ในตอนท้าย, แฮร์รี่ก็ได้ครอบครองฮอร์ครักซ์ชิ้นที่สาม แต่การมีตัวตนมีผลลัพธ์ที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้เกี่ยวกับเพื่อนรักทั้งสาม ที่ได้ร่วมแบ่งปันสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันแตกสลายได้…จนตอนนี้
โดยคำจำกัดความแล้ว, ฮอร์ครักซ์คือชิ้นส่วนของวิญญาณอันชั่วร้ายของโวลเดอมอร์ ซึ่งความมีตัวตนของมันจะครอบงำและมีอารมณ์ก้าวร้าวที่รุนแรงขึ้นกับทุกคนที่เข้าใกล้มัน แรดคลิฟฟ์ เปิดเผยว่า “หากใครได้สวมใส่มันเข้าจริงๆ ผลที่จะได้รับตามมาคือพวกเขาจะกลายเป็นคนฉุนเฉียว หวาดระแวง และค่อนข้างน่ากลัว, พูดถึงโดยส่วนใหญ่นะ”
ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง เมื่อพ่อมดหนุ่มพยายามทำลายมัน ฮอร์ครักซ์ไม่สะทกสะท้านต่อเวทมนตร์ของพวกเขาเลย “พวกเขาพบว่ามันจะถูกทำลายได้โดยดาบของกริฟฟินดอร์ ซึ่งแน่นอนว่ามันหายไปแล้ว” แรดคลิฟฟ์ กล่าว
รอนเหมือนจะอ่อนไหวต่อพลังอำนาจของมันได้เป็นพิเศษ กรินท์ กล่าวว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดมาก เพราะพวกเขาอยู่กันตามลำพังและรอนก็กลุ้มใจเรื่องครอบครัวของเขา รู้สึกผิดหวังกับการเดินหน้าในสิ่งที่พวกเขาได้ทำมาเพียงน้อยนิด แต่ล็อคเกตทำให้ความรู้สึกทุกอย่างของเขาเพิ่มมากขึ้น และเพราะเหตุนั้น เขาจึงมีความคิดในหัวว่า อาจมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ ทำให้เกิดการโต้เถียงอย่างรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างรอนและแฮร์รี่ ตอนที่พวกเขาต่างระเบิดอารมณ์โกรธใส่กัน”
เดวิด บาร์รอน กล่าวว่า “พวกเขาไม่เป็นตัวเองอย่างที่เป็นในภาค 1 ของ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต’ พวกเขามีการคุ้มกันจากบางคน, บางแห่งอยู่ตลอดเวลา ไม่จำเป็นว่ามันจะไร้สาระขนาดไหน เมื่อเขาแยกจากทุกคนและอยู่ในอันตรายที่ถึงตายตลอดเวลา กลุ่มสามคนนี้ทั้งแฮร์รี่, รอนและเฮอร์ไมโอนี่สามารถตัดขาดออกจากกันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเวลาถูกโน้มน้าวด้วยพลังอันชั่วร้ายจากฮอร์ครักซ์”
ในป่าโล่งเตียนที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่อย่างสิ้นเชิง อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีที่พัก ต้องขอบคุณในความชาญฉลาดของเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนที่จะออกจากบ้านโพรงกระต่าย เธอได้ใช้คาถาขยายพื้นที่ในการเปลี่ยนกระเป๋าลูกปัดใบเล็ก ให้กลายเป็นหลุมที่เต็มไปด้วยของวิเศษซึ่งเป็นที่เลื่องลือ ที่บรรจุสิ่งของจำเป็นทุกอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้าชุดใหม่ไปจนถึงหนังสือ, วิทยุและแม้แต่เต็นท์ตั้งแคมป์ “ผู้หญิงทุกคนจะหลงรักกระเป๋าของเฮอร์ไมโอนี่ เพราะเราสามารถใส่อะไรก็ได้ที่อาจต้องการหรืออยากได้ ซึ่งมันไม่หนักอะไรเลย” วัตสัน หัวเราะ “เธอฉลาดมาก เธอ—มีการเตรียมการตลอด คิดล่วงหน้าไปหนึ่งก้าวเสมอ”
แต่ถึงอย่างไร เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เตรียมการมาสำหรับการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นระหว่างรอนและแฮร์รี่ เมื่อรอนยุติด้วยการทอดทิ้งพวกเขาไป เธอเศร้าเสียใจ วัตสันยืนยันว่า “เธอหมดหวังและรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ความหึงหวงและการกล่าวหาของเขาก็ทรยศต่อความไว้ใจของเธอเหมือนกัน”
การถูกทอดทิ้งอย่างเดียวดาย, แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ได้ร่วมช่วงเวลาที่เยทส์กล่าวว่า เปรียเบสมือนการเชื่อมสัมพันธภาพ “เป็นบทสรุปของความสัมพันธ์ของพวกเขา สตีฟ (โคลฟ์ส) และผมต้องการถ่ายทำฉากที่แสดงให้เห็นว่า เขาทั้งคู่สนิทกันขนาดไหนโดยไม่ต้องใช้คำบรรยายใดๆ เฮอร์ไมโอนี่เสียขวัญที่รอนจากไป มีดนตรีคลอจากวิทยุ แฮร์รี่พยายามลดความเจ็บปวดของเธอ โดยทำสิ่งที่หนุ่มสาวทั่วไปจะกระทำนั่นคือการเต้นรำ มันเป็นสิ่งที่เราอยากทำเพื่อเพื่อน ซึ่งแดนและเอ็มม่าทำให้ทุกอย่างละเอียดอ่อน และประทับใจ”
ฉากของป่าในช่วงแรกถ่ายทำที่ เบิร์นแฮม บีชเชส, ในบัคกิ้งแฮมเชียร์ด้วยศิลปะในการออกแบบเต็นท์ของพวกเขา, เครกอยากให้ภายนอกดูเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเรียบง่ายธรรมดา เป็นเต็นท์สำหรับการค้างของคนสองคนด้วยเวทมนตร์, ถึงอย่างไรภายในก็ไม่ได้เล็กมาก มีหลายห้องที่ถูกตกแต่งพร้อมด้วยเครื่องเรือน สจ๊วต เครก กล่าวว่า “ผมต้องยกความดีความชอบให้แก่ เอดอร์โด เซอร์ร่า ผู้ถ่ายทอดภาพของเต็นท์ออกมาได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ การจัดแสงสวยงามและมีความแตกต่างกันโดยละเอียดจากกลางวันไปกลางคืน และจากฤดูหนึ่งไปอีกฤดูหนึ่ง มันเป็นความมหัศจรรย์ในความมากมายและสิ่งที่มองเห็นจะดึงดูดความสนใจจากผ้าใบเต็นท์เพียงไม่กี่ผืน”
Source: Warner Bros.