ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์: สวนสนุก The Wizarding World of Harry Potter, Universal Orlando Resort [Part 2]

มาเที่ยวกันต่อวันที่ 2 เลยจ้า สำหรับใครยังไม่ได้อ่านเรื่องการเที่ยววันแรก >>คลิกที่นี่<<

วันที่ 22 ธันวาคม 2017

สำหรับวันนี้ออกจากโรงแรมช้าจ้า เลยได้ขึ้นรถสาย 37 ตอน 9.30 น. แต่ดีนะที่รถมาเร็ว ไปรอรถที่ป้ายแป๊บเดียวรถก็มา วันนี้หลัก ๆ จะเน้นไปส่วนฮอกส์มี้ดล่ะ ซึ่งก็คือไปส่วนของ Islands of Adventure นั่นเอง ขั้นตอนการเข้าโซนก็ตามเดิมค่า สแกนบาร์โค้ดกับสแกนลายนิ้วมือไป

ระหว่างทางไปฮอกส์มี้ด แอบแว่บเข้าร้านค้าใกล้ ๆ ทางเข้าโซนซื้อของให้เพื่อนก่อน (ซื้อถุงเท้าคริสต์มาส) มีถ่ายรูปชุดให้เห็นราคาแล้วช้ำใจไปอี๊ก ไป ๆ มา ๆ ชวนพนักงานจุดไม้กายสิทธิ์คุยเรื่องเราทำโปรเจคต์ไม้กายสิทธิ์ เขาเลยเอาโพยลิสต์ไม้กายสิทธิ์ที่ขายมาให้ดูเลยจ้า 555 (กว่าจะได้ฤกษ์เดินไปฮอกส์มี้ดคือเมื่อไหร่เนี่ย)

เอาล่ะ ถึงเวลาไปโซนฮอกส์มี้ดจริงจังละ และระหว่างถ่ายรูปหน้าประตูทางเข้าโซนฮอกส์มี้ดก็ไปเห็นน้องผู้หญิงคนนึงเข้า น้องชื่อลูน่าคอสเพลย์ชุดกริฟฟินดอร์มาเลยจ้า เลยชวนน้องมาถ่ายรูปด้วยกันขอให้พ่อของน้องถ่ายรูปให้ 555

จากนั้นก็เข้าโซนเลยค่ะ สังเกตจากผังแล้ว มีความต่างจากสาขาที่ญี่ปุ่นอยู่บ้างนะ ร้านค้าน้อยกว่าด้วย เอาล่ะ! เริ่มที่พอเข้าไปปุ๊บ ทางซ้ายมือจะเจอร้านซองโก้กับร้านฮันนี่ดุกส์ที่ตัวร้านด้านในเชื่อมต่อกัน ส่วนทางขวามือจะเป็นจุดถ่ายรูปกับรถไฟ (แน่นอนเราไม่พลาด) และอาคารสถานีฮอกส์มี้ดที่กลายสภาพเป็นจุดฝากของในล็อกเกอร์จ้า (แต่ถ้าเป็นสถานีฮอกส์มี้ดที่มีรถไฟเชื่อมต่อไปโซนตรอกไดแอกอนจะอยู่ที่ด้านนอกโซนนะ แต่ก็อยู่ข้าง ๆ โซนนี้เลย)

มาเข้าร้านฮันนี่ดุกส์กันเลยดีกว่า เคลียร์ภารกิจล่าการ์ดกบช็อกโกแลต ‘เฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์’* ก่อนเลย (มีแก๊งเพื่อนจากไทยรออยากได้ด้วย 555 ภารกิจข้ามทวีปค่า) พอเข้าไปด้านในร้านก็เห็นว่า อ้าว! เขาทำอาณาเขตร้านฮันนี่ดุกส์ครอบคลุมร้านซองโก้เลยนี่ (ของร้านซองโก้ไม่มีเลย)

*เรื่องการ์ดกบช็อกโกแลต ในขณะที่เราไปเที่ยวเดือนธันวาคม การ์ดกบมีออกมา 7 ใบแล้ว สำหรับ 5 ใบแรก (การ์ดก็อดดริก กริฟฟินดอร์, โรวีน่า เรเวนคลอ, เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ, ซัลลาซาร์ สลิธีริน, อัลบัส ดัมเบิลดอร์) จะหาได้ไม่ยาก จะที่อังกฤษหรือที่ญี่ปุ่นก็มี แต่การ์ดใบที่ 6 คือการ์ดกิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต (เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2017 ที่สวนสนุกสาขาออร์แลนโด้) กับการ์ดใบที่ 7 คือการ์ดเฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์ (เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ที่สวนสนุกสาขาออร์แลนโด้) ยังจำกัดว่าหาได้แค่ที่อเมริกา ซึ่งในช่วงที่พี่ลิลี่ไปเที่ยว การ์ดล็อกฮาร์ตตามล่าหาได้ยากมากค่า ในจุด ๆ นี้สังเกตได้ด้วยว่ากบช็อกโกแลตผลิตมาจากประเทศไหน ให้ดูที่กล่องค่ะ ถ้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสาขาอเมริกาทั้ง 2 ที่กับวอร์เนอร์บราสสตูดิโอทัวร์ กบช็อกโกแลตจะผลิตที่ออร์แลนโด้ รัฐฟลอริด้า ส่วนสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสาขาญี่ปุ่น กบช็อกโกแลตจะผลิตที่ญี่ปุ่น และถ้าเป็นวอร์เนอร์บราสสตูดิโอทัวร์ที่อังกฤษ กบช็อกโกแลตจะผลิตที่อังกฤษค่ะ

สำหรับการทำภารกิจรอบแรกที่ร้านฮันนี่ดุกส์ เราซื้อกบช็อกโกแลตไป 4 กล่อง สุ่มจับไม่เจอการ์ดกิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต กับการ์ดเฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์เลยจ้า แต่ค่ะแต่ เราใช้ทริคเทรดการ์ดตามที่เมื่อวานมีพนักงานแนะนำสิคะ ดังนั้นการ์ดที่สุ่มจับได้มาคือการ์ดเรเวนคลอ 3 การ์ดสลิธีริน 1 เลยถูกเทรดเป็นการ์ดเฮนจิสต์ 2 การ์ดฮัฟเฟิลพัฟ 1 (เก็บไว้เอง) แล้วค้างการ์ดสลิธีรินไว้ก่อนไว้ไปเทรดต่อที่ร้านชูการ์พลัมที่โซนตรอกไดแอกอน (ตอนนั้นที่ร้านฮันนี่ดุกส์มีการ์ดในสต็อกเป็นการ์ดเฮนจิสต์แค่ 2 ใบ ส่วนการ์ดล็อกฮาร์ตไม่มีเลย)

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟจากสถานีฮอกส์มี้ดไปตรอกไดแอกอนจ้า ไปล่าการ์ดต่อที่ตรอกไดแอกอน

พอไปถึงร้านชูการ์พลัมก็เอาการ์ดสลิธีรินไปเทรดแลกการ์ดเฮนจิสต์ 1 ใบก่อน ซึ่งตอนนั้นทางร้านเค้ามี 2 ใบ พอเป็นงั้นการซื้อรอบสองก็จัดไปค่า ลองซื้อก่อน 2 กล่อง ปรากฏว่างวดนี้มือดีค่า ได้การ์ดเฮนจิสต์มาทั้งคู่เลย เอาสิ คึกค่ะ! ก็เลยต่อด้วยซื้ออีก 1 กล่องหวังแลกการ์ดเฮนจิสต์อีกใบที่ร้านมีน่ะ (ตอนนั้นถามเขาแล้วว่าการ์ดล็อกฮาร์ตทางร้านก็ไม่มีในสต็อกทางร้านเอาการ์ดในสต็อกออกมาให้ดูเลย 555) งวดสามในการสุ่มจับได้การ์ดกริฟฟินดอร์ค่า เลยรีบเอาไปแลก ปรากฏว่ามีคนบังอาจมาเทรดตัดหน้าเราไปค่า เลยต้องค้างการ์ดกริฟฟินดอร์ไว้งั้นก่อน ไว้ค่อยลองเทรดรอบดึกอีกที (เอาซี่ ภารกิจนี้จะทำให้พนักงานร้านขนมทั้งสองร้านจำหน้ายัยนี่ได้เลย 555 ทำเอาพนักงานวุ่นช่วยด้วย อิอิ) สรุปสถานะช่วงครึ่งเช้าได้ การ์ดก็อดดริก กริฟฟินดอร์ 1 ใบ การ์ดเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ 1 ใบ การ์ดเฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์ 5 ใบ

จากนั้นนั่งรถไฟกลับไปโซนฮอกส์มี้ดต่อค่ะ และพอไปถึงสถานีฮอกส์มี้ด ตอนออกจากสถานีเจอน้องผู้หญิง (คิดว่าเค้าอายุน้อยกว่าเราแน่ ๆ อ่ะ) บ้านเรเวนคลอคนนึงเข้า น้องเขามีออร่าความเป็นเด็กเรเวนคลอมาก เลยชวนขอถ่ายรูปด้วยเลยจ้า 555 เสียดายลืมถามชื่อนาง

พอถ่ายรูปเสร็จก็ไปรีวิวร้านต่าง ๆ ต่อเลยจ้า เอาพวกร้านและหน้าร้านตกแต่งฝั่งซ้ายมือกันก่อน ร้านถัดจากร้านซองโก้และร้านฮันนี่ดุกส์ก็จะเป็นร้านไม้กวาดสามอันที่มีพื้นที่ผนวกรวมกับร้านหัวหมู (ซึ่งมีพื้นที่ทานอาหารด้านนอกลานด้วย) จากนั้นก็ตามด้วยหน้าร้าน Dogweed and Deathcap ห้องน้ำหญิง ห้องน้ำชาย หน้าร้าน Gladrags Wizardwear หน้าร้าน Scrivenshafts หน้าร้าน Madam Puddifoots หน้าร้าน Ceridwen’s Cauldrons และซุ้มขายของร้าน The Magic Neep ที่อยู่เกือบมุมถนน ข้าง ๆ มีสโนว์แมนด้วย

พอหลุดจากโซนร้านค้าก็จะเป็นถนนไปปราสาทฮอกวอตส์ จะมีสะพานเชื่อมทางไปโซนจูลาสสิคพาร์คด้วย ตรงจุดนี้จะได้ดูวิวปราสาท (แต่ไม่มีทะเลสาบนะ เป็นแค่ลำธารเล็กที่น้ำแห้งขอดตะหาก 555) กับจุดทานอาหารด้านนอกของร้านไม้กวาดสามอัน

เดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอปราสาทฮอกวอตส์ (ที่มีเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey และร้าน Filch’s Emporium) ทางซ้ายมือ และจุดเครื่องเล่น Flight of the Hippogriff ด้านขวามือ

แต่เราก็ยังไม่เข้าเล่นจ้า เพราะจะรีวิวสถานที่ก่อน เลยเดินย้อนจากฝั่งเครื่องเล่น Flight of the Hippogriff ไปทางประตูหน้าฮอกส์มี้ดซะ ซึ่งจะเจอลานแสดงอยู่เลยจากจุดเครื่องเล่นไปหน่อย ตามด้วยร้านค้าและหน้าร้านต่าง ๆ คือ หน้าร้าน Spintwitches สีแดง และหน้าร้าน Tomes and Scrolls สีเขียว ที่มีโชว์หนังสือบีเดิลยอดกวี ต่อด้วยร้านโอลลิแวนเดอร์ ซึ่งมีแถวให้ต่อด้านข้างเพื่อเข้าดูการแสดงด้านใน และตามด้วยร้านไปรษณีย์นกฮูก และโรงนกฮูก ส่วนซอยด้านหลังถ้าเดินจากตรงโรงนกฮูกย้อนขึ้นไปจะมีร้าน Dervish and Banges ร้านเดียว

เลยจากโรงนกฮูกไปก็จะเป็นสถานีฮอกส์มี้ดที่มีตู้ล็อกเกอร์อยู่ และข้าง ๆ ก็เป็นจุดถ่ายรูปกับรถไฟด่วนฮอกวอตส์

จากนั้นเราก็ย้อนมาที่โรงนกฮูกจัดการซื้อสแตมป์เขียนโปสการ์ด (ที่ซื้อมาตั้งแต่เข้าร้านของสวนสนุกที่สนามบินออร์แลนโด้แล้ว) แล้วส่งกลับไทยจ้า อ่อ ต้องใช้สแตมป์ 3 ดวงนะถ้าส่งกลับไทย

แล้วถึงไปนั่งเล่นพักยกตรงที่นั่งทานอาหารด้านนอกร้านไม้กวาดสามอัน เข้าไปดูบรรยากาศในร้าน และก็ไปดูว่าห้องน้ำที่นี่ต่างจากที่ญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนสิ่งที่ต่างหลัก ๆ เลยคือเสียงเมอร์เทิลที่นี่ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ส่วนตัวห้องน้ำ ถ้าที่ญี่ปุ่นจะสีเขียว แต่ที่นี่สีเทาจ้า

ทีนี้ใกล้ถึงเวลามีการแสดงแล้วก็เลยไปที่ลานแสดงสิการแสดงแรกจะเป็น Triwizard Spirit Rally ค่ะ ซึ่งก็เป็นการแสดงของนักเรียนจากเดิร์มสแตรงก์และโบซ์บาตงนั่นเอง (ตอนการแสดงจบ นักแสดงจะยืนให้ถ่ายรูปรวมแป๊บเดียว แต่ไม่ได้มีให้ผู้ชมไปถ่ายรูปด้วยนะ)

ระหว่างรอดูการแสดงต่อไป เราก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่แถวนั้นเรื่องว่าพอจะมีทางหาซื้อหมวกโบซ์บาตงได้บ้างไหม เขาก็บอกว่าที่นี่ไม่มีผลิตขายเลย ทำจำนวนเฉพาะให้แค่นักแสดงเท่านั้น เขาก็แนะนำว่าลองเขียนข้อเสนอแนะให้ฝ่าย Customer Service ดูอาจเป็นไปได้ถ้ามีคนเสนอมาก ๆ ซึ่งระหว่างที่เราคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่นั้นเราก็เม้าท์มอยด้วยว่าเราไปสวนสนุกที่ญี่ปุ่นมาแล้ว และก็ตามรอยที่อังกฤษมาแล้ว และพูดถึงช่องยูทูปของเรา ซึ่งตอนเม้าท์ก็ไม่ได้รู้เลยว่ามีน้องฝรั่งผู้ชายคนนึงฟังเราอยู่ พอคุยกับเจ้าหน้าที่เสร็จน้องก็มาขอชื่อช่องยูทูปเรา 555 เป็นปลื้มสิคะ แต่ก็บอกเขานะว่าเราทำรายการเป็นภาษาไทยนะ และพอรอแถวนั้นอีกไม่กี่นาทีก็ได้ดูการแสดง Frog Choir ที่เป็นนักเรียนฮอกวอตส์ร้องเพลงประสานเสียงต่อเลย

พอดูการแสดงเสร็จก็ไปเข้าร้านเดอร์วิชแอนด์แบนเจส ร้านไปรษณีย์นกฮูก และร้านไม้กายสิทธิ์โอลลิแวนเดอร์ที่ภายในร้านเชื่อมต่อกัน

จากนั้นก็เข้าร้านไม้กวาดสามอัน ไม่ได้จะกินอาหารหลักนะ แต่กินขนม ของหวาน กับบัตเตอร์เบียร์ร้อนจ้า ซึ่งพูดกันตามตรงบัตเตอร์เบียร์ฟัดจ์หวานมากกกกกกกกก (ซื้อได้ที่ร้านฮันนี่ดุกส์) ส่วนบัตเตอร์เบียร์ร้อน (มีขายแค่ช่วงฤดูหนาว) ก็หวานนะ แต่พอกินไปสักพักก็ชินกับรสชาติไปเอง ให้อารมณ์เหมือนดื่มนมอยู่ ส่วนบัตเตอร์เบียร์พ็อตเท็ดครีม ก็ครีมมี่สมชื่อค่ะ 555 อ่อ มันมีแก้วที่ระลึกร้านหัวหมูด้วยอ่ะ แต่เขาให้เฉพาะใส่เบียร์อ่ะ เสียใจ เขาไม่ยอมขายแยก อดเลย

พอกินเสร็จก็ไปต่อคิวเข้าหามิสเตอร์โอลลิแวนเดอร์จ้า และคราวนี้ก็พยายามส่งกระแสจิตให้เค้าเลือกเราแต่นกอีกแล้วอ่ะ เค้าเลือกเด็กอ่ะ (สังเกตว่าที่อเมริกานี่จะโฟกัสไปที่เลือกเด็กนะ) ก็ให้เด็กผู้ชายทดลองไม้กายสิทธิ์อันแรกโดยใช้คาถาอากัวเมนตีรดน้ำดอกไม้ ไม้กายสิทธิ์อันสองใช้คาถาลูมอสให้ห้องสว่าง ไม้กายสิทธิ์อันที่สามถึงจะเป๊ะ แล้วทางออกจากห้องแสดงก็จะไปโผล่ตรงร้านไปรษณีย์นกฮูกที่ขายไม้กายสิทธิ์ด้วย

จากนั้นก็ไปเล่นเครื่องเล่น Flight of the Hippogriff สำหรับที่นี่เขาไม่ค่อยซีเรียสเรื่องพกมือถือเข้าไปในเครื่องเล่นนะ เครื่องเล่นฮิปโปกริฟฟ์นี่ถ้าเทียบกับที่ญี่ปุ่นแล้ว อันนี้รางใกล้ทางเดินมากนะ แอบเสียวหัว 555 และที่เห็นชัดคือระบบป้องกันตรงเครื่องเล่น ถ้าที่ญี่ปุ่นจะให้เอาของไปวางไว้ที่ชั้นก่อนเล่น แต่ที่นี่ให้เอาขึ้นเครื่องเล่นได้ โดยตรงช่วงเท้ามีตาข่ายคลุม เอาของไปวางตรงเท้าได้แต่ก็นั่นแหละจังหวะตัวล็อกก็จะกดล็อกได้ไม่เป๊ะแน่นเท่าที่ญี่ปุ่น ส่วนจุดที่ตกแต่งก็จะมีแปลงฟักทอง กระท่อมแฮกริด และบัคบีค

[ตัวอย่างเครื่องเล่น]

พอเล่นเสร็จก็ออกมานั่งเล่นตรงหน้าร้านของฟิลช์พักนึง มีคุยกับลุงคนนึงที่ทำงานสายการบิน United Airlines ด้วย เขาบอกว่าเคยไปไทยด้วย ไปกรุงเทพกับกาญจนบุรี แล้วเราก็คุยกันจิปาถะเรื่องการเดินทางมาอเมริกาเนี่ยแหละ

หลังจากแยกจากลุงก็ต่อด้วยเล่นเครื่องเล่น Harry Potter and the Forbidden Journey ในปราสาท เครื่องเล่นนี่พอเป็นภาษาอังกฤษแล้วรู้สึกดีอ่ะ อ่อ มีแถวให้เข้าแถวเดียวเลย อีกอย่างในเมื่อพกมือถือเข้าได้ก็ถ่ายรูปเลยสิ ส่วนของอื่นเก็บในล็อกเกอร์ก่อน ถ้าไม่ได้เก็บของฝากล็อกเกอร์นานก็ไม่เสียตัง อีกอย่างล็อกเกอร์มีขนาดเดียวนะ ส่วนถ้าเข้าเล่นตอนที่คนหมู่มากชมไฟประดับปราสาทอยู่ คิวเข้าเล่นก็จะสั้นไม่ต้องรอนาน

[ตัวอย่างเครื่องเล่น]

ของที่มีโชว์ระหว่างทางไปเครื่องเล่นในปราสาทก็จะมี กระจกเงาแห่งเอริเซด รูปปั้นพ่อมดสถาปนิกที่สร้างฮอกวอตส์ นาฬิกาบอกคะแนนแต่ละบ้าน รูปปั้นพ่อมดชี้นิ้ว รูปปั้นกริฟฟินหน้าทางขึ้นไปห้องอาจารย์ใหญ่ ผ้าลายยูนิคอร์น พวกรูปภาพเคลื่อนไหว (จะมีห้องนึงมีรูปผู้ก่อตั้งทั้งสี่ติดอยู่คนละมุมห้อง) ผ้าลายผังฮอกวอตส์ ห้องทำงานดัมเบิลดอร์ ห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด รูปสุภาพสตรีอ้วน ห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์ หมวกคัดสรร

จากนั้นก็ถึงห้องเครื่องเล่นที่เป็นห้องกระจกในช่วงด่านแรก แล้วก็เล่นสิคะ เครื่องเล่นเหวี่ยงไม่เสี่ยงถ่ายรูปค่ะ และพอเล่นเสร็จเดินไปตามทางออกจะไปเจอห้องตู้ล็อกเกอร์กับร้าน Filch’s Emporium

พอเล่นเสร็จ มืดแล้ว ดูเวลาละเหลือแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนสวนสนุกปิด รีบเลยค่า! มื้อค่ำค่อยหากินทีหลัง มีเวลาถ่ายวีดีโอจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟน้อยแน่ งั้นเปลี่ยนแผนเป็นถ่ายเป็นรูปภาพแทน ก็ไปตามเก็บเล่นจุดต่าง ๆ ที่ในฮอกส์มี้ดก่อนซึ่งมี 9 จุด ระหว่างเล่นก็เจอน้องเกรซบ้านสลิธีริน เลยชวนน้องถ่ายรูปดวลกัน 555

พอเล่นเสร็จก็ไปล่าหาการ์ดเฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์ที่ร้านฮันนี่ดุกส์อีกที และก็ได้การ์ดมาเพิ่มจากการเทรดการ์ดก็อดดริก กริฟฟินดอร์เป็นการ์ดเฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์ที่ทางร้านมีแค่ 1 ใบ สรุปคือซื้อกบช็อกโกแลตที่สวนสนุกนี้ 7 กล่อง ได้การ์ดเป็นเฮนจิสต์ 6 ใบกับฮัฟเฟิลพัฟ 1 ใบ (ที่จริงไปถามร้านชูการ์พลัมอีกทีเหมือนกัน แต่ไม่มีการ์ดเพิ่ม)

เกือบ ๆ 2 ทุ่มก็ออกจากโซนฮอกส์มี้ดไปโซนตรอกไดแอกอนต่อ ก็เดินไปน่ะ เพราะรถไฟคิวยาวมากเพราะมันมีขบวนพาเหรดอยู่ และขบวนพาเหรดนั่นแหละทำให้เราต้องเดินอ้อมโลกมาก กว่าจะถึงตรอกไดแอกอนและได้จัดการเล่นจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟ ส่วนที่เป็นตรอกไดแอกอน 11 จุด (ถ้าเป็นในแผนที่จะบอกมี 20 จุด แต่คือจุดที่ 12-20 นี่อยู่ตามร้านค้าและเราต้องหาเครื่องรับเซนเซอร์ให้เจอเอง) และส่วนที่เป็นตรอกน็อกเทิร์น 5 จุด

สำหรับจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟที่Universal Orlando Resort มีดังนี้ (อ้างอิงจากแผนที่ที่มาพร้อมกับไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟที่ซื้อในเดือนธันวาคม 2017)

*บริเวณฮอกส์มี้ด มี 9 จุด*

1.คาถา Incendio ตรงร้านซองโก้ (เสกให้ลูกตาหมุนของต่าง ๆ ขยับที่)

2.คาถา Arresto Momentum ตรงหน้าร้าน McHavelock’s (เสกให้หม้อขยับคว่ำลงมา)

3.คาถา Revelio ตรงร้านฮันนี่ดุกส์ (เสกให้กล่องกบช็อกโกแลตเปิดออก)

4.คาถา Herbivicus ตรงหน้าร้าน Dogweed and Deathcap (เสกให้ต้นมิมบูลัส มิมเบิลโทเนียขยับ)

5.คาถา Ascendio และคาถา Descendo ตรงร้านเสื้อผ้าแกลดแร็กส์ (เสกให้สายวัดตัวที่พาดอยู่บนชุดเลื่อนขึ้นลง)

6.คาถา Locomotor Snowman ตรงหน้าร้านมาดามพุดดี้ฟุต (เสกให้สโนว์แมนบนเค้กขยับ)

7.คาถา Locomotor และคาถา Arresto Momentum ตรงร้านเดอร์วิสแอนด์แบนเจส (เสกให้มังกรบนกล่องเพลงขยับขึ้นลงหมุนไปหรือหยุด)

8.คาถา Alohomora ตรงหน้าร้าน Tomes and Scrolls (เสกให้หนังสือบีเดิลยอดกวีเปิดออก)

9.คาถา Wingardium Leviosa ตรงหน้าร้าน Spintwitches (เสกให้ลูกควัฟเฟิลลอย)

*บริเวณตรอกน็อกเทิร์น มี 5 จุด*

1.คาถา Locomotor Chimney Sweep อยู่ตรง Chimney Sweep Elf Sign (เสกให้เอลฟ์ตัวจิ๋วไต่ปล่องไฟ)

2.ชี้ไม้ไปจุดรับเซนเซอร์ แล้วเล่นขยับตัวให้ภาพโครงกระดูกขยับตามเรา อยู่ตรง Dystyl Phaelanges

3.คาถา Mimblewimble อยู่ตรง Noggin and Bonce (เสกให้เจ้าพวกหัวเกรียนหน้าย่นร้องเพลงหรือพูด)

4.คาถา Incendio อยู่ตรง Tallow and Hemp Toxic Tapers (เสกควันออกมาฆ่านก)

5.คาถา Alohomora อยู่ตรง Trackle Shanks Locksmith (เสกคาถาปลดล็อคประตูจนทำให้ลูกบิดประตูมีเสียงและมีไฟสว่างวาบ)

*บริเวณตรอกไดแอกอน มี 20 จุด*

1.คาถา Tarantallegra บริเวณร้าน Pilliwinkle’s Playthings (เสกให้ผ้าม่านเปิด แล้วให้โทรลล์ใส่ชุดกระโปรงออกมาเต้นระบำ)

2.คาถา Incendio บริเวณ Flimflam’s Lanterns (เสกให้ไฟหน้าต่างสว่างขึ้น)

3.คาถา Meteolojinx บริเวณร่ม (เสกให้มีฝนและเสียงจากร่ม)

4.คาถา Silencio บริเวณร้าน Magical Menagerie (เสกให้ฟีนิกซ์เงียบเสียง)

5.ชี้ไม้ไปที่เซนเซอร์แล้วเลื่อนไม้ช้า ๆ พวกดวงตาจะขยับตามทิศทางที่เราบังคับ อยู่บริเวณร้าน Wiseacre’s Wizarding Equipment

6.คาถา Specialis Revelio บริเวณร้าน Wiseacre’s Wizarding Equipment (เสกให้มีภาพฉายบนจาน)

7.คาถา Wingardium Leviosa บริเวณร้าน Scribbulus (เสกให้ปากกาขนนกลอย)

8.คาถา Reparo บริเวณร้าน Bowman E. Wright Blacksmith (เสกคาถาซ่อมชุดเกราะ)

9.คาถา Locomotor Bellows บริเวณร้าน Bowman E. Wright Blacksmith (เสกที่ปั้มลมให้เด้งขึ้นลง)

10.คาถา Aguamenti บริเวณน้ำพุนางเงือก (เสกน้ำให้พุ่งออกมา)

11.คาถา Descendo บริเวณร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ (เสกให้ไม้คนโถส้วมหยุดหมุนและมีเสียง)

~จุดที่ 12-20 จะไม่มีคาถาเฉพาะ มีแค่ระบุว่าอยู่ตรงร้านอะไร ย่านไหน ให้เราไปหาเครื่องรับเซนเซอร์ให้เจอแล้วเล่นชี้ไม้เอง งานนี้สายตาใครดี และดวงดีก็เจอค่ะ~

12.บริเวณร้านไอศครีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิว

13.บริเวณร้านโอลลิแวนเดอร์

14.บริเวณร้าน Slug and Jiggers (เสกให้กองสิ่งของในลังพองตัว)

15.บริเวณธนาคารกริงกอตส์

16.บริเวณร้าน Fountain of Fair Fortune

17.บริเวณร้าน Eternelle’s Elixir of Refreshment

18.บริเวณร้าน The Hopping Pot

19.บริเวณร้านมาดามมัลกิ้น

20.บริเวณร้านหม้อใหญ่รั่ว

ปิดท้ายอยู่จนถึงพนักงานไล่ต้อนคนออกจากโซนเพราะเลย 3 ทุ่มที่เป็นเวลาปิดแล้ว และเพราะงั้นเลยกลับไปที่คิวรถบัสไม่ทันรถรอบสุดท้ายก็เลยต้องนั่งแท็กซี่กลับ จ่ายไป 7 ดอลลาร์ (รวมทิปละ)

เพิ่มเติม: หากใครเดินทางมาที่ออร์แลนโด้ทางเครื่องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติออร์แลนโด้ จะเจอร้านค้าของสวนสนุกอยู่ที่ตึกที่เราต้องไปเอากระเป๋าเดินทางค่ะ ตัวร้านจะอยู่ติดกับร้านนาซ่า อยู่ตรงข้ามกับร้านดิสนีย์ ของขายก็จะราคาเดียวกับในสวนสนุกค่ะ ตัวอย่างของในร้านตามภาพด้านล่างเลย และแน่นอนว่าราคาที่บอกเป็นราคาต้นเฉย ๆ ยังไม่ได้รวมภาษี ซึ่งภาษีสินค้าในแต่ละเมือง แต่ละรัฐที่อเมริกาจะไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น กบช็อกโกแลตเหมือนกัน ราคาต้นเท่ากัน แต่ซื้อที่ออร์แลนโด้จะถูกกว่าซื้อที่ฮอลลีวู้ด โดยภาษีสินค้าที่เมืองออร์แลนโด้ (ปี 2017) จะอยู่ที่ 6.50%

[ตัวอย่างของที่มีขายในเว็บร้านออนไลน์ของสวนสนุก >>คลิกที่นี่<<]