เนื้อหาในบทความนี้รวมเนื้อหาจากบทละครเวที แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป (Harry Potter and the Cursed Child) ซึ่งเขียนบทหลักโดย แจ็ก ทอร์น (Jack Thorne) และได้รับการอนุมัติเรื่องราวจาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง ซึ่งแฟนๆ หลายคนไม่นับว่าเป็นเนื้อหาที่เชื่อถือได้เอาไว้ด้วย
เครื่องย้อนเวลาเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นเป็นพิเศษขึ้นในกองปริศนาของกระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ ค้นคว้าโดยศาสตราจารย์ซอล โครเกอร์ (อ้างอิงบทความ Time-Turner จาก Pottermore)
“ตราบใดที่จิตใจของมนุษย์ยังไม่สามารถเข้าใจเรื่องของเวลาได้ ก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงความเสียหายซึ่งแน่ใจได้ว่าจะเกิดขึ้น หากเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกฎของเวลา”
– ศาสตราจารย์ซอล โครเกอร์ ผู้คิดค้นเครื่องย้อนเวลา ในกองปริศนา (Pottermore)
ประเภทของเครื่องย้อนเวลา
เครื่องย้อนเวลาทั่วไปของกระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ
เครื่องย้อนเวลาที่สามารถย้อนได้อย่างปลอดภัยด้วยการหมุนเครื่องย้อนเวลา ที่การหมุนหนึ่งครั้งจะย้อนเวลาไปได้หนึ่งชั่วโมง และสูงสุดไม่เกิน 5 ชั่วโมง เป็นเครื่องย้อนเวลาที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยศาสตราจารย์ซอล โครเกอร์ เครื่องย้อนเวลาชนิดนี้ไม่สามารถย้อนกลับคืนสู่ช่วงเวลาปัจจุบันได้เอง เมื่อทำการย้อนเวลา ผู้ใช้งานจะอยู่ในจุดเดิมที่เริ่มทำการย้อนเวลา และจะต้องเดินตามช่วงเวลาที่ถูกย้อนไป โดยห้ามไม่ให้ตัวเองหรือคนในอดีตพบเห็นตัว การกลับสู่ช่วงเวลาปัจจุบันทำได้เพียงรอให้เวลาเดินไปจนถึงเวลาเดิม
เครื่องย้อนเวลาที่เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ได้รับมาจากศาสตราจารย์มักกอนนากัล เพื่อใช้เรียนในทุกวิชาของฮอกวอตส์ ในปีสาม (1993) หลังทำเรื่องขอจากกระทรวงเวทมนตร์ เป็นหนึ่งในเครื่องย้อนเวลาประเภทนี้
เครื่องย้อนเวลาที่มีทั้งหมดในห้องกาลเวลาของกองปริศนา ที่กระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ ได้ถูกทำลายไปตั้งแต่ปี 1996 ในเหตุการณ์ที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ และเพื่อนๆ บุกเข้าไปในกองปริศนาเพื่อหวังจะช่วยซิเรียส แบล็กที่ถูกจับ แต่ทั้งหมดกลับเป็นเพียงกลลวงให้แฮร์รี่ไปติดกับ และเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้เสพความตายของโวลเดอมอร์ (อ้างอิง Pottermore)
เครื่องย้อนเวลาต้นแบบของทีโอดอร์ น็อตต์
เครื่องย้อนเวลาที่กระทรวงเวทมนตร์ยึดมาจากทีโอดอร์ น็อตต์ (เพื่อนร่วมบ้านและร่วมชั้นเรียนของเดรโก มัลฟอย) ในเดือนสิงหาคม 2020 เป็นเครื่องย้อนเวลาต้นแบบ ทำด้วยโลหะราคาไม่แพง สามารถย้อนกลับไปในช่วงเวลาใดก็ได้ แต่อยู่ในอดีตได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นจะย้อนกลับมายังช่วงเวลาปัจจุบันก่อนย้อนเวลาในสถานที่ล่าสุดที่อยู่ในอดีต (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 4 ฉากที่ 4)
หลังการยึดมา เครื่องย้อนเวลาชิ้นนี้ก็ถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นหนังสือ ที่ห้องทำงานของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ก่อนจะถูกสกอร์เปียส มัลฟอย อัลบัส เซเวอรัส พอตเตอร์ และเดลฟีนีขโมย เพื่อเอามาย้อนเวลาไปช่วยชีวิตเซดริก ดิกกอรี่ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 1 ฉากที่ 9, องก์ที่ 2 ฉากที่ 7, องก์ที่ 2 ฉากที่ 20 และองก์ที่ 3 ฉากที่ 8)
การใช้งานเครื่องย้อนเวลาอันนี้ทำได้ด้วยการกดลงบนเครื่องย้อนเวลา แตกต่างกับเครื่องย้อนเวลาของเฮอร์ไมโอนี่ ที่ใช้การหมุนรอบละ 1 ชั่วโมง (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 2 ฉากที่ 6) และผู้ที่จะย้อนเวลาทั้งหมดจะต้องแตะที่ตัวเครื่องด้วย (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 3 ฉากที่ 19)
เครื่องย้อนเวลาของแท้ของลูเซียส มัลฟอย
เครื่องย้อนเวลาที่แวววาวดุจทองคำ ที่ทีโอดอร์ น็อตต์ ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อ ลูเซียส มัลฟอย ผู้ที่ปรารถนาจะย้อนเวลาไปได้ไกลกว่าเครื่องย้อนเวลาของศาสตราจารย์ซอล โครเกอร์ ที่ย้อนไปได้แค่ทีละชั่วโมง ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเครื่องย้อนเวลาชิ้นนี้สร้างขึ้นเมื่อไหร่ เครื่องย้อนเวลาของลูเซียส มัลฟอย เพียงชิ้นเดียวที่สามารถย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ต้องการได้อย่างอิสระ ไม่ใช่แค่ทีละชั่วโมงแต่ย้อนได้เป็นปีๆ และอยู่ได้นานเท่าที่ต้องการ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 4 ฉากที่ 4)
ดูเหมือนเครื่องย้อนเวลาอันนี้ ได้รับการสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อนำลอร์ดโวลเดอมอร์กลับคืนมา แต่ลูเซียส มัลฟอยก็ไม่เคยใช้มันเลย ด้วยเหตุผลที่เดรโกบอกว่า “เขาเองก็พอใจโลกที่ปราศจากโวลเดอมอร์มากกว่า” (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 4 ฉากที่ 4)
เครื่องย้อนเวลาอันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้สายคล้องคอเหมือนที่เฮอร์ไมโอนี่ใช้ แต่เพียงแค่ยืนล้อมรอบเครื่องย้อนเวลาไว้มันก็จะพาทุกคนรอบมันไปยังช่วงอดีตที่ต้องการ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 4 ฉากที่ 7)
สิ่งที่เหมือนกันของเครื่องย้อนเวลาทั้งสามประเภทก็คือ สถานที่ที่พวกเขาย้อนเวลาไปจะเป็นที่เดียวกับที่เขายืนอยู่ในตอนแรกที่ทำการย้อนเวลา เช่น แฮร์รี่ เดรโก เฮอร์ไมโอนี่ และรอน ต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านก็อดดริกส์โฮลโล่ เพื่อย้อนเวลาไปช่วยเหลืออัลบัส พอตเตอร์ และสกอร์เปียส มัลฟอย ซึ่งติดอยู่ในอดีตของวันที่ 31 ตุลาคม 1981
ประวัติเกี่ยวกับการใช้เครื่องย้อนเวลา
1993-1994
เฮอร์ไมโอนี่ได้รับเครื่องย้อนเวลามาจากศาสตราจารย์มักกอนนากัลตั้งแต่เปิดเรียนวันแรกของชั้นปีที่ 3 เธอใช้มันในการเรียนทุกวิชาที่ฮอกวอตส์
แฮร์รี่: “เธอได้นาฬิกาแก้วนั่นมาจากไหน”
เฮอร์ไมโอนี่: “เขาเรียกว่าเครื่องย้อนเวลา ฉันได้มาจากศาสตราจารย์มักกอนนากัลวันแรกที่กลับมาโรงเรียน ฉันใช้เครื่องนี้มาตลอดปีเพื่อจะได้เรียนทุกวิชา ศาสตราจารย์มักกอนนากัลให้ฉันสาบานว่าจะไม่บอกใครทั้งนั้น อาจารย์ต้องเขียนจดหมายต่างๆ นานาไปที่กระทรวงเวทมนตร์เพื่อขอให้ฉันมีใช้สักอันหนึ่ง อาจารย์บอกนั้นว่าฉันเป็นนักเรียนตัวอย่าง และฉันไม่มีวัน… ไม่มีวันใช้มันไปเพื่อการอื่นใดนอกจากเพื่อการศึกษา… ฉันหมุนเวลากลับมาตลอดเพื่อจะย้อนเวลาถอยหลังไป เพราะอย่างนี้ ฉันถึงเรียนหลายๆ วิชา พร้อมๆ กันได้ไงล่ะ แต่…”
– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน บ.21 น.471
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ได้ทำการฝ่าฝืนข้อตกลงที่จะไม่ใช้เครื่องย้อนเวลาเพื่อเหตุผลนอกเหนือจากเพื่อการศึกษา ด้วยการใช้มันย้อนเวลาไปตามคำแนะนำของศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อห้ามของการท่องเวลา ทั้งยังเปิดเผยความลับเรื่องเครื่องย้อนเวลาให้กับแฮร์รี่ พอตเตอร์ รู้อีกด้วย
“เธอสองคนต้องจำเอาไว้ เธอต้องไม่ให้ใครเห็นตัว มิสเกรนเจอร์ เธอรู้กฎอยู่แล้ว — เธอรู้ว่ามันเสี่ยงยังไง… เธอ – ต้อง – ไม่ – ให้ – ใคร – เห็น”
– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน บ.21 น.468)
6 มิถุนายน 1994 การย้อนเวลาของเฮอร์ไมโอนี่ และแฮร์รี่ ช่วยให้บัคบีค (ฮิปโปกริฟฟ์ของแฮกริด) รอดตายจากการถูกประหารด้วยสาเหตุทำร้ายเดรโก มัลฟอย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส (ซึ่งกล่าวหาเกินจริง) ทั้งยังช่วยซิเรียส แบล็ก คนบริสุทธิ์ให้รอดจากการถูกจำคุกอัซคาบัน และจุมพิตของผู้คุมวิญญาณ และแฮร์รี่ยังใช้การย้อนเวลาครั้งนี้ช่วยชีวิตตนเอง เฮอร์ไมโอนี่ และซิเรียสจากผู้คุมวิญญาณด้วย (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน บ.21,22)
1996
มิถุนายน 1996 ในระหว่างการต่อสู้ที่กองปริศนาของกระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ เครื่องย้อนเวลาทั้งหมดที่เก็บรวบรวมไว้ในห้องกาลเวลา ได้ถูกทำลายจนไม่สามารถกอบกู้ได้อีก
“ลำแสงสีแดงเหาะข้ามบ่าของผู้เสพความตาย กระแทกกับตู้กระจกบนกำแพงที่เต็มไปด้วยนาฬิกาแก้วรูปร่างหลากหลาย ตู้ล้มลงบนพื้น บานประตูแก้วระเบิดแตกกระจาย เศษแก้วบินไปทุกหนทุกแห่ง แล้วตู้กระเด้งกลับไปติดบนกำแพงใหม่ ซ่อมแซมตัวเองเรียบร้อย ก่อนที่จะล้มลงมาอีกหนและกระจายเกลื่อนกลาด – -“
– แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ บ.35 น.950
ซึ่งคนที่เสกคาถาสตูเปฟายจนทำลายเครื่องย้อนเวลาทั้งหมดนั้นก็คือ เนวิลล์ ลองบอตทอม
“เราทำเครื่องย้อนเวลาของกระทรวงแตกหมดเลย เมื่อตอนหน้าร้อนที่เราไปที่นั่น มีบอกไว้ในเดลี่พรอเฟ็ตน่ะค่ะ”
– เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม บ.11 น.246)
2020
31 สิงหาคม 2020 แฮร์รี่ พอตเตอร์ ยึดเอาเครื่องย้อนเวลาที่แตกต่างจากแบบเดิมๆ ของกระทรวงเวทมนตร์ มาจากทีโอดอร์ น็อตต์ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 1 ฉากที่ 5) ซึ่งเครื่องย้อนเวลาชิ้นดังกล่าวเป็นชิ้นต้นแบบที่ไม่เสถียร มันสามารถย้อนกลับไปในอดีตเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะมีเวลาอยู่ในอดีตแค่ 5 นาทีเท่านั้น
เครื่องย้อนเวลาต้นแบบชิ้นดังกล่าวถูกเก็บไว้ในห้องทำงานรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ของ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เพราะหวั่นเกรงว่ามันอาจไม่ได้มีแค่อันเดียวที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่
“เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ นี่แหละเหตุผลที่เธอเก็บเจ้าเครื่องแรกไว้ เพราะกลัวว่าจะมีเครื่องที่สอง…”
– แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป องก์ที่ 4 ฉากที่ 4)
เอม็อส ดิกกอรี่ ผู้แก่ชราผู้ถูกเดลฟีนีใช้คาถางงงันเพื่อทำให้เขาสับสนว่าเขามีหลานสาว และให้เขาร้องขอให้แฮร์รี่ใช้เครื่องย้อนเวลาผิดกฎหมายที่ยึดมาจากทีโอดอร์ น็อตต์ นำเซดริก ดิกกอรี่ ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 1995 กลับมา (เพื่อเดลฟีจะได้เดินตามคำทำนายที่เธอจะเป็นผู้พาโวลเดอมอร์กลับคืนมา) แต่แฮร์รี่ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ เพราะเขารู้ดีว่าการยุ่งเกี่ยวกับเวลาก่อให้เกิดผลเสียมากมายแค่ไหน (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 1 ฉากที่ 6)
1 กันยายน 2020 ขณะที่อัลบัส เซเวอรัส พอตเตอร์ และสกอร์เปียส มัลฟอย เรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ บ้านสลิธีริน และกำลังโดยสารรถไฟด่วนสายฮอกวอตส์ อัลบัส พอตเตอร์ ก็รู้เรื่องเครื่องย้อนเวลาที่พ่อเขายึดมาจากทีโอดอร์ น็อตต์ จากคำบอกเล่าของ โรส เกรนเจอร์-วีสลีย์ เขารู้สึกไม่พอใจที่พ่อของเขาโกหก เอม็อส ดิกกอรี่ ว่าไม่มีเครื่องย้อนเวลา เมื่อรู้ความจริงเขาเลยคิดจะแก้สถานการณ์นี้ และช่วยชีวิตเซดริกกลับมาให้ เอม็อส ผู้แก่ชรา (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 1 ฉากที่ 10)
2 กันยายน 2020 อัลบัส สกอร์เปียส และเดลฟี บุกเข้ากระทรวงเวทมนตร์โดยใช้ความช่วยเหลือเล็กน้อยจากน้ำยาสรรพรส และขโมยเอาเครื่องย้อนเวลาตัวต้นแบบจากห้องทำงานของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ในขณะนั้นมาได้สำเร็จ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 1 ฉากที่ 19)
ในเดือนกันยายน ครั้งแรกที่ อัลบัส สกอร์เปียส และเดลฟี วางแผนจะใช้เครื่องย้อนเวลาต้นแบบของทีโอดอร์ น็อตต์ พวกเขาตั้งใจจะย้อนเวลาไปด้วยกันสามคน แต่ก็เปลี่ยนใจเนื่องจากเดลฟีอายุมากกว่าจะเป็นนักเรียนแล้ว และนั่นทำให้ผิดสังเกต อัลบัส และสกอร์เปียส จึงย้อนไปในเหตุการณ์การประลองเวทไตรภาคี วันที่ 24 พฤศจิกายน 1994 เพียงสองคน ทั้งคู่ดันพูดคุยกับเฮอร์ไมโอนี่วัยเด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะปลดอาวุธเซดริกได้สำเร็จตามแผน และกลับมายังปัจจุบันเพราะเครื่องย้อนเวลาหมดเวลา 5 นาที สิ่งที่ร้ายกาจในการย้อนเวลาครั้งแรกก็คือ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้แต่งงานกัน และไม่ได้มีลูกด้วยกัน รอนดันแต่งงานกับปัทมาแทน อัลบัสที่เดิมอยู่บ้านสลิธีรินกลายเป็นนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ และทำให้เซดริกในปี 1994 มุ่งมั่นที่จะชนะการแข่งขันในการประลองเวทไตรภาคี ภารกิจที่สองมากขึ้นไปอีก
อัลบัส และสกอร์เปียส ที่พบความผิดพลาดและหายนะจากการย้อนเวลาครั้งแรก พยายามย้อนเวลากลับไปแก้ไขอีกครั้ง ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1995 ซึ่งเป็นวันประลองเวทไตรภาคี ภารกิจที่ 2 ทั้งคู่ใช้อ่างล้างมือในห้องน้ำหญิงชั้นหนึ่ง (ห้องน้ำของเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ) เดินทางไปยังใต้ทะเลสาบเพื่อรอเสกคาถาขยายขนาดใส่ฟองอากาศครอบศีรษะของเซดริก ทั้งคู่สามารถทำให้เซดริกแพ้ในภารกิจที่สองได้สำเร็จ แต่ผลกลับเลวร้ายต่อปัจจุบัน เพราะอัลบัส พอตเตอร์ ไม่ได้กลับมาปัจจุบันด้วย ความจริงก็คือ การย้อนเวลาครั้งที่สองทำให้แฮร์รี่ พอตเตอร์ ตาย โดโลเรส อัมบริดจ์ เป็นอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ และโวลเดอมอร์ยังมีชีวิตอยู่ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 2 ฉากที่ 19 และ 20) เซดริกกลายเป็นผู้เสพความตายและฆ่าเนวิลล์ ลองบอตทอม นอกจากนั้นแล้ว สกอร์เปียส มัลฟอย ที่ไม่เอาไหนด้านกีฬา กลับได้รับยกย่องว่ายอดเยี่ยมด้านควิดดิชในฐานะซีกเกอร์ของบ้านสลิธีริน แถมยังมีความเป็นผู้นำผิดจากก่อนหน้านี้ และมีฉายายอดเยี่ยมว่า “ราชาแมงป่อง” อีกด้วย ขณะที่ เดรโก มัลฟอย พ่อของเขาก็เปลี่ยนไปดำรงตำแหน่งที่แฮร์รี่เคยเป็นในฐานะหัวหน้ากองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ ที่น่ายินดีที่สุดเห็นจะเป็นการมีชีวิตอยู่ของ เซเวอรัส สเนป (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 3)
การย้อนเวลาด้วยเครื่องย้อนเวลาต้นแบบของทีโอดอร์ ครั้งที่ 3 เป็นการย้อนโดยเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ที่กลายเป็นเพียงนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน สเนป รอน เฮอร์ไมโอนี่ และสกอร์เปียส ย้อนเวลากลับไปในภารกิจแรกของการประลองเวทไตรภาคี และเฮอร์ไมโอนี่เสกคาถาสกัดกั้นการปลดอาวุธของอัลบัส ทำให้เรื่องราวในภารกิจแรกของเซดริกกลับเป็นเหมือนอดีต (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 3 ฉากที่ 9)
แล้วสกอร์เปียสก็ย้อนเวลาเป็นครั้งที่ 4 ไปยังภารกิจที่สอง เพื่อขัดขวางการเสกคาถาของตนเองและสกอร์เปียสไม่ให้เสกคาถาขยายขนาดใส่ฟองอากาศครอบศีรษะของเซดริกได้สำเร็จ โดยได้รับความช่วยเหลือในการถ่วงเวลาจากทั้งเฮอร์ไมโอนี่ รอน (ที่บอกรักกันก่อนจะโดนผู้คุมวิญญาณเล่นงาน) และเซเวอรัส สเนป ที่พาเขามายังทะเลสาบ เล่นงานอัมบริดจ์ และโดนผู้คุมวิญญาณเล่นงาน การย้อนเวลาในครั้งนี้สกอร์เปียสสามารถแก้ไขให้เหตุการณ์กลับไปตามเดิมได้สำเร็จ และเอาอัลบัส เพื่อนรักของเขากลับมาได้ด้วย (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 3 ฉากที่ 9)
ช่วงใกล้จะถึงวันฮัลโลวีน ในเดือนตุลาคม 2020 (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 4 ฉากที่ 5) ครั้งนี้ เดลฟี เป็นผู้บังคับให้ อัลบัส และสกอร์เปียส ร่วมเดินทางย้อนเวลาไปยังภารกิจที่ 3 ของการประลองเวทไตรภาคี สัปดาห์สุดท้ายในเดือนพฤษภาคม ปี 1995 และเหตุการณ์ในครั้งนั้นเหมือนเดิมโดยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 3 ฉากที่ 19 และ 20)
การย้อนเวลาอีกครั้ง เดลฟีย้อนเวลาไปยังวันที่ 30 ตุลาคม 1981 ก่อนวันที่โวลเดอมอร์ไปยังบ้านของเจมส์และลิลี่ พอตเตอร์ หนึ่งวัน ทันทีที่เธอย้อนเวลาไปถึงอดีต เธอก็ทำลายเครื่องย้อนเวลานั้นทิ้งเพื่อให้มันไม่ส่งพวกเขากลับไปยังปัจจุบันอีก (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 3 ฉากที่ 20)
แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และเดรโก ย้อนเวลามาในวันที่ 31 ตุลาคม 1981 เพื่อมาช่วย อัลบัส และ สกอร์เปียส หลังจากเห็นร่องรอยบนผ้าห่มของแฮร์รี่ ซึ่งเป็นผ้าห่มผืนน้อยที่ติดตัวแฮร์รี่มาในคืนที่ดัมเบิลดอร์มอบเขาให้ครอบครัวเดอร์สลีย์ดูแล ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องย้อนเวลาของแท้จากเดรโก มัลฟอย พวกเขามาพบกับอัลบัสและสกอร์เปียสในเพิงหลังหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปยังโบสถ์เซนต์เจอโรมส์ ในก็อดดริกส์โฮลโล่เช่นเดียวกัน เพื่อจัดการจับกุมตัวเดลฟี และพาทุกคนกลับยังปัจจุบัน ทิ้งอดีตให้เป็นไปตามเดิมโดยไม่ถูกแก้ไข (เด็กต้องคำสาป องก์ที่ 1 ฉากที่ 8)
เกร็ดน่ารู้
- เครื่องย้อนเวลาของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ที่เห็นในภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ออกแบบโดย Miraphora Mina (อ้างอิง Harry Potter: Page to Screen หน้า 503)
- เครื่องย้อนเวลาของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เป็นหนึ่งในของประกอบฉากถ่ายทำที่ เดวิด เฮย์แมน (โปรดิวเซอร์หลักของภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์) ชอบมากที่สุด (อ้างอิง Digital Spy)
- เจ.เค.โรว์ลิ่ง ได้ให้สัมภาษณ์โดยอธิบายถึงเหตุผลที่ว่า “ทำไมแฮร์รี่ถึงไม่ใช้เครื่องย้อนเวลาเพื่อช่วยชีวิตตัวละครอื่นๆ กลับมา” ว่า “โอ้! นั่นเป็นคำถามที่ดีมาก การทำแบบนั้นจะทำให้เราเข้าสู่แนวคิดแบบภาพยนตร์เทอร์มิเนเตอร์ (Terminator) ถ้าคุณเคยดูภาพยนตร์เรื่องเทอร์มิเนเตอร์… เอาใหม่ค่ะ สำหรับฉัน เครื่องย้อนเวลาเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีความยุ่งยากอย่างยิ่ง เพราะมันก่อให้เกิดปัญหาได้มากเท่ากับที่แก้ปัญหา ใครที่ได้อ่านภาค ภาคีนกฟีนิกซ์ อาจสังเกตเห็นในฉากสำคัญระหว่างที่พวกเขาไล่ล่ากันในกระทรวงเวทมนตร์ พวกเขาได้ทำลายเครื่องย้อนเวลาทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ใครใช้มันได้อีกในอนาคตค่ะ” (อ้างอิง ‘Harry Potter: A Blue Peter Special.’ Blue Peter (CBBC) เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2007)