่องเอกของคนในหมู่บ้านทันที

จากนั้นไม่นานหรือในทันทีที่หนีตามเธอมา เธอก็หลอกให้ทอมแต่งงานด้วย และเปลี่ยนนามสกุลของเธอจากก๊อนท์ เป็นริดเดิ้ล

มีนาคม 1926 เมโรเพ ภรรยาที่ใช้ยาเสน่ห์ผูกมัดเขาตั้งท้อง และเธอคิดแล้วว่าถึงเวลาที่ต้องเลิกใช้ยาเสน่ห์กับคนรักของเธอ เพราะเธอไม่อาจทนทรมานต่อสิ่งที่ทำต่อไปได้ และคิดว่าการที่เธอตั้งท้องจะทำให้คนที่เธอหลงรักอย่างดูดดื่มจะอยู่กับเธอต่อ แต่ทอมกลับทิ้งเธอ และหวนกลับคฤหาสน์ริดเดิ้ลในทันที พร้อมกับข่าวซุบซิบเรื่องเด็ดที่เขากลับมาเพราะ ‘ถูกตบตา’ และ ‘ถูกหลอกลวง’ สร้างสีสันในหมู่บ้านอีกครั้ง ดัมเบิลดอร์เชื่อว่าเขาไม่กล้าบอกกับใครตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะจะโดนกล่าวหาว่าเป็นคนบ้า แน่นอนว่าชาวบ้านเดาว่าเมโรเพคงโกหกทอม แกล้งทำเป็นว่ามีลูกกับเขา และเขาแต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลนั้น (เจ้าชายเลือดผสม บ.10)

หลังกลับมาอยู่ที่บ้าน ทอมกับเซซิเลียไม่ได้กลับมาคบหากันอีก

ลูกชายที่เขาทอดทิ้ง

ตอนแรก ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ เชื่อว่าเวทมนตร์ที่ไหลเวียนในตัวเขามาจากพ่อ และรังเกียจแม่ที่ทิ้งเขาไว้ที่สถานรับเลี้ยง โวลเดอมอร์สืบหาข้อมูลของทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ ตอนที่เรียนอยู่ฮอกวอตส์ เมื่อแน่ใจแล้วว่าพ่อของเขาไม่เคยเรียนที่นี่หรือเกี่ยวพันกับเวทมนตร์ ดัมเบิลดอร์เชื่อว่าตอนนั้นเองที่ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ ตัดสินใจสลัดชื่อของเขาทิ้งแล้วเริ่มต้นใช้ชื่อลอร์ดโวลเดอมอร์ และค้นพบความจริงว่าเวทมนตร์ของเขามาจากทางแม่ที่เขาเคยเกลียดนักหนา (เจ้าชายเลือดผสม บ.17 น.349)

เสียชีวิต

“นอนตาเบิกโพลงค้างอยู่! ตัวเย็นเหมือนน้ำแข็ง! ยังสวมชุดกินอาหารค่ำอยู่เลย”

– สาวใช้จากบ้านริดเดิ้ล (เจ้าชายเลือดผสม บ.1)
คฤหาสน์ของตระกูลริดเดิ้ล ที่มองเห็นได้ไกล ๆ จากสุสานของหมู่บ้านลิตเติลแฮงเกิลตัน

สิงหาคม 1943 ทอม ริดเดิ้ล เสียชีวิตพร้อมคนในครอบครัวในห้องนั่งเล่น (เจ้าชายเลือดผสม บ.17) ด้วยฝีมือของลูกชาย ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล หรือที่เรารู้จักในชื่อโวลเดอมอร์ แฟรงก์คนสวนเป็นเพียงคนเดียวที่อ้างว่าเห็นเด็กหนุ่มแปลกหน้า ผมสีเข้ม และขาวซีดเข้าไปในคฤหาสน์ก่อนจะเป็นข่าวใหญ่ว่าครอบครัวริดเดิ้ลเสียชีวิตยกครัว ทว่าไม่มีใครอื่นเห็นเด็กชายวัยรุ่นคนดังกล่าว แฟรงก์จึงถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรในตอนแรก แต่ด้วยหลักฐานชันสูตรทางการแพทย์ที่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายที่แท้จริงได้ว่าแฟรงก์ลงมือฆาตกรรม เขาจึงได้รับการปล่อยตัว และเดินทางกลับมายังคฤหาสน์ ทำหน้าที่เดิมของเขาเรื่อยมา แม้คนในหมู่บ้านจะยังป้ายสีความผิดให้เขา

ศพของริดเดิ้ลถูกฝังไว้ในป่าช้าของหมู่บ้านลิตเติลแฮงเกิลตัน การตายของทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ คือหนึ่งในการเปลี่ยนแหวนของตระกูลก๊อนท์เป็นฮอร์ครักซ์ (เจ.เค.โรว์ลิ่ง, Bloomsbury Live Chat)

หลังการเสียชีวิตของครอบครัวริดเดิ้ล คฤหาสน์หลังงามก็ถูกเปลี่ยนเจ้าของไปหลายมือ ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขารู้สึกว่าบ้านหลังนี้มีบรรยากาศแปลก ๆ กระทั่งเจ้าของปัจจุบันที่ซื้อบ้านหลังดังกล่าวไว้ แต่ไม่สนใจแม้แต่จะมาดู ซึ่งคนในหมู่บ้านเชื่อว่าเจ้าของคนปัจจุบันซื้อมันไว้ด้วย “เหตุผลเรื่องภาษี” และจ้างแฟรงก์ทำสวนเรื่อยมา จนเขาอายุเกือบเจ็ดสิบปี และเสียชีวิตในวันที่ 16 สิงหาคม 1994 ด้วยฝีมือโวลเดอมอร์เช่นเดียวกัน (ถ้วยอัคนี บ.1 น.15)

คืนร่างให้ลูกชาย

ในปี 1995 แผนการในการหวนคืนชีพและกลับมามีร่างกายที่แท้จริงของโวลเดอมอร์ก็สำเร็จลุล่วง ด้วยพิธีกรรมที่ทำน้ำยาชุบชีวิตโดยใช้กระดูกของพ่อที่ตายไปแล้วเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญ

“กระดูกของบิดา มอบให้ยามไม่รับรู้ จงชุบชีวิตบุตรชายให้ฟื้นคืนมา!”

หางหนอน (ถ้วยอัคนี บ.32)

ทักษะ

  • ขี่ม้า ทอมมีความสามารถด้านการขี่ม้า และเขามีม้าสีน้ำตาลแก่ขนเป็นมันเป็นหนึ่งในม้าเลี้ยงของเขา (เจ้าชายเลือดผสม บ.10 น.209)

เกร็ดน่ารู้

  • หลุมศพของครอบครัวริดเดิ้ลในภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี มีชื่อว่า Angel of the Death ออกแบบโดย Iain McCaig และขึ้นชิ้นงานจริงโดย Bryn Court (Harry Potter: Page to Screen น.144, 145, 413) Bryn Court ยังสร้างประติมากรรมอื่น ๆ ในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์และในภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ด้วย
  • ในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม บทที่ 10 ฉบับภาษาไทยระบุว่า ทอม ริดเดิ้ล เป็นลูกชายเจ้าของที่ดิน มาจากคำว่า squire’s son ซึ่ง squire ในอังกฤษมีความหมายถึงเจ้าของที่ดินหลักในหมู่บ้านหรือเขตปกครองนั้น หรือผู้ดีบ้านนอก ในช่วงศตวรรษที่ 19 สไควร์คือสถานะของผู้ช่วยอัศวิน ซึ่งมักได้รับรางวัลความดีความชอบด้วยการให้ครอบครองที่ดิน และร่ำรวยจากการปล่อยเช่าที่ให้กับคนในเขตปกครอง และอาจเป็นลอร์ดประจำคฤหาสน์นั้น ๆ แน่นอนว่ามันสะท้อนถึงสถานะของครอบครัวริดเดิ้ลในสังคมมักเกิ้ลอังกฤษเวลานั้นได้เป็นอย่างดี หากนึกภาพไม่ออก ลองนึกภาพครอบครัวคลอว์ลีย์จากซีรีส์ Downton Abbey ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ดาวน์ตัน แอบบีย์ คอยช่วยเหลือชาวสวน ชาวไร่ ที่อาศัยในเขตเทศมนฑลของยอร์กเชอร์แห่งหนึ่ง ซึ่งครอบครัวของตนมีบทบาทดูแลและให้เช่าที่
  • ในหนังสือ ป้ายหลุมศพของทอม ริดเดิ้ลเป็นเพียงหินอ่อน และมีชื่อเขาคนเดียว แต่ในภาพยนตร์ป้ายหลุมศพนำเสนอเป็นหลุมฝังศพของทั้งสามคนอย่างสวยงาม (ถ้วยอัคนี บ.32)
  • ครั้งแรกที่ป้ายแกะสลัก Angel of the Death ได้รับการเผยแพร่เป็นครั้งแรก แฟน ๆ หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในตอนนั้นเรียกร้องให้ค่ายหนังทำการแก้ไขข้อความที่สลักบนหลุมใหม่ เนื่องจากข้อมูลของทอม ริดเดิ้ล นั้นผิดพลาด รูปสลักเดิมระบุข้อมูลว่า ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล 1915 – 1943 ซึ่งชื่อนั้นเป็นชื่อลูกชาย และปีเกิดของเขาควรจะเป็น 1905 ขณะเดียวกันปีที่พ่อแม่ของทอม ริดเดิ้ล เสียชีวิตของเดิมเป็นปี 1913 ที่ความเป็นจริงควรเป็น 1943 ปีเดียวกับที่ลูกชายเสียชีวิต ซึ่งทีมตัดต่อได้ใช้ CG แก้ไขข้อผิดพลาดนี้ในภาพยนตร์ที่ฉายจริง ปัจจุบันรูปสลักที่ข้อมูลผิดพลาดนี้จัดแสดงอยู่ที่ Warner Bros. Studio Tour London – The Making of Harry Potter
รูปแกะสลักป้ายหลุมศพครอบครัวริดเดิ้ล จาก Warner Bros. Studio Tour London – The Making of Harry Potter ภาพโดย Adrian Pink