ตำนานของเครื่องรางยมทูตของบีเดิลยอดกวี
จากนิทานของบีเดิลยอดกวี (The Tales of Beedle the Bard) กลับกลายเป็นปริศนาที่มีอยู่จริงของเครื่องรางยมทูต สามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่า “ผู้ใดที่ครอบครองมัน จะได้เป็นนายของยมทูต” กล่าวตามตำนานคืออยู่เหนือยมทูต สามารถกำหนดและหลบเลี่ยงการตายของตนเองได้
นิทานสามพี่น้องกลายเป็นความจริงเมื่อหลักฐานถูกพิสูจน์ว่า ทั้งสามเป็นพ่อมดที่มีชีวิตอยู่จริง นั่นคือ สามพี่น้องตระกูลเพฟเวอเรลล์ ที่อาศัยอยู่ในก็อดดริกส์โฮลโล่ ซึ่งนิทานทำให้เชื่อกันแบบผิด ๆ ว่าพวกเขาได้รับเครื่องรางยมทูตกันคนละหนึ่งชิ้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่
นิทานของบีเดิลยอดกวี กล่าวไว้ถึงการครอบครองสิ่งของต่างๆ 3 สิ่งของพี่น้องทั้งสามคน โดยเมื่อครั้งที่ทั้งสามคนเดินทางออกผจญภัยจนกระทั่งถึงแม่น้ำที่ลึกเกินกว่าจะข้ามไป แต่ด้วยความฉลาดอย่างยิ่งของสามพี่น้อง พวกเขาจึงเสกสะพานที่ทอดยาวไปจนถึงฝั่งตรงข้าม และสามารถรอดพ้นแม่น้ำที่บ้าคลั่งมาได้
ในระหว่างที่ทั้งสามเดินทางไปบนสะพานที่เนรมิตขึ้นนั้น ยมทูตก็ปรากฏกายขึ้น พร้อมบอกพวกเขาทั้งสาม ว่าพวกเขาเป็นคนกลุ่มเดียวเท่านั้นที่สามารถรอดพ้นความตายจากแม่น้ำคลั่งนี้ได้ ยมทูตจึงได้ถามพวกเขา 3 พี่น้องว่าปรารถนาจะครอบครองสิ่งใด เพื่อมอบเป็นรางวัลให้กับความสามารถยอดเยี่ยมของทั้งสาม
คนพี่เมื่อได้ฟังเช่นนั้นจึงกล่าวตอบยมทูตไปว่า “ข้าต้องการอาวุธที่จะทำให้ข้าเก่งกาจ และไม่มีใครเอาชนะข้าได้” ยมทูตฟังเช่นนั้น จึงได้นำกิ่งไม้ของต้นเอลเดอร์ริมตลิ่งมาทำไม้กายสิทธิ์ แล้วส่งให้กับเพฟเวอเรลล์ผู้พี่ เขาได้รับมอบไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์จากยมทูต
คนกลาง “ปรารถนาที่จะได้ อะไรก็ตามที่จะทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง” ยมทูตจึงหยิบเอาก้อนหินสีดำขึ้นมาจากริมฝั่ง แล้วมอบให้กับชายคนรอง
เมื่อเวลาผ่านไป หินชุบวิญญาณก็กลายเป็นสมบัติของตระกูลพ่อมดที่ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น กระทั่งมาถึงตระกูลก๊อนท์ ในลักษณะของแหวนประจำตระกูล
และด้วยความฉลาดของน้องคนสุดท้อง และความถ่อมตัว บวกกับความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจยมทูต จึงขออะไรก็ได้ที่จะพาเขาออกไปจากที่นั่น โดยไม่ให้ยมทูตติดตามไปได้ ยมทูตได้ฟังเช่นนั้น จึงมอบสมบัติล้ำค่าให้เขา เป็นผ้าคลุมล่องหนของยมทูตเอง ด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
นิทานสามพี่น้อง เป็นหนึ่งในนิทานยอดนิยมของเหล่าพ่อมดแม่มด ที่ไม่มีใครไม่รู้จักมัน เรื่องราวของสามพี่น้องผู้เดินทางไปจนพบกับยมทูต คือเรื่องราวของพ่อมดผผู้มีชีวิตอยู่จริง นั่นคือ สามพี่น้องตระกูลเพฟเวอเรลล์
พวกเขาได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการ และหลังจากนั้น ด้วยอำนาจของสิ่งวิเศษทั้งสาม ชายผู้พี่ แอนตีโอก เพฟเวอเรลล์ ก็ถึงแก่ความตาย ด้วยการทะนงตัว โอ้อวดไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ของเขา แล้วด้วยความอวดดี เขาจึงได้ประลองเวทมนตร์กับใครก็ตามที่เขาต้องการ ผลร้ายส่งถึงเขา ในขณะที่เขานอนอยู่ในห้องพักของโรงเตี๊ยมที่เขาคุยโวโอ้อวดเรื่องไม้กายสิทธิ์ที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ ชายผู้พี่ก็ถูกฆ่าตาย ด้วยน้ำมือของพ่อมดคนหนึ่งที่มุ่งหวังจะครอบครองมัน เขาเชือดขอแอนตีโอกที่เมาเหล้าองุ่นหลับอยู่บนเตียง แล้วมันก็ได้ในสิ่งที่มันต้องการ คือ ไม้กายสิทธิ์จากยมทูต หลังจากนั้นเมื่อตำนานเล่าขานของไม้กระพือไปไกลฆาตกรรมนองเลือดก็เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนต้องการไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ จึงฆ่าผู้ที่เป็นเจ้าของของพวกมัน และมันยังคงอยู่จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ภายใต้สุสานสีขาว มันได้รับการปกป้องจากความฉลาดของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และแฮร์รี่ พอตเตอร์ แม้เขาจะตายไปแล้วก็ตาม (ในภาพยนตร์ไม้เอลเดอร์ถูกหักทิ้งทำลาย)
ความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจที่ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ นำความตายมาสู่ใครต่อใครหลายคน ดังต่อไปนี้
- แอนตีโอก เพฟเวอเรลล์
- ผู้สังหารแอนตีโอก เพฟเวอเรลล์
- เอ็มเมอริกจอมชั่วร้าย
- เอ็กเบิร์ตผู้เลวมหันต์
- โกเดล็อต (เสียชีวิตในห้องใต้ดินของตัวเอง)
- เฮียร์เวิร์ต (ลูกชายผู้แย่งไม้กายสิทธิ์มาจากโกเดล็อต ผู้เป็นพ่อของตัวเอง)
- บาร์นาบัส เดเวอริลล์
- ล็อกซิอัสผู้ร้ายกาจ
- อาร์คัส
- ลิเวียส
- เกรโกโรวิตช์ (ช่างทำไม้กายสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตด้วยคำสาปพิฆาตจากโวลเดอมอร์ เขาคือผู้ครอบครองมัน ก่อนที่กรินเดลวัลด์วัยเด็กจะขโมยจากเขาไป)
- เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์
- อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ผู้ครอบครองคนสุดท้าย)
- เซเวอรัส สเนป (เสียชีวิตเพราะถูกคิดว่าเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์)
- ลอร์ดโวลเดอมอร์ (ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล) / ครอบครอง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของไม้โดยชอบธรรม
รายชื่อเหล่านี้เป็นหลักฐานแน่แท้ว่ามันไม้สามารถเอาชนะความตายได้ และมันพ่ายแพ้ เปื้อนเลือดของเจ้าของมันมานักต่อนัก
ส่วนพี่คนรอง แคดมัส เพฟเวอเรลล์ ผู้ครอบครอบหินชุบวิญญาณ เขาหมายจะเรียกเอาหญิงที่เขารักกลับคืนมาจากความตาย
แต่ผลที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามที่เขาคาดคิด หญิงที่เขาปรารถนาให้กลับมาจากความตาย ด่าทอเขาอย่างโหดร้ายที่นำเธอกลับมาจากความสุขหลังความตาย เพราะยมทูตส่งเธอมาล่อหลอกให้พี่ชายคนรองไปสู่ความตายด้วยการแสดงให้เห็นว่าเธอนั้นเย็นชา เหินห่าง อยู่ในสภาพที่ทรมานใจอย่างยิ่งเมื่อต้องกลับมา ชายคนรองด้วยความเศร้าเสียใจ จึงฆ่าตัวตายในที่สุดหลังจากนั้น เพื่อหวังจะได้ใช้ชีวิตกับคนที่เขารักหลังความตาย หินชุบวิญญาณถูกตกทอดมาสู่มาร์โวโล ก๊อนท์ เขานำหินชุบวิญญาณมาทำเป็นแหวนประจำตระกูลก๊อนท์ โดยหารู้ไม่ว่า มันคือหินชุบวิญญาณ และปัจจุบันหินชุบวิญญาณได้หายสาบสูญไปแล้วหลังจากสงครามครั้งสุดท้ายของโวลเดอมอร์ ที่พรากเขาไปสู่ความตายเช่นคนธรรมดาทั่วไป
และคนสุดท้าย น้องชายคนสุดท้อง อิกโนตัส เพฟเวอเรลล์ ผู้ได้ครอบครองผ้าคลุมล่องหน ที่จะไม่มีการเสื่อมสภาพ มันไม่ได้ถูกสร้างด้วยคาถา หรือเสื้อคลุมที่ถูกอาบด้วยคาถาพรางตา หรือเสกคำแช่งลานตา หรือทอจากขนเดมิไกส์ที่ทำให้ล่องหนได้ หรืออะไรทำนองนั้น อิกโนตัสได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จนกระทั่งเขาถึงแก่ความตายด้วยโรคชรา ชายคนสุดท้องไปกับยมทูต เฉกเช่นคนคุ้นเคย ปัจจุบันหลุมศพของอิกโตนัส ถูกรักษาไว้ที่หมู่บ้านก็อดดริกส์โฮลโล่ และผ้าคลุมล่องหนได้กลายเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลพอตเตอร์
ผ้าคลุมล่องหนของจริง
สัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูต
“นี่คือไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์” เขาพูด และวาดเส้นตั้งตรงบนกระดาษ “หินชุบวิญญาณ” เขาเติมวงกลมทับบนเส้นตรง “ผ้าคลุมล่องหน” เขาต่อจนจบ พลางวาดสามเหลี่ยมล้อมรอบเส้นตั้งและวงกลม ภาพที่ได้คือสัญลักษณ์ที่เฮอร์ไมโอนี่อยากรู้ “รวมกัน” เขาพูด “ก็คือเครื่องรางยมทูต”
– เซโนฟิเลียส เลิฟกู๊ด (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บ.21)
ซึ่งสัญลักษณ์สามเหลี่ยม แทน ผ้าคลุมล่องหน
สัญลักษณ์วงกลม แทน หินชุบวิญญาณ
และสัญลักษณ์ขีดตรงกลาง คือ ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์
ในช่วงเรืองอำนาจของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ สัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูต ถูกใช้เป็นสัญลักษณะของผู้ติดตามกรินเดลวัลด์ และยังเชื่อเช่นนี้อยู่บ้างจนถึงปัจจุบัน กรินเดลวัลด์กระหายจะครอบครองเครื่องรางยมทูตนี้เพื่อการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ของเขากับดัมเบิลดอร์ กรินเดลวัลด์หมายจะใช้หินชุบวิญญาณเพื่อสร้างกองทัพอินฟีรี ขณะที่ดัมเบิลดอร์ต้องการใช้เพื่อชุบชีวิตให้พ่อกับแม่ และหวังจะใช้ผ้าคลุมล่องหนเพื่อซ่อนน้องสาวที่อันตรายของดัมเบิลดอร์ระหว่างพาเธอไปไหนมาไหนเพื่อหาผู้ติดตามแนวคิดเขา (เครื่องรางยมทูต บ.35)
“แต่นี่ — นี่เป็นสัญลักษณ์ของกรินเดลวัลด์ ฉันจำได้แม่น เขาสลักไว้บนกำแพงที่เดิร์มสแตรงก์ตอนเป็นนักเรียนที่นั่น แล้วพวกปัญญาอ่อนบางคนก็เอาไปวาดบนหนังสือหรือเสื้อผ้า เพราะอยากหลอกให้คนกลัว อยากให้คนประทับใจ — จนกระทั่งโดนครอบครัวเหยื่อกรินเดลวัลด์อย่างเราจัดการสั่งสอนซะ”
– วิกเตอร์ ครัม (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.143)
ปัจจุบัน ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ [Elder Wand] เก็บรักษาไว้ในสุสานสีขาวของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ในภาพยนตร์ถูกหักทิ้ง) ส่วนหินชุบวิญญาณ [Resurrection Stone] ที่บัดนี้ได้หายสาบสูญไปในป่าต้องห้าม และผ้าคลุมล่องหน [Cloak of Invisibility] ยังเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลพอตเตอร์ ซึ่งแฮร์รี่ พอตเตอร์ ส่งต่อให้มันแก่ เจมส์ ซิเรียส พอตเตอร์ ลูกชายคนโตของเขา
ข้อเท็จจริงที่อยู่นอกเหนือตำนานปรุงแต่ง
ทว่าความจริงเกี่ยวกับตำนานเรื่องนี้ ซึ่งพาให้คนหลงเชื่อว่าจะมีอาวุธเวทมนตร์หรือวัตถุซึ่งทำให้ผู้ครอบครองเอาชนะยมทูต หรือมีชัยเหนือความตายนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล และถูกปรุงแต่งให้เป็นนิทานเพียงเท่านั้น แม้วัตถุเวทมนตร์ทั้งสามชิ้นจะมีอยู่จริง เพราะเป็นสมบัติส่วนตัวของสามพี่น้องตระกูลเพฟเวอเรลล์ แต่มันก็ไม่สามารถทำให้ใครก็ตามเอาชนะความตายได้ และการเป็นนายแห่งยมทูตที่แท้จริง หมายถึง ผู้ใดก็ตามที่ยอมรับซึ่งความตายและไม่หวาดกลัวต่อมัน
เราเห็นได้ว่า ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ได้รับการยกให้เป็น “ไม้กายสิทธิ์ที่ไม่มีวันพ่ายแพ้” ทว่ามันก็เหมือนไม้กายสิทธิ์อื่นๆ มันพ่ายแพ้มานักต่อนักสังเกตได้จากการเปลี่ยนมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมาถึงเจ้าของคนสุดท้าย อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ที่ปัจจุบันตามหนังสือระบุว่ามันอยู่ในโรงศพของดัมเบิลดอร์
หินชุบวิญญาณ ก็ทำได้เพียงนำวิญญาณของคนตายกลับมาเพียงประเดี๋ยวหนึ่ง ไม่ได้มาเป็นร่างกาย
หรือแม้แต่ผ้าคลุมล่องหนที่ทำได้แค่ล่องหน ไม่สามารถป้องกันอันตรายใดๆ แก่เจ้าของได้เลย ไม่มีข้อมูลปรากฏแน่ชัดว่าผ้าคลุมล่องหนที่ตกทอดมาถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์ นี้ถักทอหรือทำขึ้นจากอะไร แต่ที่แน่ชัดได้คือมันคงทนได้มากกว่าผ้าคลุมล่องหนอื่นๆ อย่างผ้าคลุมที่ทำจากขนของเดมิไกส์ หรือผ้าคลุมที่เสกคาถาล่องหนไว้ เหล่านี้เมื่อนานไปก็จะเสื่อมสภาพ
ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เอาชนะความตายได้ มีเพียงการยอมรับมันได้เท่านั้นที่จะทำให้เราไม่หวาดกลัวต่อมัน และเผชิญหน้ากับมันเสมือนสหายที่รู้จักกัน
เกร็ดน่ารู้
- ลอร์ดโวลเดอมอร์และแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นญาติห่างๆ กันเมื่อสืบสาวตามสายเลือด เพราะทั้งสองต่างก็สืบสกุลมาจากตระกูลเพฟเวอร์เรลล์ โวลเดอมอร์สืบสกุลมาจากทางแคดมัส เพฟเวอเรลล์ เจ้าของหินชุบวิญญาณในนิทาน และแฮร์รี่ พอตเตอร์ สืบเชื้อสายมาจากอิกโนตัส
- ในหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต แฮร์รี่ใช้ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ซ่อมแซมไม้กายสิทธิ์ฮอลลี่ที่เสียหายให้กลับมาสมบูรณ์แล้วส่งคืนเจ้าของมันยังหลุมฝังศพของดัมเบิลดอร์ แต่ในภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 แฮร์รี่ไม่ได้ซ่อมไม้เก่าของเขาและหักไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ทิ้งไปด้วย
- มีการตั้งข้อสังเกตว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์, เซเวอรัส สเนป และลอร์ดโวลเดอมอร์ มีความคล้ายคลึงกับสามที่น้องเพฟเวอเรลล์ เพราะโวลเดอมอร์ลุ่มหลงในอำนาจที่ไม่มีใครทัดเทียมแบบพี่ชายคนโต สเนปเสียชีวิตเพราะคนรักที่ตายไปแล้ว และแฮร์รี่อ้าแขนรับความตายดั่งเพื่อนเหมือนน้องชายคนสุดท้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง