วรรณกรรมชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในไทยเมื่อปี พ.ศ. 2543 ซึ่งในปี 2563 นี้ก็ครบรอบ 20 ปีของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทางสำนักพิมพ์ Nanmeebooks จึงฉลองโอกาสพิเศษนี้ด้วยเซ็ตหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับภาษาไทย ที่วาดโดยคุณ Apolar หรือคุณอรุษ เอ่งฉ้วน นักวาดภาพประกอบสัญชาติไทย ที่ไม่เพียงแต่ฝีมือดี แต่ยังเป็นแฟนเหนียวแน่นของหนังสือเรื่องนี้ด้วย ทำให้ผลงานภาพปกและภาพหัวบททั้งหมดจากคุณ Apolar เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ทำให้แฟนๆ ชาวไทยเห็นถึงเวทมนตร์ที่น่าค้นหาในแต่ละปก
รู้จักกับคุณอาชว์ หรือ Apolar มากขึ้น ที่นี่
มาเริ่มต้นสำรวจปกกันที่ปกแรก
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์
แค่ปกแรกก็สอดแทรกรายละเอียดน่าสนใจไว้มากมาย ตั้งแต่สิ่งที่แฟนๆ ที่เติบโตมากับเนื้อหาแฮร์รี่ พอตเตอร์ คุ้นเคย ไปจนถึงข้อมูลเฉพาะบางอย่างที่มีแต่ในหนังสือ เช่น หอคอยดูดาวที่ดูจะเป็นส่วนหนึ่งของยอดปราสาทบนหมวกคัดสรร เป็นฉากที่สามสหายเอานอร์เบิร์ตไปส่งให้กับเพื่อนๆ ของชาลี (พี่ชายของรอน) การใส่สัญลักษณ์ถึงตัวตนของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในปกแรกก็น่าสนใจตั้งแต่สีหลักของเล่มซึ่งเป็นสีแดงและทอง ซึ่งเป็นสีประจำบ้านกริฟฟินดอร์ ที่แฮร์รี่ได้รับการคัดสรรให้ไปอยู่ และซุ้มประตูด้านหลังก็มีลายตกแต่งด้วยรูปไม้กวาดบิน และโกลเด้นสนิช ซึ่งบอกถึงตำแหน่งซีกเกอร์ ที่แฮร์รี่รับตำแหน่งในทีมควิดดิชของบ้านกริฟฟินดอร์
ส่วนที่ประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นการเล่นความเป็นไทยแบบง่ายๆ อย่าง ตัวเลขไทยของชานชาลา ๙ ๓/๔ หรือตัว ฮ บนตราที่เสื้อคลุมของแฮร์รี่ และบนรถไฟ
อีกปริศนาบอกใบ้ที่สำคัญคือชื่อหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ที่มีรูปงูแทรกอยู่ในชื่อ น่าจะต้องการบอกว่าในตัวของแฮร์รี่ พอตเตอร์ มีฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์อยู่ในตัวด้วย
ไปต่อกันที่ภาค 2
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ
ปกที่สองเปิดมาด้วยโทนสีเหลือง ที่มีสีเขียวแทรกอยู่เป็นสีรองของภาพ ซึ่งสื่อสารถึงบรรยากาศของภาคสองที่เรื่องราวผูกอยู่กับตำนานห้องแห่งความลับของบ้านสลิธีรินได้อย่างดี จุดที่แสดงความเป็นไทยในปกนี้คือ ธงชาติไทยที่แปะเนียนๆ อยู่บนหีบสัมภาระ กับตัวเลข 20 ปีที่หมายถึง 20 ปีแฮร์รี่ พอตเตอร์ และธงชาติอังกฤษ ที่รวมทั้งสามสัญลักษณ์ก็คือ การร่วมงานกันระหว่างไทยและอังกฤษตลอดระยะเวลา 20 ปีกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในไทย
การดำเนินเรื่องราวจากเล่มแรกมายังเล่มสองใช้รถไฟด่วนสายฮอกวอตส์มาบอกเล่าความเชื่อมโยงได้ดี และยังแอบสร้างความสำคัญให้สแคบเบอร์ หนูของรอนที่ต่อมาเรารู้กันในภาค 3 ว่าคือ ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ เพื่อนสมัยเรียนของเจมส์ พอตเตอร์
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
สแคบเบอร์ที่โผล่มาในปกภาค 2 กลับมามีตัวตนอีกครั้งในเล่ม 3 พร้อมกับเหล่าตัวกวนอีก 3 คนคือ ซิเรียส แบล็ก นักโทษแหกคุกจากอัซคาบัน รีมัส ลูปิน ในร่างมนุษย์หมาป่า และผู้พิทักษ์กวางตัวผู้ที่หมายถึง เจมส์ พอตเตอร์ พ่อของแฮร์รี่
กรอบซุ้มประตูที่เป็นแกนหลักของปกทุกภาค คือส่วนเล่นปริศนาน่าสนใจ ในภาคนี้พูดถึงลำดับการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าของลูปิน เริ่มต้นจากรูปคน ขึ้นไปเป็นพระจันทร์เสี้ยว กระทั่งเป็นพระจันทร์เต็มดวง และกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า ที่ต่อสู้กับกริม (ร่างแอนิเมจัสของซิเรียส)
เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่า 3 ปกแรกเรียงมาด้วยสีแดง เหลือง และน้ำเงิน ซึ่งเป็นแม่สีหลัก ที่เราเข้าใจกันดี เหมือนต้องการสื่อถึงการเริ่มต้นของเรื่องราวรึเปล่านะ?
ป.ล. ชุดคลุมของแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่สวยจัง
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี
สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้จากงานปกภาษาไทยคือความพยายามที่จะนำเสนอสิ่งที่ภาพยนตร์ไม่ได้พูดถึง อย่างในเล่มสี่นี้ เราเห็นแมลงแปลกๆ สีดัดจริตที่ใส่แว่นตาวิ๊งๆ น่าขยะแขยงตัวหนึ่งในปก มันคือร่างแอนิเมจัสของ ริต้า สกีตเตอร์ ที่ใช้เนียนเข้ามาสืบข่าวในฮอกวอตส์ กับสกรู๊ตปะทุไฟ ที่แฮกริดแอบเพาะพันธุ์อย่างผิดกฎหมายแล้วยังเอามาสอนในชั้นเรียนจนตกเป็นข่าวหอมหวานของยัยสกีตเตอร์ และมันยังเป็นหนึ่งในสัตว์วิเศษที่แฮกริดเอาใส่ในเขาวงกตร่วมกับตัวอื่นๆ อย่างสฟิงซ์ และอะโครแมนทูล่า ซึ่งโผล่ในภาพปกตรงซุ้มประตู ที่เราจะเห็นโวลเดอมอร์ทำท่าทางเหมือนควบคุมแผนการทั้งหมดนี้อยู่
การซ่อนปริศนาตรามารอยู่ในเปลวเพลิงของถ้วยอัคนีก็สื่อสารถึงการแทรกแซงการประลองเวทไตรภาคีที่มีผู้เสพความตายเข้ามาเกี่ยวข้องในกิจกรรมนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และหากสังเกตถ้วยอัคนีดีๆ จะเห็นว่ามีทั้งหมด 3 ส่วน ส่วนแรกมาจากเปลือกไข่ทองคำที่แฮร์รี่ถือ ส่วนที่สองคือรูปชาวเงือกที่ว่ายวนรอบขอบถ้วยชั้นใน และส่วน 3 คือภารกิจที่สามที่เป็นเขาวงกต มันคือ 3 ภารกิจหลักในการประลองเวทไตรภาคีนั่นเอง
ธงของแต่ละโรงเรียนที่ดึงคู่สีมาจากภาพยนตร์พร้อมกับข้อความบนยอดธงที่เขียนเป็นภาษาไทยว่าไตรภาคี และอักษรย่อแต่ละโรงเรียนก็ใช้อักษรไทย บ โบซ์บาตง ฮ ฮอกวอตส์ (แถมอักษรย่อไทยสี่บ้านด้วย) และ ด เดิร์มสแตรงก์ แถมเส้นผมพลิ้วๆ ของเฟลอร์ยังแอบเนียนใส่ลายไทยมานิดนึงที่มุมขวาใกล้กับตัวสกรู๊ตปะทุไฟ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์
ภาคที่ 5 ยังเปิดตัวด้วยพาหนะเดินทางเหมือนสี่ภาคแรก ในภาพนี้คือแฮร์รี่ที่ขี่เธสตรอล การวางองค์ประกอบตัวละครหลักไว้ทางซ้ายของภาพ ในที่นี้คือ โดโลเรส อัมบริดจ์ ที่มีบทบาทเยอะมากในหนังสือเล่มห้า จุดที่รู้สึกว้าวเลยคือบ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ ที่กำลังโผล่ออกมากลางระหว่างบ้านเลขที่ 11 และ 13 ที่มีเหมือนโดมแก้วใสๆ ครอบอยู่ แต่จริงๆ เข้าใจว่ามันคือลูกแก้วพยากรณ์ ที่สะท้อนเงาร่างของผู้พยากรณ์ บ่งบอกถึงฉากในกองปริศนาที่ลูกแก้วแตะกระจายแล้วเกิดเงาร่างของผู้พยากรณ์ขึ้นมาเป็นควันๆ
เมื่อดูรายละเอียดตัวบ้านเลขที่ 12 จะเห็น 3 ตัวละครคือ รอน (ซ้าย) เฮอร์ไมโอนี่ (ขวา) และครีเชอร์กลางภาพ
เล่มนี้รายละเอียดจากภาพยนตร์ถูกสอดแทรกในภาพปก ในส่วนของพื้นหลังด้านล่างที่เป็นรูปหน้ากากผู้เสพความตายที่คล้ายกับในภาพยนตร์ มีสัญลักษณ์งูอยู่ด้านบน ทำให้นึกถึงฉากต่อสู้ในกองปริศนาที่มาจากภาพยนตร์ที่แยกเป็นกลุ่มควันสีขาวและดำ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม
โทนสีของภาค 6 เหมือนเป็นการสรรเสริญแด่ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เป็นครั้งสุดท้าย เพราะเป็นภาคที่ดัมเบิลดอร์เสียชีวิต โทนสีภาพขาวและทองให้ความรู้สึกถึงสวรรค์ดี โดยเฉพาะหมวกของดัมเบิลดอร์ที่เป็นปราสาทฮอกวอตส์ บอกเล่าสถานที่สุดท้ายที่ดัมเบิลดอร์เสียชีวิต ซึ่งเสียชีวิตบนหอคอยด้วยคำสาปพิฆาตของสเนป ธนูของพวกเซนทอร์ (ไม่มีในภาพยนตร์) ที่ยิงกระจายออกไป ทำให้นึกภาพงานศิลปะในโบสถ์ รัศมีแสงเปล่งประกายเจิดจ้า ทำให้ดัมเบิลดอร์ดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปอีก
องค์ประกอบตรงซุ้มประตูก็มีรายละเอียดน่าสนใจเยอะมาก ตั้งแต่สร้อยโอปอลที่ถ้าผิวเราสัมผัสตรงๆ จะทำให้ถึงแก่ความตายทันที อ่างเพนซิฟที่ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปรู้จักกับตัวตนของโวลเดอมอร์ในแต่ละช่วงวัย ขวดน้ำยาลุ่มหลง พิกมี่พัฟ การเสียชีวิตของอาราก็อกที่ซลักฮอร์นขอเก็บพิษส่วนหนึ่งของอาราก็อกไว้ การแปลงร่างของศาสตราจารย์ซลักฮอร์นที่แปลงจากคนกลายเป็นเก้าอี้บุนวมนุ่มๆ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต
ส่วนที่ชอบที่สุดในปกภาคสุดท้ายคือสัตว์ประจำบ้านทั้งสี่ที่มาพร้อมกับสมบัติของสี่ผู้ก่อตั้ง งูของบ้านสลิธีรินที่มากับล็อกเกต สิงโตคาบดาบประดับทับทิมที่ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ จ้างก๊อบลินตีขึ้นมา แบดเจอร์กับถ้วยทองของเฮลก้า และอินทรีกับรัดเกล้าแห่งเชาว์ปัญญาของโรวีน่า และรายละเอียดที่ทำให้ประทับใจในรายละเอียดมากๆ คือหนังสือที่เฮอร์ไมโอนี่ถืออยู่ หากสังเกตดีๆ จะบอกได้ทันทีว่ามันคือหนังสือนิทานของบีเดิลยอดกวี เพราะว่าภาพในเล่ม คือภาพที่ เจ.เค.โรว์ลิ่งวาดในหนังสือเล่มจริงนั่นเอง
และน่ารักไปอีกตรงที่ มีด๊อบบี้อยู่ในภาคสุดท้ายนี้ด้วย น่ารัก! แต่พอพิจารณาคู่กับภาพขวาซึ่งเป็นภาพลิลี่กับเจมส์ ก็เหมือนการบอกใบ้ว่า ด๊อบบี้เสียชีวิตในภาคนี้ด้วยนั่นเอง
กรอบซุ้มในภาพมีสัญลักษณ์ของทารกน้อยกับรูปสายฟ้า ซึ่งหมายถึงแฮร์รี่ แหวนของเพฟเวอเรลล์ที่ส่งต่อมาจนถึงตระกูลก๊อนท์ และถูกโวลเดอมอร์ทำให้กลายเป็นฮอร์ครักซ์
ปิดท้ายด้วยภาพหัวบทด้านในที่วาดใหม่ทั้งหมด!
สำหรับใครที่กำลังอยากได้หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ปกที่เห็นอยู่นี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่ https://backtothemagicalworld.com/ โดยจะเริ่มการจัดส่งทางการวันที่ 11 พฤษภาคมนี้