“จะบอกให้รู้ไว้นะ พอตเตอร์ อัสโฟเดลกับเวิร์มวู้ดผสมกันแล้วจะได้ยานอนหลับที่แรงมากที่รู้จักกันในชื่อของยาตายทั้งเป็น”
– ศาสตราจารย์สเนป, แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ บ.8
น้ำยาตายทั้งเป็น เป็นหนึ่งในยาขั้นสูงที่มีสอนในชั้นเรียนปี 6 ซึ่งแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้เรียนกับศาสตราจารย์ซลักฮอร์น โดยชื่อของน้ำยาตายทั้งเป็นนี้ได้รับการเอ่ยถึงครั้งแรกในวิชาปรุงยาของเซเวอรัส สเนป ตอนแฮร์รี่เรียนอยู่ปีที่ 1 ซึ่งยาตัวนี้จะมีผลให้ผู้ดื่มหลับเหมือนตาย
ประวัติ
ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากเจ.เค.โรว์ลิ่ง หรือไม่? ซึ่งข้อมูลนี้ปรากฏในการ์ดกบช็อกโกแลตบนวิดีโอเกมแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ระบุว่าผู้ใช้น้ำยาตายทั้งเป็นคือ เลทิเซีย ซอมโนเลนส์ (Leticia Somnolens) แม่มดเฒ่าวายรายที่อาบน้ำยาตายทั้งเป็นลงไปบนเข็มกระสวย ซึ่งเจ้าสาวของกษัตริย์โดนทิ่มเข้าจนสลบเป็นเจ้าหญิงนิทรา และทำให้เราค้นพบในครั้งนี้ด้วยว่าผู้ที่ช่วยเธอจากนิทราคือพ่อมดหนุ่มที่ใช้น้ำยาวิกเกนเวลด์ (Wiggenweld Potion) ทาที่ริมฝีปากและบรรจงจูบเจ้าหญิงให้ฟื้นขึ้นมา
วิธีการปรุงยา
จากหนังสือ
“เธอจะชิงรางวัลอันน่ามหัศจรรย์ของฉันได้ยังไงน่ะหรือ ก็โดยเปิดไปหน้าที่สิบของหนังสือตำราปรุงยาขั้นสูงน่ะสิ เรามีเวลาเหลืออีกชั่วโมงกว่าๆ พอที่พวกเธอจะลองพยายามปรุงน้ำยาตายทั้งเป็นได้ ฉันรู้ว่าเป็นน้ำยาที่ซับซ้อนกว่าที่เธอเคยทำมาก่อนมาก และฉันไม่คาดคิดว่าจะได้น้ำยาสมบูรณ์แบบจากใครทั้งนั้น…”
– ศาสตราจารย์ซลักฮอร์น (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม บ.9)
วัตถุดิบ
- ผงจากรากของต้นอัสโฟเดล
- น้ำสกัดที่ได้จากการแช่ต้นเวิร์มวูด
- ถั่วโซพอฟเฟอรัส
- รากวัลเลอเรียน
ขั้นตอนการปรุงยา
- สับรากวัลเลอเรียน
- หั่นถั่วโซพอฟเฟอรัส จากนั้นนำน้ำจากถั่วโซพอฟเฟอรัสทั้งหมดใส่ลงในหม้อ น้ำยาจะเปลี่ยนเป็นสีดอกไลแลค
- คนทวนเข็มนาฬิกาไปจนกระทั่งน้ำยาใสเหมือนน้ำ
จากภาพยนตร์
หน้าหนังสือของตำราปรุงยาขั้นสูง ระบุไว้ดังนี้
สูตรสำเร็จของน้ำยาตายทั้งเป็น (Preparation of the Draught of Living Death)
น้ำยาตายทั้งเป็นมีผลให้ผู้ดื่มหลับล้ำลึกอย่างไร้ขีดจำกัด น้ำยาตัวนี้อันตรายอย่างยิ่งหากไม่ใช้อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะเริ่มต้น โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีอุปกรณ์และวัตถุดิบทั้งหมดครบถ้วนแล้ว (The Draught of Living Death brings upon its drinker a very powerful sleep that can last indefinitely. This draught is very dangerous if not used with caution. Before you begin, ensure that you have all the equipment required and all the ingredients are available.)
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- หม้อใหญ่มาตรฐาน (ควรเป็นหม้อดีบุกผสมตะกั่ว) (Standard size cauldron (presumably pewter))
- บีกเกอร์ขนาด 150 ออนซ์ (150 fl.oz beaker)
- กระบอกตวงขนาด 50 ออนซ์ (50 fl.oz. graduated cylinder)
- หลอดทดลองมาตรฐาน (Standard test tube)
- ถ้วยตวงขนาด 250 ออนซ์ (250 fl.oz. measuring cup)
- แท่งแก้วคนสาร (Stirring rod)
- หลอดหยด (Dropper)
วัตถุดิบ
- น้ำดื่ม – น้ำดื่มมาตรฐานสำหรับปรุงยา (Water – standard potioning water)
- ผงของรากอัสโฟเดล 150 ออนซ์ (150 oz. Asphodel Root Powder)
- หัวน้ำมันเวิร์มวูด (Wormwood Essence)
- รากวัลเลอเรียน (Valerian Roots)
- ถั่วโซพอฟเฟอรัส 12 ฝัก (12 Sopophorous beans)
ขั้นตอนการปรุงยา
01) หั่นถั่วโซพอฟเฟอรัส (Cut up the Sophophorus bean.)
02) เติมน้ำ 250 ออนซ์ และเกลือทะเลแอฟริกัน 5 ออนซ์ลงในบีกเกอร์ ตั้งบีกเกอร์ทิ้งไว้หลังจากที่ใส่น้ำจนหมดแล้ว ระวังไม่ให้สั่นสะเทือนหรือเคลื่อนย้ายบีกเกอร์ในเวลานี้ (Pour in 250 fl.oz. of water and add 5 oz. of African Sea Salt to the beaker. Set the beaker aside after all the Water has been added. Be very careful not to shake or move the beaker now.)
03) ทิ้งน้ำและเกลือไว้ประมาณ 5 นาที (Leave the water and salt to rest for 5 minutes.)
04) ค่อยๆ รินน้ำทั้งหมดลงในหม้อใหญ่ (Slowly pour the all the Water into the cauldron.)
05) ใช้มือซ้ายของคุณตวงหัวน้ำมันเวิร์มวูดให้ได้ 40 ออนซ์ในกระบอกตวง (With your left hand use the graduated cylinder to obtain 40 fl.oz. Wormwood Essence.)
06) ใช้มือขวาของคุณเอียงหม้อใหญ่เล็กน้อย และเติมหัวน้ำมันเวิร์มวูดลงไป 10 หยด (20 ออนซ์) With your right hand hold the cauldron at a slight angle … 10 drops (20 fl.oz.) of Wormwood Essence.
07) ในตอนนี้ให้คุณใช้มือซ้ายจับหม้อใหญ่ของคุณเอียงไปด้านตรงข้ามอีกเล็กน้อยและเติมส่วนที่เหลือของหัวน้ำมันเวิร์มวูดลองไปอีก 10 หยด (Now with your left hand hold the cauldron at a slightly different angle and pour another 10 drops of Wormwood Essence.)
08) หั่นรากวัลเลอเรียนสามรากเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก เสร็จแล้วใส่ลงในบีกเกอร์ที่มีน้ำ พักไว้ 5 นาที (Chop three Valerian Roots into small squared pieces. After cutting place it in a beaker with water. Leave it to settle for 5 minutes.)
* ตัวยาของคุณตอนนี้จะมีลักษณะคล้ายของเหลวสีดำแบล็กเคอร์แรนต์อ่อนๆ (Your potion now should be resembling a smooth blackcurrant-coloured liquid.)
10) เติมน้ำของถั่วโซพอฟเฟอรัสลงในหม้อใหญ่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นน้ำจาก 12 ฝักเท่านั้น (Carefully pour the Sophophorus Beans’ Juice into the cauldron, making sure that ONLY the juice of 12 beans are used.)
11) หยดของเหลวที่ได้จากบีกเกอร์ลงไป ดูให้แน่ใจว่าไม่มีซากหรือเศษของรากวัลเลอเรียนติดไปด้วย (Add 7 drops of the reduced liquid from the beaker. Make sure there are no traces or fragments of Valerian Root.)
12) คนน้ำยาตามเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง (Stir the potion 10 times clockwise.)
* น้ำยาของคุณจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงไลแลคใสๆ ทันที (Your potion should now be turning into a light shade of lilac.)
13) ใช้มือขวาของคุณคนน้ำยาทวนเข็มนาฬิกาต่อเนื่องจนกว่าน้ำยาจะกลายเป็นใสเหมือนน้ำ ทุกครั้งที่คนควรใช้ระยะเวลาประมาณ 2 1/2 วินาที (With your right hand stir the potion anti-clockwise until the potion turns as clear as water. Every stir should take approximately 2 1/2 seconds.)
14) ค่อยๆ เติมรากวัลเลอเรียนที่หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลงไป 7 ชิ้น (Slowly pour 7 square pieces of Valerian Root.)
15) คนน้ำยาทวนเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง (Stir the potion 10 times anti-clockwise.)
16) เติมผงของรากอัสโฟเดลลงไป 150 ออนซ์ (Add 150 fl.oz. of Asphodel Root Powder.)
17) จับหม้อใหญ่ด้วยมือขวา และใช้มือซ้ายคนน้ำยาทวนเข็มนาฬิกาอย่างเบามือ 10 ครั้ง และตามเข็มนาฬิกา 8 ครั้ง (Hold the cauldron with your right hand. With your left hand gently stir the potion 10 times anti-clockwise and 8 times clockwise.)
18) พักน้ำยาได้ 2 1/2 นาที (Leave the potion to settle for 2 1/2 minutes.)
19) เติมชิ้นรากวัลเลอเรียนเล็กๆ อีกหนึ่งชิ้น (Add one small piece of Valerian Root.)
20) น้ำยาของคุณควรเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน (Your potion should turn to a pale pink colour.)
21) การเตรียมยาของคุณเสร็จสมบูรณ์แล้ว (Your potion preparation is now complete.)
หมายเหตุ (NOTE): นี่คือตัวยาอันตรายยิ่งยวด โปรดระมัดระวังอย่างสูงสุด (This is an extremely dangerous potion. Execute with maximum caution.)
จากสูตรข้างต้นที่ระบุไว้ในหนังสือบ่งบอกให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าข้อมูลนี้เชื่อถือไม่ได้ และไม่น่าจะได้รับการยืนยันจาก เจ.เค.โรว์ลิ่ง เนื่องจากความเป็นจริงแล้ว บีกเกอร์ ไม่สามารถจุของเหลวในปริมาณ 150 ออนซ์ หรือ 250 ออนซ์ได้เลย เว้นแต่ Beaker ในที่นี้หมายถึง ภาชนะใส่ของเหลวขนาดใหญ่ เพราะ 150 ออนซ์ ตกประมาณ 4.43603 ลิตร และในข้อ 02 ที่ระบุให้เติมน้ำ 250 ออนซ์ ลงในบีกเกอร์ 150 ออนซ์ ก็ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอนถ้าจะต้องเททั้งหมดลงไปในคราวเดียว หรือในข้อ 16 ผงรากอัสโฟเดล ไม่สามารถใช้หน่วยว่า fl.oz. ได้ เพราะเป็นหน่วยออนซ์สำหรับชั่งตวงของเหลว ผงรากอัสโฟเดลควรใช้แค่ oz.
คำแนะนำของเจ้าชายเลือดผสม หรือเซเวอรัส สเนป
- (จากหนังสือ) เขาให้เปลี่ยนจากการหั่นถั่วโซพอฟเฟอรัส เป็นการทุบด้วยด้านแบนของมีดเงินสองคม ซึ่งให้น้ำมากกว่า
- (จากหนังสือ) ในตำราต้องคนยาทวนเข็มนาฬิกาไปจนกระทั่งน้ำยาใสเหมือนน้ำ แต่คำสั่งของเจ้าชายเลือดผสมบอกให้เขาคนตามเข็มนาฬิกาหนึ่งครั้ง หลังจากที่ทวนเข็มนาฬิกาไปแล้วเจ็ดครั้ง
- (จากภาพยนตร์) ในตำราระบุว่าให้ใช้น้ำจากถั่วโซพอฟเฟอรัส 12 ฝัก แต่เจ้าชายเลือดผสมบอกให้ใช้ 13 ฝัก
ความแตกต่างของภาพยนตร์และหนังสือ
แท้จริงแล้ว น้ำยาตายทั้งเป็นคือยานอนหลับชนิดรุนแรงเท่านั้น ขณะที่ภาพยนตร์กลับเลือกนำเสนอว่าน้ำยาชนิดนี้สามารถทำให้ถึงตายได้
“แค่เพียงหยดเดียวก็สามารถฆ่าเราทุกคนได้”
– ศาสตราจารย์ซลักฮอร์น ภ.แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม
เกร็ดน่าสนใจ
- น้ำยาตายทั้งเป็นนี้ทำให้นึกถึง เจ้าหญิงนิทรา ที่หลับไปเหมือนตายทั้งเป็น และเขาได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าชาย แฮร์รี่ พอตเตอร์ เองปรุงยาตายทั้งเป็นสำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าชายเช่นเดียวกัน
- รากของวัลเลอเรียนมีสรรพคุณทางยาในการช่วยให้นอนหลับง่าย ทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์กล่อมประสาทจึงมีส่วนช่วยให้นอนหลับง่าย (อ้างอิง https://draxe.com/valerian-root/) เช่นเดียวกัน เวิร์มวูดก็สามารถช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคนอนไม่หลับได้อีกด้วย (อ้างอิง https://draxe.com/wormwood/) ทั้งนี้ไม่สามารถนำมารับประทานได้เองเนื่องจากสมุนไพรทั้งสามตัวมีคุณสมบัติเป็นพิษและอันตรายอย่างยิ่งหากใช้เกินขนาด ส่วนอัสโฟเดลเป็นดอกไม้ในตำนานกรีกที่เกี่ยวข้องกับโลกหลังความตาย และมีความหมายในภาษาดอกไม้ว่าเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับความตายเช่นเดียวกัน (อ้างอิง https://www.muggle-v.com/12658)
- ถั่วโซพอฟเฟอรัส (Sopophorous) มีที่มาจากคำว่า sopor ในภาษาละตินที่แปลว่า “หลับลึก” (อ้างอิง https://en.wiktionary.org/wiki/sopor)