“เธอเองก็เหมือนคนอีกเป็นร้อยก่อนหน้าเธอ ที่ค้นพบความสุขความพอใจจากกระจกเงาแห่งแอริเซด
━ อัลบัส ดัมเบิลดอร์
กระจกเงาแห่งแอริเซด เป็นกระจกที่เมื่อส่องคุณจะไม่ได้เห็นเพียงใบหน้า แต่จะเห็นความปรารถนาในหัวใจของคุณ หรือ สิ่งที่คุณอยากจะเห็นและอยากที่จะเป็น ด้านบนกรอบของกระจกเงาแห่งแอริเซด (ในหนังสือเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ) เขียนไว้ว่า
“Erised stra ehru oyt ube cafru oyt on wohsi”
ซึ่งถ้าเว้นวรรคใหม่ให้ดีแล้วอ่านย้อนจากหลังไปหน้าก็จะได้เป็น
” I show not your face but your heart’s desire “
(คุณจะมิได้เห็นใบหน้าหากแต่เห็นความปรารถนาในหัวใจ)
ดังนั้น ‘The Mirror of Erised’ ก็คือ ‘The Mirror of Desire’ นั่นเอง
คนที่มีความสุขที่สุดในโลก เมื่อมองกระจกเงาแห่งแอริเซด ก็จะสามารถใช้กระจกบานนี้ได้เหมือนกระจกทั่วๆไป คือเห็นตัวเองเป็นเหมือนอย่างที่เขาเป็นอยู่จริงๆ ซึ่งนั่นก็คือ กระจกเงาแห่งแอริเซดสะท้อนความปรารถนาที่อยู่ลึกที่สุดของจิตใจ ที่เป็นที่โหยหาที่สุดในใจเรา
“มันไม่ได้สะท้อนภาพอะไรอื่นนอกเหนือไปจากภาพความปรารถนาที่อยู่ลึกที่สุด ที่เป็นที่โหยหาที่สุดในหัวใจของเรา สำหรับเธอ แฮร์รี่ เธอไม่เคยรู้จักครอบครัวของตัวเอง ถึงได้เห็นครอบครัวของเธอยืนอยู่รอบๆ ตัวเธอ ส่วนโรนัลด์ วีสลีย์ ที่พี่ชายทั้งหลายเก่งกว่ามาตลอด ก็เห็นตัวเองยืนอยู่คนเดียว และเป็นคนเก่งที่สุดในบรรดาพี่น้องทุกคน อย่างไรก็ตาม กระจกไม่ให้ความรู้หรือความจริงอะไรกับเราหรอกนะ ผู้คนมากมายเสียเวลาอยู่หน้ากระจกบานนี้ ติดตรึงอยู่กับสิ่งที่เขาเห็น บางคนก็บ้าคลั่งไปเพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า หรือแม้แต่จะเป็นไปได้หรือเปล่า”
━ อัลบัส ดัมเบิลดอร์
กระจกเงาแห่งแอริเซด เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เก่าแก่มาก ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้สร้างมัน หรือมันมาอยู่ที่ฮอกวอตส์ได้อย่างไร มีการเล่าต่อกันว่า คณาจารย์ได้นำสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจนี้ กลับมาจากการเดินทางของพวกเขา มันอาจมาอยู่ในปราสาทโดยบังเอิญ เพราะพวกอาจารย์รู้วิธีใช้มัน หรือไม่ก็แค่ประหลาดใจกับมัน หรือไม่ก็เพราะเขาไม่เข้าใจมัน และหวังที่จะถามความเห็นของเพื่อนร่วมงานของพวกเขา
กระจกเงาแห่งแอริเซดเป็นวัตถุเวทมนตร์ชิ้นหนึง ที่เหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นเพราะอารมณ์สนุกสนาน (หรืออาจจะเป็นความไร้เดียงสา หรืออันตรายก็ได้แล้วแต่จะคิด) เพราะในขณะที่มันแสดงอะไรที่มากกว่ากระจกธรรมดาให้เห็น มันน่าสนใจมากกว่าที่จะมีประโยชน์ มีแค่ดัมเบิลดอร์เท่านั้นที่ทำให้่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญยิ่งกับกระจก (ซึ่งเคยอ่อนกำลังและอยู่ในห้องต้องประสงค์มาเป็นศตวรรษ หรือก่อนที่เขาจะนำมาออกมาและใช้งานมัน) ทำให้มันกลายเป็นสุดยอดที่ซ่อน และด่านทดสอบสุดท้ายในการทดสอบจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์
แนวคิดของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง
คำเตือนที่อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ได้บอกแก่แฮร์รี่ว่ากระจกเงาแห่งแอริเซดจะแสดงสิ่งที่ตัวเราเห็นออกมา ข้อเสนอแนะที่ว่า ‘การทำตามความฝัน’ เป็นเรื่องดี แต่คงไม่ดีนักเมื่อการทำตามความฝันนั่นไม่มีประโยชน์ และแม้กระทั่งไม่ดีต่อสุขภาพ ดัมเบิลดอร์รู้ดีว่าชีวิตที่ผ่านไป ด้วยการยึดติดกับความปรารถนาที่ไม่มีทางเป็นจริง หรือไม่ควรจะเกิดขึ้น หรือแม้แต่จะสมหวัง ความปรารถนาที่ลึกที่สุดของแฮร์รี่ เป็นสิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้ การกลับคืนมาของครอบครัว ความโศกเศร้าสิ้นหวังจากการที่เขาสูญเสียครอบครัวไป ดัมเบิลดอร์รู้ว่าเขาจะนั่งจมอยู่กับภาพที่เขาไม่มีวันได้รับ และนั่นรังแต่จะทำร้ายตัวแฮร์รี่ กระจกบานนี้ทั้งน่าหลงใหลและยั่วยวน แต่ก็มิได้นำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง (อ้างอิง Pottermore)
พวกเขาเหล่านี้ เห็นอะไรในกระจกเงาแห่งแอริเซด
อัลบัส ดัมเบิลดอร์
- 1927 และก่อนหน้านั้น อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เห็นตนเองกับเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ที่พัฒนาความรักขึ้นมาด้วยกัน (ภ.สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์)
- 1991 อ้างว่าเขาเห็นตัวเองถือถุงเท้าขนสัตว์หนาๆ คู่หนึ่ง (1991) ศิลาอาถรรพ์ น.260 แต่ความจริงแล้ว เขาจะเห็นตัวเองอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แอรีอานนา (น้องสาว), เพอร์ซิวาล (พ่อ) และเคนดรา (แม่) กลับมาหาเขา และอาเบอร์ฟอร์ธคืนดีกับเขา – บทสัมภาษณ์เจ.เค.โรว์ลิ่ง
แฮร์รี่ พอตเตอร์
- 1991 ครั้งแรก แฮร์รี่ได้เห็นพ่อและแม่ของเขา ครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา (ศิลาอาถรรพ์ น.253)
- 4 มิถุนายน 1992 เขาเห็นตัวเองในกระจกเงาแห่งแอริเซด กำลังเอาศิลาอาถรรพ์ใส่ในกระเป๋ากางเกง และพบว่ามันอยู่ในกระเป๋าเขาจริงๆ (ศิลาอาถรรพ์ น.352) เขาโกหกว่าตัวเองจับมือกับดัมเบิลดอร์ และชนะได้ถ้วยรางวัลบ้านดีเด่นให้กริฟฟินดอร์ (ศิลาอาถรรพ์ น.352)
- ครั้งสุดท้าย 1997 เขาเห็นโวลเดอมอร์พ่ายแพ้ และตายลง – บทสัมภาษณ์เจ.เค.โรว์ลิ่ง
รอน วีสลีย์
- 1991 รอนเห็นตัวเองโตขึ้นเป็นหัวหน้านักเรียน ถือถ้วยรางวัลบ้านดีเด่น ถ้วยชนะเลิศควิดดิช และเป็นกัปตันทีมควิดดิช (ศิลาอาถรรพ์ น.256)
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
- เฮอร์ไมโอนี่จะเห็นตัวเอง และรอน กับแฮร์รี่ มีชีวิตอยู่ และไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่โวลเดอมอร์พ่ายแพ้ และเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของคนรักอย่างมีความสุข – บทสัมภาษณ์เจ.เค.โรว์ลิ่ง
ควิรินัส ควีเรลล์
- 4 มิถุนายน 1992 เขามองเห็นศิลาอาถรรพ์ เห็นตัวเองกำลังนำศิลามอบให้โวลเดอมอร์ (1991) – ศิลาอาถรรพ์ น.350
ลอร์ดโวลเดอมอร์
- เขาจะเห็นตัวเองมีอำนาจเหนือใคร ไม่มีวันตาย ตามสิ่งที่เขาต้องการ – บทสัมภาษณ์เจ.เค.โรว์ลิ่ง
เกร็ดน่ารู้
- บท “กระจกเงาแห่งแอริเซด” เป็นหนึ่งในบทที่ เจ.เค.โรว์ลิ่งชื่นชอบมาก ด้วยเหตุผลเดียวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ – จากบทสัมภาษณ์ใน ‘Richard & Judy Show’