เนื้อหาต่อไปนี้เปิดเผยเนื้อหาจากภาพยนตร์แฟรนไชส์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่
ครีเดนซ์ แบร์โบน เป็นลูกบุญธรรมคนแรกของ แมรี่ ลู แบร์โบน ผู้นำกลุ่มเซเล็มที่สอง ซึ่งเป็นกลุ่มเคร่งศาสนาที่ต่อต้านการมีอยู่ของผู้วิเศษและเวทมนตร์ ภายหลังเขาทราบว่าตัวเองเป็นลูกชายแท้ ๆ ของอาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์ (น้องชายของอัลบัส ดัมเบิลดอร์) มีชื่อจริง ๆ ว่า ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์
ประวัติของออเรเลียส ดัมเบิลดอร์
แรกเกิด
ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์ เกิดในปี ค.ศ. 1900 เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของ อาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์ และสาวสวยนิรนามในหมู่บ้านก็อดดริกส์โฮลโล่ ทั้งคู่พบรักกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่อัลบัสและกรินเดลวัลด์พบรัก ในหน้าร้อนปี 1899 ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน หญิงสาวก็ถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน โดยที่อาเบอร์ฟอร์ธไม่รู้เลยว่าเธออุ้มท้องลูกของเขา (ภ.ความลับของดัมเบิลดอร์) หนึ่งปี (ค.ศ.1901) ให้หลังจากที่เขาเกิด เขาก็ย้ายออกจากอังกฤษไปอยู่อเมริกากับป้าของเขาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้
สลับตัว
ออเรเลียส ถูกป้าพาไปยังอเมริกาในปี ค.ศ. 1901 (บทภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ฉากที่ 108 และ 109) ระหว่างที่กำลังหลับอยู่ในผ้าอ้อม เขาก็ถูกลีตาสลับตัวกับคอร์วุส เลสแตรงจ์ (น้องชายของลีตา เลสแตรงจ์) ที่เดินทางในเรือลำเดียวกัน ด้วยเหตุผลเพียงเพื่อต้องการตัดรำคาญจากเสียงร้องของน้องชายที่ดังไม่หยุด เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเรือลำดังกล่าวเกิดล่ม ทำให้คอร์วุส เลสแตรงจ์ที่ถูกสลับตัวไปเสียชีวิต ขณะที่ออเรเลียส ถูกเข้าใจว่าเป็นคอร์วุสน้อย ลูกชายของคอร์วุส เลสแตรงจ์ (Corvus Lestrange) ที่ 4 กับ คลารีส เทรมเบลย์ (Clarisse Tremblay) (อ้างอิงตัวอย่าง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald)
หลังการสลับตัวและรอดชีวิตมาได้ ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์ ได้อาศัยและเลี้ยงดูโดยเออร์ม่า ดูการ์ด (คนรับใช้ครึ่งเอลฟ์ของครอบครัวเลสแตรงจ์) อยู่ในอเมริกา ก่อนจะถูกส่งให้โบสถ์เซเล็มที่สองของแมรี่ ลู แบร์โบน เลี้ยงดูเขาในฐานะเด็กกำพร้า ภายใต้ชื่อใหม่ ครีเดนซ์ แบร์โบน ในปี 1905
เด็กกำพร้าของโบสถ์เซเล็มที่สอง
เพื่อปกปิดและป้องกันการตามรอยของคอร์วุส เลสแตรงจ์ จากยูซุฟ คามา เออร์ม่า ดูการ์ด ที่รับหน้าที่พาลูกชายของเลสแตรงจ์ไปซ่อน ได้ส่งออเรเลียสให้อยู่ในการดูแลของโบสถ์เซเล็มที่สอง ของแมรี่ ลู แบร์โบน ในวันที่ 21 ตุลาคม 1905 ซึ่งโบสถ์รับเขามาเลี้ยงในวันที่ 25 ตุลาคมปีเดียวกัน หลักฐานการรับเลี้ยงระบุวันเกิดของเขาใหม่เป็นวันที่ 9 พฤศจิกายน 1904 (อาจเป็นวันเกิดปีเกิดจริงของคอร์วุสน้อย)
ครีเดนซ์เติบโตขึ้นมาในโบสถ์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับรู้เรื่องราวครอบครัวของเขาเลย
ช่วงวัยรุ่น
ก่อนเดือนธันวาคม 1926 มือปราบมารพอร์เพนทีน่า โกลด์สตีน ได้พบกับครีเดนซ์ ซึ่งในระหว่างการพบกันครั้งนั้นเธอเห็นการทรมานที่แมรี่ ลูใช้ควบคุมครีเดนซ์ จนเผลอใช้เวทมนตร์กับโนแมจ และการใช้เวทมนตร์ดังกล่าวยังกระทำต่อหน้าโนแมจหรือมักเกิ้ลหลายคน ซึ่งผิดกฎการเปิดเผยความลับของมาคูซา เป็นเหตุให้เธอถูกปลดจากตำแหน่งมือปราบมาร แต่เธอก็ยังคงแอบติดตามและเฝ้าดูกลุ่มเซเล็มที่สองอยู่เสมอแม้จะไม่ได้เป็นมือปราบมารแล้วก็ตาม
และในช่วงที่สื่อเวทมนตร์รายงานการหายตัวไปของกรินเดลวัลด์ ซึ่งคาดเดาได้ว่าเป็นช่วงที่เขาปลอมตัวเป็นเพอร์ซิวาล เกรฟส์ เพื่อตามหาเด็กที่เป็นออบสคูเรียลแล้ว และเพราะแผนการนี้เองเขาจึงพยายามสร้างความไว้วางใจกับครีเดนซ์ เพื่อหวังให้เขาช่วยค้นหาเด็กที่เขาเห็นในนิมิตว่าเป็นออบสคูเรียล
6 ธันวาคม 1926 หลังจากการเข้าพบเฮนรี่ ชอว์ เพื่อขอแรงสนับสนุนกลุ่มเซเล็มที่สอง และถูกปฏิเสธด้วยการแสดงออกที่หยาบคายจากเฮนรี่ ชอว์ จูเนียร์ ครีเดนซ์จึงใช้พลังออบสคูรัสในตัวของเขาสังหารเฮนรี่ ชอว์ จูเนียร์ กลางงานเลี้ยง
7 ธันวาคม 1926 เพื่อทำตามความต้องการของกรินเดลวัลด์ (ในร่างของเกรฟส์) ซึ่งเขาหลอกใช้ครีเดนซ์ให้ค้นหาเด็กที่อายุไม่เกินแปดปีและมีเวทมนตร์ ซึ่งอยู่ใกล้ตัวแมรี่ ลู เพราะตอนนั้นกรินเดลวัลด์เชื่อมั่นตามหลักฐานที่มีมานานว่าออบสคูเรียลจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เกิน 10 ปี ในที่สุดครีเดนซ์ก็พบเด็กคนที่กรินเดลวัลด์น่าจะต้องการตัว จากไม้กายสิทธิ์ของเล่นที่พบในห้องนอนของ โมเดสตี้ แบร์โบน น้องสาวบุญธรรมคนสุดท้อง และเพราะการพบไม้กายสิทธิ์ของเล่นนี้เองทำให้ แมรี่ ลู โกรธและไม่พอใจครีเดนซ์อย่างมาก เพราะคิดว่าเขาพัวพันกับเวทมนตร์ จึงพยายามลงโทษและเล่นงานเขาด้วยเข็มขัดหนังอย่างที่เคยทำมาตลอด แต่สุดท้ายโมเดสตี้ก็ออกมายอมรับว่าไม้กายสิทธิ์นั้นเป็นของเธอเอง ทว่าแมรี่ ลูก็เผลอทำให้ครีเดนซ์โกรธจัดเพราะพูดดูถูกแม่แท้ๆ ของตนจนระเบิดพลังออบสคูรัสออกมา และทำให้เธอ รวมถึงแชสติตี้ แบร์โบน เสียชีวิตไปในคืนนั้น
ครีเดนซ์: แม่…
แมรี่ ลู แบร์โบน: ฉันไม่ใช่แม่แก! แม่ของแกเป็นผู้หญิงร้ายกาจและวิกลจริต!
คืนวันที่ 7 ธันวาคม 1926 ครีเดนซ์ที่ถูกกรินเดลวัลด์ (ในร่างของเกรฟส์) เข้าใจว่าเป็นสควิบ เพราะเขาเกิดมาจากครอบครัวผู้วิเศษแต่ไม่แสดงความสามารถทางเวทมนตร์ออกมา จึงถูกเข้าใจว่าเขาเป็นสควิบ แต่ความจริงแล้วครีเดนซ์กลับเป็นออบสคูเรียลซึ่งเขาตามหา แถมยังมีอายุมากกว่าที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ผู้วิเศษ เมื่อถูกไล่บี้ไปจนถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ทีน่า โกลด์สตีนพยายามช่วยเหลือและแสดงความห่วงใยอย่างแท้จริงกับครีเดนซ์ แต่ก็ถูกขัดขวาง ท้ายที่สุดเขาถูกประธานเซราฟินา พิกเคอรี สั่งให้มือปราบมารลงมือสังหารตอนที่เขาเป็นออบสคูรัส ทว่าเศษชิ้นส่วนเวทมนตร์ของเขาที่ไม่ได้ถูกทำลายไปในครั้งนั้นได้หลบหนีไปในเช้าวันที่ 8 ธันวาคม และดูเหมือนจะมีเพียง นิวท์ สคามันเดอร์ คนเดียวเท่านั้นที่สังเกตเห็นเศษพลังดังกล่าว
ในปี 1927 หลังจากรอดชีวิตและหลบหนีมาได้ ด้วยความสงสัยในครอบครัวแท้จริงของตนเอง ครีเดนซ์จึงเริ่มออกตามหาความจริงและอาศัยการเข้าไปอยู่ในคณะละครสัตว์วิเศษของสเกนเดอร์ (Skender) เพื่อออกตามหาร่องรอยของครอบครัว และได้พบกับนากินี หญิงสาวผู้เป็นมาเลดิกตัสในคณะละครสัตว์ ซึ่งเธอกับครีเดนซ์มีความคล้ายคลึงกันตรงที่พวกเขามีสิ่งชั่วร้ายอยู่ในตัว ครีเดนซ์มีออบสคูรัสอยู่ภายใน ขณะที่เธอถูกคำสาปทางสายเลือดให้ต้องกลายร่างเป็นงูร้ายขนาดใหญ่ ทั้งคู่จึงมีความแน่นแฟ้นกันอย่างมาก
กันยายน 1927 ครีเดนซ์ แบร์โบน ได้ตามคณะละครสัตว์วิเศษของสเกนเดอร์มาแสดงโชว์ยังปารีส และใช้โอกาสนี้ในการตามหาร่องรอยของคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นมารดา และชีวิตความเป็นอยู่ของเขาในคณะละครสัตว์วิเศษไม่ใช่การเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม เป็นที่แน่ชัดว่าสเกนเดอร์ผู้เป็นเจ้าของคณะกดขี่เขาอย่างชัดเจน และนั่นทำให้เขาและนากินีตั้งใจที่จะหลบหนีออกจากคณะ สาเหตุที่หลบหนีส่วนหนึ่งก็เพื่อออกตามหาแม่และชาติกำเนิดแท้จริงของตนเอง การตามหาดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเมื่อครีเดนซ์พบกับเออร์ม่า ดูการ์ด ซึ่งเป็นแม่มดเลือดผสมเอลฟ์ประจำบ้าน ทว่าเธอไม่ใช่แม่ของเขาแต่เป็นเพียงหญิงรับใช้ของตระกูลเลสแตรงจ์ แต่ยังไม่ทันได้รับรู้รายละเอียดที่มากพอ เออร์ม่า ดูการ์ด ก็ถูกคำสาปพิฆาตจากกริมม์สัน (ตามคำสั่งของกรินเดลวัลด์) จนเสียชีวิต การตายของเออร์ม่าทำให้ครีเดนซ์ยิ่งเปราะบางมากขึ้นไปอีก และนั่นทำให้การตามหาตัวตนที่แท้จริงของเขาต้องหาแหล่งข้อมูลใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการของกรินเดลวัลด์ให้ครีเดนซ์เดินมาติดกับด้วยตนเองทั้งสิ้น
ในท้ายที่สุด ครีเดนซ์ แบร์โบน ก็พบความจริงว่าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับตระกูลเลสแตรงจ์เลย แต่เป็นเพียงเด็กชายที่ถูกลีตาสลับสับเปลี่ยนตั้งแต่ยังแบเบาะ เพราะฉะนั้นตัวตนที่แท้จริงของครีเดนซ์จึงยังไม่ได้รับการเปิดเผย และเพราะยังคงติดอยู่กับการตามหาตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ครีเดนซ์จึงตัดสินใจไปอยู่กับเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ด้วยหวังว่าเขาจะเป็นคนที่ให้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดแก่ตนเอง ซึ่งครีเดนซ์เองก็มีความไม่แน่ใจว่าการเลือกมาอยู่กับกรินเดลวัลด์นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
ครีเดนซ์ที่รอดการสังหารจากมาคูซามาได้ ถูกสังคมผู้วิเศษเชื่อว่าเขาคือเด็กในคำทำนายของไทโค โดโดนุส (Tycho Dodonus)
ตามหาความจริงเรื่องครอบครัว
หลังเลือกมาอยู่กับกรินเดลวัลด์ ออเรเลียสก็พบความจริงว่าเขาเป็นเพียงเครื่องมือของกรินเดลวัลด์เท่านั้น และได้รู้ความจริงว่าเขาเป็นลูกชายของอาเบอร์ฟอร์ธกับแม่ที่ไร้นาม จากการทำงานผิดพลาดซ้ำ ๆ กรินเดลวัลด์ตั้งใจจะกำจัดเขาในท้ายที่สุด แต่ด้วยการปกป้องของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ลุงของเขา) และพ่อ (อาเบอร์ฟอร์ธ) รวมถึงสัญญาเลือดที่ดัมเบิลดอร์ทำร่วมกับกรินเดลวัลด์ ทำให้เขารอดชีวิตมาได้
ออเรเลียส: “คุณคิดถึงผมบ้างรึเปล่า”
– ภ.ความลับของดัมเบิลดอร์
อาเบอร์ฟอร์ธ: “ตลอดเวลา… กลับบ้านเถอะ”
เสียชีวิต
“ไม่มีใครช่วยครีเดนซ์ได้ ฉันคิดว่าเธอรู้… แต่ว่าเขาอาจจะช่วยเราได้ เถ้าของนกฟีนิกซ์ ที่นกมาหาก็เพราะเขากำลังจะตาย นิวท์ ฉันรู้ถึงลางนี้ รู้ไหม น้องสาวฉันเป็นออบสคูเรียล…เหมือนกับครีเดนซ์ เธอไม่เคยเรียนรู้การใช้เวทมนตร์… ยิ่งนานมันยิ่งมืดหม่น และเริ่มทำร้ายเธอ และไม่มีใครคลายความเจ็บปวดให้เธอได้”
– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ภ.ความลับของดัมเบิลดอร์)
เพราะพลังออบสคูรัสที่กลืนกินร่างกายและจิตใจของครีเดนซ์ไปมากเหลือเกิน ในท้ายที่สุดไม่มีออบสคูเรียลคนไหนหนีจากการถูกกัดกินของออบสคูรัสได้ เขาจะเสียชีวิตในเวลาอันสั้นหลังจากนั้น แต่อย่างน้อยเขาจะได้รับความรักจากพ่อและลุงก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงที่ร้านหัวหมู
ความสามารถทางเวทมนตร์
- ออบสคูเรียล: เขาเป็นพ่อมดที่สามารถกลายเป็นออบสคูรัสได้ ออบสคูรัสจะคงอยู่ในตัวของผู้ที่เป็นพ่อมดหรือแม่มดเท่านั้น และแน่นอนว่าครีเดนซ์ไม่ใช่สควิบ
- เวทมนตร์ที่สูงกว่าคนธรรมดา: เป็นที่ทราบกันดีว่า ออบสคูเรียลในบันทึกวิชาการนั้นระบุว่าพวกเขาจะมีชีวิตคงอยู่ได้ไม่เกิน 10 ปี แต่ครีเดนซ์อยู่ได้นานกว่านั้น ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเขามีพลังเวทมนตร์ที่มากกว่าพ่อมดแม่มดธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้ ในนาทีที่เขาได้รับไม้กายสิทธิ์จากกรินเดลวัลด์ เขาก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างทรงพลัง ชนิดที่สามารถเสกคาถาระเบิดภูเขาได้เลยทีเดียว
เกร็ดน่ารู้
- ครีเดนซ์ แบร์โบน (Credence Barebone) ปรากฏตัวในภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ และภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ (ภาค 2) ซึ่งแสดงโดย Ezra Miller
- ในหนังสือบทภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ฉากที่ 7 ระบุว่า ครีเดนซ์ และเชสทิตี้เป็น Adult จึงต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และครีเดนซ์เป็นพี่ชายคนโต และดูโตกว่าเชสทิตี้ไปเยอะ น่าจะอายุ 20+ แล้วในปี 1926 แต่ต้องอายุน้อยกว่านิวท์ที่ในปี 1926 นิวท์อายุ 29 ปี