บทที่ 1 : คาถาสะเดาะกลอน (Unlocking Charm)

คาถาสะเดาะกลอน (Unlocking Charm)

มีวิธีการมากมายที่จะผ่านประตูซึ่งถูกล็อกอยู่ในโลกเวทมนตร์ (ดูคาถาจุดไฟ คาถาเซาะร่อง และคาถาทลายด่าน) ไม่ว่าคุณต้องการจะเข้า หรือออกไปอย่างเงียบๆ อย่างไรก็ตาม คาถาสะเดาะกลอนคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ

คนที่นำคาถาสะเดาะกลอนอันเลืองชื่อมาสู่เกาะบริเตน ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 คือ หัวขโมยนาม เอลดอน เอลส์ริคเกิ้ล (Eldon Elsrickle) ผู้หนีเตลิดไปยังแอฟริกา ด้วยความหวังว่าจะรอดพ้นจากบทลงโทษข้อหาโจรกรรมไปได้

ภายหลัง เอลส์ริคเกิ้ลได้ปลอมตัวและลักลอบกลับเข้าประเทศ พร้อมสมบัติติดตัวสองอย่าง อย่างแรกคือสัตว์แรกเกิดที่มีชื่อเรียกว่า นันดุ มันมีรูปลักษณ์คล้ายกับเสือดาวที่น่าสะพรึงกลัว หากมันโตเต็มที่แล้ว มันสามารถกลืนกลุ่มคนลงคอได้ภายในอึกเดียว อย่างไรก็ตาม ทารกนันดุสามารถถูกปราบได้ด้วยคาถาสะกดนิ่งง่ายๆ เพียงบทเดียว เอลส์ริคเกิ้ลต้องการใช้เจ้านันดุมาเฝ้าบ้านให้ตนระหว่างที่เขาไม่อยู่

สมบัติอย่างที่สองของเอลส์ริคเกิ้ล คือคาถาที่เขาเรียนมาจากพ่อมดแอฟริกันโบราณ “อาโลโฮโมร่า” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า คาถาสะเดาะกลอน หรือ เพื่อนของหัวขโมย

เอลส์ริคเกิ้ลเริ่มงานอันแสนชั่วร้ายของเขาทันทีที่กลับไปถึง ไม่มีบ้านไหนในลอนดอนทั้งบ้านของมักเกิ้ลหรือพ่อมดที่ปลอดภัย เอลส์ริคเกิ้ลแอบย่องเข้าบ้านที่เจ้าของสะสมอัญมณี ภาพวาด และวัตถุโบราณที่ประเมินค่าไม่ได้เอาไว้ ก่อนจะขโมยพวกมันกลับไปยังบ้านของตนที่มีนันดุเฝ้าอยู่

หลังจากนั้นไม่นาน “โจรตีนผีแห่งนครลอนดอน” ก็ได้ขึ้นหน้าหนึ่งอีกครั้ง ทั้งในโลกเวทมนตร์และโลกมักเกิ้ล ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าทำไมอาชญากรผู้นี้สามารถเข้าและออกบ้านได้โดยไม่ต้องทุบหน้าต่างให้แตกหรือใช้บันได

บางครั้ง เอลส์ริคเกิ้ลก็ถูกพ่อมดจับได้ว่าเขาย่องเข้ามา เมื่อใดก็ตามที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เอลส์ริคเกิ้ลมักจะยื่นข้อเสนอเพื่อแลกกับอิสระด้วยคาถาสะเดาะกลอน พ่อมดส่วนใหญ่ตกลงรับข้อเสนอของเขา ทำให้ในไม่ช้า เมืองหลวงก็เต็มไปด้วยเหล่าโจรตีนผีจำนวนมาก

เอลส์ริคเกิ้ลมั่นใจกว่าบ้านของเขาจะไม่ถูกปล้นเสียเอง เพราะเขาทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาเลี้ยงนันดุที่ไม่มีวันหยุดเจริญเติบโตเอาไว้ ทุกๆ เช้า เอลส์ริคเกิ้ลจะเสกให้มันนอนหลับผ่านทางรูกุญแจ ก่อนที่เขาจะเข้าบ้าน และปลุกมันให้ตื่นด้วยวิธีเดียวกันทุกครั้งที่เขาออกจากบ้านในตอนดึก

แต่แล้ววันหายนะของเอลส์ริคเกิ้ลก็มาถึง เมื่อแบล็กดอน เบลย์ (Blagdon Blay) พ่อมดเจ้าของบ้านที่โดนปล้นถึงสิบเก้าครั้งในระยะเวลาสองสัปดาห์ ได้คิดค้นวิธีการต่อต้านคาถาสะเดาะกลอน ในคืนเดียว ประตูบ้านของพ่อมดแม่มดทุกครัวเรือนในลอนดอนได้ถูกปิดผนึกไว้ กองกำลังจำนวนหนึ่งก็ถูกส่งออกไปเพื่อปกป้องบ้านของเหล่ามักเกิ้ลด้วยเช่นกัน

ในวันสุดท้ายของชีวิต เอลส์ริคเกิ้ลกลับถึงบ้านในสภาพมือเปล่า เพราะเขาไม่สามารถปล้นใครได้เลยตลอดคืน ด้วยความเหนื่อยล้า ผิดหวัง และกราดเกรี้ยว เอลส์ริคเกิ้ลถึงกับลืมเสกคาถานอนหลับใส่นันดุผ่านทางช่องกุญแจ คำสุดท้ายที่เขาได้พูดก่อนจะโดนนันดุตะครุบกินคือ “อาโลโฮโมร่า”

 

figc_zps32966168.jpg

วิธีการร่าย
การจะปลดล็อกประตูนั้นสามารถทำได้ด้วยการโบกไม้กายสิทธิ์ และเอ่ยคาถา “อาโลโฮโมร่า”

ท่าทางในการร่าย
กระบวนการเคลื่อนไหวไม้เพื่อเสกคาถาสะเดาะกลอนจะต้องทำอย่างละเอียด และประณีตชัดเจน เริ่มต้นจากด้านล่าง ขึ้นบน และลงอีกครั้งเป็นแนวทแยง ก่อนจะลากเส้นตรง ผ่านไปทางขวามือ (ตามภาพ Fig.C)

หมายเหตุ
ก่อนที่จะมีการค้นพบคาถาสะเดาะกลอน “พอร์ตาเบอร์โต้ (Portaberto)!” คือคาถาที่ผู้คนนิยมใช้ปลดล็อกมากที่สุด ซึ่งมักทำให้แม่กุญแจหลุดออกจากประตู และทิ้งรอยโหว่ไว้แทนในบางครั้ง ถึงอย่างไรก็ดี พอร์ตาเบอร์โต้ นับว่าเป็นคาถาที่มีพัฒนาการสูงกว่า “ประตูจงเปิด (Open Sesame)!” หรือคาถาสะเดาะซึ่งเคยเป็นที่นิยมมากที่สุดก่อนหน้านั้น คาถาดังกล่าวทำให้ประตูหลุดออกจากบานพับ และกลายเป็นเศษฟืน