ในที่สุด ในที่สุด ในที่สุด!!! สถานที่ที่เฝ้ารอจะไปมาเป็น 10 ปีนับตั้งแต่รู้ข่าวว่าจะมีการสร้าง ในที่สุดก็ได้ไปซะที!! เอาล่ะ เหล่าพอตเตอร์เฮดทั้งหลายมาเที่ยวด้วยกันมา ด่ำดิ่งไปในเพนซิฟของพี่ลิลี่เลย
วันที่ 21 ธันวาคม 2017
หลังจากที่บินมาจากไทยถึงออร์แลนโด้เมื่อวาน และได้นอนยาวเต็มอิ่มที่โรงแรมชื่อ Monumental Movieland (อยู่ใกล้ย่านสวนสนุก) วันนี้ก็ถึงเวลาสนุกสุดแรงเกิดจ้า เอาล่ะ! เลิกเล่นเฟสบุ๊ค แล้วไปอาบน้ำ กินขนมปังซะ จะได้ออกไปรอรถบัสสาย 37 ไปสวนสนุก เฮ้! (ตรงจุดที่เรารอรถบัสจะเห็นภูเขาไฟของสวนน้ำ Universal’s Volcano Bay ชัดมาก)
[ข้อมูลรถบัสสาย 37 >>คลิกที่นี่<<]
และผลจากความลีลาของเราเอง และแจ็คพอตเจอรถบัสมาช้ากว่าเวลาที่คาดคะเนจากกูเกิ้ล กว่าจะได้ขึ้นรถ ก็รู้เลยว่าไปถึงช้ากว่า 9 โมงที่เป็นเวลาเปิดแน่ ๆ แต่เอาน่า The show must go on! แต่พอขึ้นรถ เราก็ดันมีปัญหาค่า เรื่องมันมีอยู่ที่ว่าเรามีแบงค์ 5 ดอลลาร์ไง แล้วคือค่ารถมัน 2 ดอลลาร์ และคนขับรถไม่มีเงินทอน เครื่องจ่ายก็ไม่ทอนเงินด้วย คนขับรถเลยร้องถามคนในรถว่ามีใครมีเงินให้แลกถึง 5 ดอลลาร์ไหม แต่ก็ไม่มี ไป ๆ มา ๆ ก็มีคนดำที่เป็นผู้ชายคนนึงมาให้เศษเงินที่เขามีกับเรา ให้เอาไปจ่ายค่ารถ แล้วเศษที่เหลืออีกประมาณ 10 กว่าเซนต์มั้งที่เหลือเขาก็ไม่เอาคืนอ่ะ เขาบอกว่าไม่เป็นไร ก็เลยขอบคุณเขาไป
พอไปถึงสวนสนุกส่วนที่เป็นท่ารถ ก็ปาไปประมาณ 9 โมง 10 ก็ไม่ถือว่าแย่นะ ลงรถกันสิคะ เดินไปตามทางเพื่อตรงไปที่ทางเชื่อมต่อไป Universal City Walk เลย โดยให้ขึ้นบันไดเลื่อนไป แล้วจะเจอจุดตรวจกระเป๋าสัมภาระ พอผ่านการตรวจเสร็จก็เดินไปเรื่อย ๆ อีกจะเจอย่าน Universal City Walk ก็คอยสังเกตดูเอาว่าจะไปโซนธีมปาร์คไหนก่อน
[ข้อมูลราคาตั๋วเข้าสวนสนุก >>คลิกที่นี่<<]
แรกสุดเราก็เดินงง ๆ ไปถ่ายรูปกับหอคอยโซน Islands of Adventure ก่อน แล้วถึงไปทางฝั่ง Universal Studios Florida ซึ่งก็ให้เดินไปทางลูกโลกเลย
สำหรับวันแรกนี้เราขอคงคอนเซพต์เป็นนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ก่อน แล้วตั้งใจไปตรอกไดแอกอนก่อนด้วย เอาล่ะ เข้าประตูไปในส่วน Universal Studios Florida ดีกว่า กับกรณีเราซึ่งซื้อตั๋วออนไลน์ ก็แค่เอาใบเสร็จที่มีบาร์โค้ด เดินเข้าไปให้เจ้าหน้าที่สแกน และสแกนลายนิ้วมือก็เข้าสวนสนุกด้านในได้เลย ส่วนใครไม่มีตั๋วก็ไปต่อแถวซื้อเอาได้ที่ตึกสีชมพู
พอเข้ามาได้ก็บึ่งไปโซนตรอกไดแอกอนเลยค่า ซึ่งก็ห่างจากทางเข้ามากอยู่ แล้วแต่จะเดินอ้อมไปทางไหน ตรงหน้าทางเข้าโซนจะมีรถเมล์อัศวินกับบรรดาตึกแบบที่ให้บรรยากาศว่าเรากำลังอยู่ในลอนดอน เช่น บ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ สถานีคิงส์ครอส และร้านรวงต่าง ๆ ในลอนดอน
ตรงรถเมล์อัศวินก็จะมีพนักงานเก็บตั๋วรถเมล์ยืนคุยกับเจ้าหัวเกรียนหน้าเหี่ยว ซึ่งเราก็ไม่พลาดไปถ่ายรูปด้วยจ้าตอนเราไปถ่ายรูป เราก็แอบแกล้งเอาไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่เจ้าหัวเกรียนนะ พนักงานเก็บตั๋วเลยแซวเราว่าเดี๋ยวก็พาไปอัซคาบันซะนี่ อ่อ เจอสาวฝรั่งสีผมสะใจเหมือนนางมีท็องส์เป็นไอดอล เราเลยขอถ่ายรูปด้วย 555 นางดูเฟรนด์ลี่ดีนะ
ส่วนบ้านเลขที่12 กริมโมลด์เพลซ ก็จะมีบางช่วงที่ครีเชอร์แง้มม่านมาแอบดูพวกเราจากทางหน้าต่างด้วย
สถานีคิงส์ครอสจะเป็นสถานีที่จะพาเรานั่งรถไฟไปโซนฮอกส์มี้ดที่ Islands of Adventure โดยเราจะนั่งรถไฟกี่รอบก็ได้ แต่ตั๋วเข้าสวนสนุกจะต้องครอบคลุม 2 ธีมปาร์คนะ
ทีนี้ทางเข้าด้านในส่วนตรอกไดแอกอนจะอยู่ตรงสถานีเลสเตอร์สแควร์ (Leicester Square Station) ก็เดินเข้าไปเหมือนทะลุกำแพง 555 พอเข้าไปด้านใน ถ้ามองตรงจะเห็นมังกรเกาะอยู่บนอาคารธนาคารกริงกอตส์ (Gringotts Bank) เลยจ้า ด้านข้างก็มีป้ายร้านเยอะมาก เยอะกว่าตัวร้านอีก
เช่นว่า ทางซ้ายมือก็จะเริ่มต้นที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว (Leaky Cauldron) ไล่ไปเรื่อย ๆ ก็เป็นทางเข้าตรอกน็อกเทิร์น (Knockturn Alley) และพวกบรรดาร้านที่เข้าได้และไม่ได้ เช่น หน้าร้านขายหม้อใหญ่ Potage’s Cauldron ร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น (Madam Malkin’s Robes for All Occasions) ร้าน Shutterbutton’s Photography Studio หน้าร้านเครื่องยา Slug and Jiggers Apothecary กับหน้าร้าน Mr Mulpepper’s Apothecary และร้านไอศครีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิว (Florean Fortescue’s Ice-Cream Parlour)
และทางขวามือก็จะเริ่มที่ร้านอุปกรณ์ควิดดิชคุณภาพ (Quality Quidditch Supplies) แล้วต่อด้วยร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ (Weasley’s Wizard Wheezes) ทางแยกไปอีกทาง หน้าร้านตัวบรรจงและหยดหมึก (Flourish and Blotts) หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์เดลี่ พรอเฟ็ต (Daily Prophet) หน้าร้าน Spindlewarps ร้านไม้กายสิทธิ์โอลลิแวนเดอร์ (Ollivanders) หน้าร้าน Diagon Alley Arts Club
ด้วยรูปแบบผังร้านมันจะวนเข้าหากัน และมีเป็นซอยแยกด้วย เช่น ทางเข้าไปตรอกน็อกเทิร์น เราเห็นแล้วว่าปริมาณคนถึงจะเยอะ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นมากจนต้องรีบเข้าเล่นเครื่องเล่นก่อน เราเลยเน้นเข้าดูร้านต่าง ๆ กับการแสดงก่อนแทน แล้วค่อยไปเล่นเครื่องเล่นในกริงกอตส์ทีหลัง
เราเข้าไปดูตรอกน็อกเทิร์นก่อน โดยเข้าตรงทางเข้าติดกับร้านหม้อใหญ่รั่ว ซึ่งก็มืดอยู่นะ ด้านในจะมีของโชว์ศาสตร์มืด มีเจ้าพวกหัวเกรียนร้องเพลงประสานเสียงแบบชวนหลอนนิด ๆ และจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟ 5 จุดด้วย
อ่อ มีร้านบอร์กินและเบิร์กส์ (Borgin and Burkes) ด้วย แน่นอนว่าของที่ขายในร้านจะเน้นสายดาร์กเลย พวกหัวกระโหลกเอามาตั้งโชว์เพียบ!
จากนั้นก็ออกจากตรอกน็อกเทิร์นตรงทางออกข้างร้านน้ำพุแห่งโชคดีทีเดียว (Fountain of Fair Fortune) ซึ่งบริเวณนั้นก็มีจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟหลายจุดอยู่นะ นอกจากนี้ยังมีหน้าร้านที่ประดับเก๋ ๆ หลายร้านเลย
อ่อ จุด ๆ นี้ถ้าเป็นฝั่งร้านน้ำพุแห่งโชคดีทีเดียว ก็จะมีร้าน Pilliwinkle’s Playthings ด้วย (เป็นร้านที่มีหุ่นตัวโทรลล์ใส่กระโปรงสีชมพูเต้นรำด้วย เหอะ ๆ ซึ่งก็เป็น 1 ในจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟนั่นล่ะ) และร้านไอศครีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิว (Florean Fortescue’s Ice-Cream Parlour) ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำ กับร้าน Magical Menagerie โดยโซนร้านฝั่งที่ว่านี้จะเป็นฝั่งขวามือของธนาคารกริงกอตส์นะ
ทีนี้เราก็คิดว่า เอ้อ ก็เข้าส่วนตรอกน็อกเทิร์นแล้วเนาะ ถ้างั้นย้อนกลับไปจุดข้างหน้าทางเข้าใหม่ แล้วไล่ถ่ายทีละร้านดีกว่าจะได้ไม่งง แต่แทนที่จะไปตามทางเส้นตรงจากธนาคารกริงกอตส์ถึงจุดทางเข้า เราไม่ทำจ้า เราเดินไปดูพวกร้านทางซ้ายมือของธนาคารแทน
อ่อ ลืมบอกไปเครื่องเล่นในตรอกไดแอกอนอันเมนหลักคือเครื่องเล่นที่ชื่อว่า Harry Potter and the Escape from Gringotts ซึ่งต้องเข้าไปเล่นในตัวธนาคารจ้า แล้วก่อนเข้าต้องไปเอาของเก็บไว้ในล็อกเกอร์นะ
ร้านค้าฝั่งเดียวกับธนาคารก็จะมีร้าน Wiseacre’s Wizarding Equipment ตามด้วยร้าน Scribbulus ร้าน Gringotts Money Exchange และลานแสดง ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะมีหน้าร้านหลากหลาย เช่น ร้านตัดผม ร้าน Dr. Filibuster’s ร้าน Museum of Muggle Curiosities ร้านนาฬิกา แล้วก็มีซุ้มขายน้ำที่ชื่อ Eternelle’s Elixir of Refreshment
และช่วงนั้นแหละได้เวลาการแสดงละครหุ่นกระบอกเรื่องน้ำพุแห่งโชคดีทีเดียวกำลังจะแสดงแล้ว ก็เลยดูยาวเลยจ้า ตอนดูจบก็ถามพนักงานแถวนั้นเลยว่าการแสดงต่อไปมีกี่โมง
พอดูจบก็ตระเวนถ่ายรูป อัดวีดีโอ ย่านร้านแถวนั้นต่อซึ่งมีซุ้มขายของ หน้าร้าน Jellied Eel Shop ร้าน Wands by Gregorovitch ร้านขนม Sugarplum’s Sweetshop ร้านขายเครื่องดื่มชื่อ The Hopping Pot ร้าน Bowman E. Wright Blacksmith ไปรษณีย์นกฮูก และรูปปั้นน้ำพุนางเงือกที่เป็น 1 ในจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งถ้าเดินวนลูปไปเรื่อยมันจะไปบรรจบกับตรงร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ตรงหน้าทางเข้าตรอกไดแอกอนเลย
จากนั้นดูเวลาแล้วใกล้เวลาเซเลสทีน่า วอร์เบ็กจะร้องเพลงแล้ว เลยรีบย้อนไปลานแสดงทันที ช่วงคริสต์มาส เซเลสทีน่าจะร้องเพลงพิเศษตามเทศกาลเลยจ้า แล้วนางมาในชุดแดงด้วยนะ ส่วนแก๊งสาว ๆ แบนชีทั้งสามของนางก็ใส่ชุดสีเงิน
พอจบจากการร้องเพลงของเซเลสทีน่า เราก็รออยู่แถวนั้นอีกประมาณ 15 นาที แล้วก็ได้ดูการแสดงละครหุ่นกระบอกเรื่องนิทานสามพี่น้องต่อเลย
พอได้ดูการแสดงครบ 3 โชว์แล้ว ก็ได้เวลาไปเข้าแต่ละร้านและซุ้มต่าง ๆ จริงจังละ เราเลยไปเริ่มต้นที่จุดตั้งต้นเหมือนเดิม และเข้าร้าน Quality Quidditch Supplies ก่อนเลย แน่นอนว่าของส่วนใหญ่ที่ขายก็คงคอนเซพท์หมวดควิดดิชจ้า
ซึ่งภายในร้านจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปถึงร้านขนมสีชมพูที่ชื่อ Sugarplum’s Sweetshop ด้วย
จากนั้นก็เข้าร้าน Weasley’s Wizard Wheezes หรือก็คือร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์นั่นเอง ในร้านจะมีพวกของเล่นเยอะ มีของที่ที่ญี่ปุ่นไม่มีบ้างบางชิ้น อ่อ มีประตูฝั่งนึงเปิดเชื่อมทางกับร้านขายของควิดดิชด้วย
พอออกจากร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์ เราก็ไปดูพวกหน้าร้านต่าง ๆ ทางฝั่งขวาซึ่งก็มีไปรษณีย์นกฮูก จุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟ เช่น ตรงร้าน Bowman E. Wright Blacksmith กับรูปปั้นน้ำพุนางเงือก และก็ร้านขายเครื่องดื่มชื่อ The Hopping Pot ด้วย ก็พอมีโต๊ะให้นั่งบ้างนะ
จากนั้นก็ย้อนไปทางจุดเริ่มต้นอีกแล้ว 55 ไปเข้าดูร้านเสื้อคลุมสำหรับทุกโอกาสของมาดามมัลกิ้น ซึ่งก็มีเสื้อผ้า เสื้อคลุม เครื่องประดับ และหมวกหลากหลายดี แต่ไม่มีชุดของโบซ์บาตงหรือเดิร์มสแตรงก์ เศร้าอ่ะ อ่อ มันมีกระจกที่พูดชมคนด้วยนะ
แล้วข้าง ๆ ร้านมาดามมัลกิ้นก็มีร้านบริการถ่ายรูปพิเศษแหละ ชื่อร้าน Shutterbutton’s Photography Studio มีชุดมีพร็อพให้ แน่นอนว่าเสียตัง แต่เท่าไหร่นั้นไม่รู้จ้า เพราะไม่ถ่าย 555 เอ้อ ตลกอยู่อย่างตัวอาคารชั้นสองของร้านนี้ดันมีป้ายบอกเป็นร้านนกฮูกอายล็อปส์จ้า (อะไรวะ เข้าเคลมร้านเหรอ)
พอไล่ลำดับร้านเรื่อย ๆ ก็จะมีร้านขายเครื่องยา 2 ร้านที่เป็นแค่หน้าร้านเฉย ๆ และไปจบที่หัวมุมเป็นร้านไอศครีมของฟลอเรียน ฟอร์เตสคิวจ้า ก็กินไอศครีมกันไป เอ้อ มันมีทั้งแบบใส่แก้วซันเด ถ้วยกระดาษ แล้วก็โคนวาฟเฟิลนะ ราคาก็แล้วแต่ประเภทเลย เราจัดไอศครีมบัตเตอร์เบียร์ใส่วาฟเฟิลไป อร่อยใช้ได้อยู่ ถึงจะหวานแต่ก็ไม่ได้หวานจัดนะ
ต่อด้วยเข้าร้าน Fountain of Fair Fortune ที่ตกแต่งด้วยกระจกซะสวยเลย ก็ไปซื้อบัตเตอร์เบียร์มากินแหละ โดยเราเลือกแก้วที่ระลึก (แก้วที่ระลึกมีหลายแบบนะ) จ้า
พอซื้อเสร็จก็ไปหามุมนั่งกินแถว ๆ ทางออกตรอกน็อกเทิร์นนั่นแหละ กินเสร็จก็ล้างแก้วที่ห้องน้ำ ซึ่งอยู่ตรงแถว ๆ นั้นเลย แน่นอนว่าห้องน้ำในตรอกไดแอกอนไม่มีเสียงเมอร์เทิลอยู่แล้ว
จากนั้นก็ไปดูพวกหน้าร้านต่าง ๆ ที่อยู่ฝั่งซ้ายของธนาคารกริงกอตส์ร้านอื่น ๆ ต่อ เช่น ร้าน Dr. Filibuster’s ร้าน Museum of Muggle Curiosities แล้วก็มีซุ้มขายน้ำที่ชื่อ Eternelle’s Elixir of Refreshment
ต่อมาก็วนกลับไปจุดเริ่มต้น ไปเริ่มที่หน้าร้านตัวบรรจงและหยดหมึกอีก จนไปเข้าร้านไม้กายสิทธิ์โอลลิแวนเดอร์ ซึ่งก็มีโชว์การแสดงของมิสเตอร์โอลลิแวนเดอร์แหละ ก็ต้องต่อแถวเข้าไปในห้องรอก่อน แล้วถึงคิวก็เข้าไปหามิสเตอร์โอลลิแวนเดอร์ แน่นอนเราใส่ชุดคอสเพลย์เป็นเด็กกริฟฟินดอร์ไป พยายามอย่างยิ่งให้เขาเลือก แต่อดจ้า นกเต็ม ๆ เลยจ้า มิสเตอร์โอลลิแวนเดอร์เลือกเด็กผู้ชายใส่ชุดธรรมดาเนี่ยแหละ แป่ว! แล้วก็เริ่มทำการแสดงเลือกไม้ให้ไป ให้เด็กลองใช้คาถาไป ก็มีคาถาวิงการ์เดียม เลวีโอซ่า (ใช้กับกล่องไม้กายสิทธิ์) จากนั้นเปลี่ยนเป็นไม้ที่ 2 ให้โบกไม้เสกให้กระดิ่งดัง แต่มาลงเอยไม้ที่ 3 ที่เหมาะ และพอการแสดงจบเราก็จะเดินออกไปเจอร้านโอลลิแวนเดอร์ส่วนขายของนั่นเอง
ต่อมาก็เลี้ยวไปทางซ้ายมือ ไปเข้าร้าน Magical Menagerie กันบ้าง ของในร้านจะเน้นไปทางของที่เกี่ยวกับสัตว์นะ มีหุ่นงูตัวใหญ่ขยับได้ พูดได้ด้วยอ่ะ
จุดถัดไปเราไปกันที่ร้าน Gringotts Money Exchange ก็เข้าไปจะเจอหุ่นก๊อบลินด้วยนะ หลัก ๆ คือเราสามารถเอาเงินดอลลาร์ของพวกโนแมจไปแลกเป็นเงินแบงค์กริงกอตส์ (มีให้เลือกเป็นแบงค์ 10 ดอลลาร์กับ 20 ดอลลาร์) แล้วเอาไปใช้ซื้อของในโซนแฮร์รี่ได้ หรืออยากจะเก็บสะสมก็ได้นะ
จากนั้นก็ไปเข้าร้าน Wiseacre’s Wizarding Equipment ซึ่งมีของพวกอุปกรณ์ต่าง ๆ และเสื้อผ้าขาย จริง ๆ ก็ขายแบบจิปาถะรวม ๆ แหละ โดยตัวร้านภายในจะเชื่อมต่อกับร้าน Scribbulus ที่เน้นขายกระดาษด้วยนะ
พอมาถึงตอนนี้พวกร้านทั้งหลายยกเว้นร้านหม้อใหญ่รั่วก็เข้าหมดแล้ว การแสดงก็ดูหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าไปเล่นเครื่องเล่นแล้วล่ะ เพราะงั้นก็ไปที่กริงกอตส์เลย แต่ก่อนอื่นไปเอาสัมภาระเก็บในตู้ล็อกเกอร์ก่อน โดยตู้ล็อกเกอร์จะมีอยู่ 2 ขนาด (ซึ่งก็ต่างกันไม่ค่อยมาก) ขนาดใหญ่จะอยู่ที่เลขหมวด 8 เป็นต้นไป การใช้ล็อกเกอร์จะเป็นระบบแบบทัชสกรีนมีสแกนลายนิ้วมือนะ ถ้าฝากของในล็อกเกอร์ไม่นานก็ไม่เสียตังจ้า
ทีนี้ก็ถึงเวลาเข้าธนาคารกริงกอตส์ ซึ่งมันมีแถวเข้าต่างกันนะ ก็จะได้เห็นอะไรต่างกันหน่อย แต่จุดรับภาพกรณีอยากเสียตัง กับจุดทางออกก็ทางเดียวกัน ซึ่งมันจะเชื่อมต่อกับจุดฝากล็อกเกอร์ กับร้าน Wiseacre’s Wizarding Equipment และร้าน Scribbulus ด้วยจ้า
เราก็เข้าเล่น 2 รอบเลย รอบละแถว แฮ่ ๆ โดยรอบแรกเป็นแถวขวาสำหรับ single ride คนที่มาเดี่ยว
ส่วนรอบสองเข้าแถวซ้ายเป็นแถว regular โดยทั้งสองรอบได้นั่งรถเครื่องเล่นคันแรกอยู่แถวหน้าสุดทั้งสองรอบเลย ฟินดี อิอิ เครื่องเล่นเหวี่ยงอยู่ ตอนแรกพยายามจะถ่ายรูป-วีดีโอตอนเล่น แต่สุดท้ายยอมแพ้จ้า กลัวมือถือปลิวตกไป (เขาไม่เข้มงวดเรื่องพกโทรศัพท์มือถือเข้าไปนะ)
เรื่องสิ่งที่ได้เห็นต่างกันก็คือ ถ้าเป็นแถว single ride รอบแรก พอเข้าทางเข้าปุ๊บ เดิน ๆ ไปจะเจอห้องโถงกลางที่พวกก๊อบลินทำงานหน้าเคาน์เตอร์กันอยู่ จากนั้นก็เดินไปตามทางเดินจะถึงจุดรับแว่น 3 มิติ และมีภาพก๊อบลินพูดอธิบายวิธีการเล่น แล้วก็เดินขึ้นบันไดวนไปจุดที่เครื่องเล่นจอดอยู่ บรรยากาศจะสไตล์ถ้ำมีหินย้อยด้วย
ตัวเครื่องเล่นจะประมาณว่ามีบิลมาแนะนำ มีพวกแฮร์รี่มาด้วย มีฉากขึ้นมังกรหนี แล้วก็มีอัศวินมาทำลายราง มีเบลลาทริกซ์กับโวลเดอมอร์มาบุกธนาคาร นากินีก็มา สถานที่จะแบบเป็นถ้ำ และตลกดีที่ตอนท้ายบิลยังมีมาพูดอีกว่าไงที่นี่ก็ปลอดภัยสุด 555
[ตัวอย่าง]
ส่วนรอบสองที่เป็นแถว regular แถวยาวมาก คดเคี้ยว อ้อมสวนด้านหลัง แล้วเข้าประตูมาที่ห้องโถงกลางที่พวกก๊อบลินทำงานหน้าเคาน์เตอร์กันอยู่ (แถวนี้จะได้ดูห้องโถงกลางได้มากกว่าแถว single ride จากนั้นก็เดินไปในห้องที่มีของโชว์ เช่น หนังสือพิมพ์เดลี่ พรอเฟ็ต ประตูที่จะเห็นเงาพวกกลุ่มแฮร์รี่คุยกัน ภาพวาดก๊อบลิน หุ่นเกราะอัศวิน ห้องทำงานของบิลที่กริงกอตส์ ภาพก๊อบลินพูดอธิบายวิธีการเล่น มีลิฟต์หลอก ๆ ให้เราเข้าไป พอออกจากลิฟต์ก็เดินขึ้นบันไดวนไปจุดที่เครื่องเล่นจอดอยู่
พอเล่นเสร็จ 2 รอบก็ออกไปเอาของที่ล็อกเกอร์ ฟ้ามืดแล้ว หิวแล้ว หมดแรงหลังจากที่กินขนมปังไปเมื่อเช้าก่อนออกเที่ยวและไอศครีมบัตเตอร์เบียร์กับบัตเตอร์เบียร์เย็นแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าร้านหม้อใหญ่รั่ว ไปรีวิวอาหารละ ก็ง่าย ๆ ไปต่อแถว สั่งอาหาร จากนั้นก็รับอาหารไปกิน ถ้ายังไม่ได้เลยเดี๋ยวก็รับเบอร์ แล้วจะมีพนักงานเอามาเสิร์ฟให้ สำหรับมื้อเย็น เราเลือกฟิชแอนด์ชิปกับฟรอสเซ่นบัตเตอร์เบียร์แก้วที่ระลึกอีกแบบจ้า รสชาติอาหารนั้น ฟิชแอนด์ชิปก็เค็มโดดเลย ส่วนฟรอสเซ่นบัตเตอร์เบียร์ก็หวานตามระเบียบ (มีคุยกับพนักงานเล่นด้วยนะ เลยชวนเขาถ่ายวีดีโอพูดไรหน่อย 55)
พอกินเสร็จดูเวลาละก็ตัดสินใจว่า เดี๋ยวพวกจุดเล่นไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟค่อยจัดการเล่นพรุ่งนี้แล้วกัน (ที่จริงก็ลองเอาไม้กายสิทธิ์อินเตอร์แอคทีฟของที่ญี่ปุ่นมาเล่นด้วยบางจุดก่อนนะ มันใช้ได้อ่ะ) เพราะอยากนั่งรถไฟไปฮอกส์มี้ด ไปดูการแสดงไฟประดับปราสาทตั้งแต่วันนี้เลย แต่ตอนออกจากโซนก็มิวายไปถ่ายวีดีโอรอบรถเมล์อัศวินก่อน และบรรยากาศตอนกลางคืนด้วย
พอตอนช่วง 2 ทุ่มครึ่งก็นั่งรถไฟไปฮอกส์มี้ด แต่ด้วยการจัดระบบเอกสารที่สุดแสนจะเริ่ดของเรา 555 หากระดาษ A4 ที่เป็นตั๋วออนไลน์ไม่เจอจ้า เลยต้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยออกบัตรให้เป็นการ์ดแทน แล้วก็เข้าโซนไปโดยการสแกนตั๋ว เดินไปเรื่อย ๆ จะเจอร้านขายขนมขบเคี้ยวข้างใน แล้วก็ของตกแต่งที่เป็นกองกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปที่ชานชาลาไปขึ้นรถไฟตามคิว (อ่อ ทางเดินไปจุดนึงจะมีเอฟเฟกต์ทำเหมือนเราเดินทะลุกำแพงด้วย)
ตอนนั่งรถไฟได้ไปตู้เดียวกับครอบครัวที่ใส่ชุดมินเนี่ยน ก็ให้เขาช่วยถ่ายรูปให้เลย 555 ระหว่างทางบนรถไฟ จะมีภาพวีดีโอฉายตรงหน้าต่างด้วย เป็นเส้นทางจากลอนดอนไปฮอกส์มี้ด (มีผ่านคฤหาสน์มัลฟอย เจอผู้คุมวิญญาณ แฮกริดซิ่งมอเตอร์ไซด์มาหา รถฟอร์ดแองเกลียบินผ่าน วิวปราสาทฮอกวอตส์ แล้วไปถึงสถานีฮอกส์มี้ดมีแฮกริดยืนโบกมือต้อนรับ) แล้วบางช่วงก็มีเงากลุ่มแฮร์รี่คุยกันที่ประตูกับรถเข็นคนขายขนมด้วย แล้วก็ผู้คุมวิญญาณด้วยพอถึงที่ประตูห้องโดยสารก็เปิดก็ออกไปฮอกส์มี้ดเลยจ้า
พอไปถึงฮอกส์มี้ดก็เข้าไปถามเรื่องกบช็อกโกแลตที่ร้านฮันนี่ดุกส์ เจอพนักงานชื่อจีน่าบอกว่าทางร้านให้เทรดการ์ดได้ก็ออกจะเล่นตุกติกไรงั้นนิดนึง เราก็เลยโอเค งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยปฏิบัติการล่าการ์ดเฮนจิสต์แห่งวู้ดครอฟต์ละกัน (การ์ดเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนจ้า)
จากนั้นก็แว่บไปไปรษณีย์นกฮูกไปดูพวกโปสการ์ดไรหน่อยว่าเหมือนกับที่เราซื้อที่ร้านของสวนสนุกที่สนามบินไหม ซึ่งก็เหมือนนะ อ่อ แล้วพอดีเห็นหนุ่มบ้านกริฟฟินดอร์หน้าตาดีแต่งคอสจัดเต็มก็ขอชวนเขาถ่ายรูปด้วยนิดนึง ฮี่ ๆ
แล้วถึงไปถ่ายรูปไฟประดับปราสาทซึ่งก็ทันรอบที่น่าจะเป็นรอบสุดท้ายพอดี เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าเริ่มมีแสดงไฟตั้งแต่ 6 โมงเย็นนะ
จากนั้นเราก็กลับออกไปทางโซน Islands of Adventure แล้วเจอร้านข้างทางออกมีขายถุงเท้าประดับคริสต์มาสจ้า (คือด้านในโซนแฮร์รี่ดันไม่มีขายไง) จากนั้นก็ไปขึ้นรถสาย 37 กลับโรงแรม (มีรถพอดีไม่ต้องรอ) และก็เพราะมีแบงค์ 5 ไม่มีทอนเหมือนเดิม ก็เลยเจอฝรั่งผิวดำผู้ชายช่วยออกเงินให้เหมือนเมื่อเช้าอีกแล้ว แฮ่ ๆ
พอถึงใกล้โรงแรม เราก็ไปดูเสื้อร้านกิ๊ฟท์ช้อปแถวโรงแรม และก็ไปดูพวงกุญแจเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตวอลกรีนส์ย่านโรงแรมด้วย แล้วถึงกลับเข้าโรงแรม เสร็จสิ้นภารกิจวันแรกจ้า ไว้พรุ่งนี้เที่ยวต่อ
มีต่อตอนที่ 2 >>คลิกที่นี่<<
***************************************************************************
แหล่งอ้างอิง
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [1/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [2/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [3/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [4/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [5/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [6/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [7/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [8/9]
– คลิปวีดีโอ ตามรอยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน 22 [9/9]
– คลิปวีดีโอ การแสดง Celestina Warbeck and the Banshees
– คลิปวีดีโอ การแสดงละครหุ่นกระบอกเรื่อง The Fountain of Fair Fortune
– คลิปวีดีโอ การแสดงละครหุ่นกระบอกเรื่อง The Tale of Three Brothers
– คลิปวีดีโอ การแสดง Frog Choir ที่ Universal Orlando Resort
– คลิปวีดีโอ การแสดง Triwizard Spirit Rally ที่ Universal Orlando Resort
– คลิปวีดีโอ การแสดง The Nighttime at Hogwarts Castle ที่ Universal Orlando Resort