ออบสคูรัสคืออะไร?
ออบสคูรัส (Obscurus) ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่วิญญาณ แต่เป็นพลังงานด้านมืดที่มีอานุภาพ เป็นคำเรียกพลังงานรูปแบบหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในตัวพ่อมดแม่มดเด็ก มีลักษณะเป็นกลุ่มมวลสารสีดำที่หมุนวนและเปลี่ยนรูปได้อิสระ เป็นพลังงานที่ไม่สงบ ซึ่งพ่อมดแม่มดที่มีออบสคูรัสอยู่ในตัวเราเรียกว่า “ออบสคูเรียล (Obscurial)” เปรียบได้ว่า ออบสคูเรียลเป็นต้นไม้ ที่มีออบสคูรัสเป็นกาฝากคอยกัดกิน ออบสคูรัสไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้หากถูกแยกออกมาจากเด็ก
“มันเป็นพลังมืดที่ไม่แน่นอนและควบคุมไม่ได้ มันจะปรากฏออกมา และ และโจมตี… แล้วก็หายไป… พวกออบสคูเรียลมีชีวิตสั้น”
– พอร์เพนทีน่า โกลด์สตีน อธิบายเสริมแก่เจคอบ
เมื่อแยกเอาออบสคูรัสออกจากพ่อมดแม่มด พวกมันจะหายไปทันที ทว่าก็มีครั้งหนึ่งที่ นิวท์ สคามันเดอร์ สามารถแยกออบสคูรัสออกจากเด็กคนหนึ่งได้ โดยใช้เวทมนตร์รักษาออบสคูรัสไว้โดยที่มันไม่สลายหายไปเมื่อโดนแยกออกมา
“ออบสคูเรียลจะไม่ตายเมื่อถูกโจมตีในร่างของพลังออบสคูรัส คาถาที่ทำร้ายพลังออบสคูรัสจะทำได้แค่ให้สูญสลายไปชั่วคราวเท่านั้น ที่สุดแล้วออบสคูเรียลก็จะกลับมามีชีวิตได้ใหม่ วิธีที่จะทำให้ออบสคูเรียลตายคือต้องฆ่าตอนที่เขาหรือเธอไม่ได้กลายสภาพเป็นพลังออบสคูรัส”
– เจ.เค.โรว์ลิ่ง จากหนังสือ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald: Movie Magic
ออบสคูรัส มีประโยชน์แง่ไหน?
หากออบสคูรัสปราศจากร่างให้อาศัย พวกมันจะสิ้นสภาพไปในทันที มันไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้เมื่อโดนแยกออกมาจากเด็กๆ ผู้วิเศษ ฉะนั้นมันจะไร้ประโยชน์เมื่อไม่มีที่อาศัย แต่หากควบคุมออบสคูเรียล (หมายถึงเด็กที่มีออบสคูรัสอยู่ในตัว) นั่นหมายความถึงการใช้พลังด้านมืดเพื่อทำลาย เพราะมันจะมีพลังมหาศาล และยิ่งอยู่ในพ่อมดแม่มดที่มีพลังแกร่งกล้าจะยิ่งทำให้อำนาจของมันมากขึ้นตามไปด้วย ดังที่เราเห็นได้จาก ครีเดนซ์ แบร์โบน ชายหนุ่มที่มีพลังแก่กล้าจนสามารถเป็นที่อยู่ให้ออบสคูรัสอาศัยอยู่ได้มาอย่างยาวนานโดยไม่ตายเสียก่อน
พ่อมดแม่มดกลายเป็นออบสคูเรียลได้ยังไง?
“ก่อนที่พ่อมดจะหลบไปอยู่ใต้ดิน พวกเรายังถูกไล่ล่าจากมักเกิ้ล พ่อมดแม่มดเด็กพยายามยับยั้งเวทมนตร์เพื่อหลบเลี่ยงการถูกทำร้าย เพราะงั้นแทนที่จะใช้พลังหรือควบคุมมัน พวกเขากลับทำให้สิ่งที่เรียกว่าออบสคูรัสเติบโตขึ้นมา”
-นิวท์ สคามันเดอร์ อธิบายกับเจคอบ โควัลสกี้
โดยปกติแล้วช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดของพ่อมดแม่มดคือ วัยเด็ก เนื่องจากพ่อมดแม่มดวัยเด็กจะไม่สามารถควบคุมหรือจัดการเวทมนตร์ในตัวเองได้เลย เวทมนตร์ในเด็กแต่ละคนจะสำแดงออกมาเมื่อพวกเขาหรือเธอตื่นเต้น โกรธ เกลียด ไม่พอใจ หรือถูกกระตุ้นอย่างหนัก ตัวอย่างเช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ วัยเด็กที่เผลอทำกระจกล่องหนตอนที่ครอบครัวดัดลีย์พาไปสวนสัตว์ด้วยความโกรธจัด หรือพยายามหนีดัดลีย์อย่างหนักจนเผลอใช้เวทมนตร์หายตัวไปนั่งอยู่บนปล่องไฟโรงเรียน นี่ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กผู้วิเศษ แต่สุ่มเสี่ยงต่อการโดนพบเห็นว่ามีเวทมนตร์
จึงทำให้ช่วงวัยเด็กของผู้วิเศษนั้นเปราะบางเสี่ยงต่อการเปิดเผยเวทมนตร์ได้ง่ายที่สุด ฉะนั้นการไล่ล่าแม่มดที่ได้ผลที่สุดส่วนใหญ่มีพ่อมดแม่มดเด็กตกเป็นเป้าสายตาและเหยื่อที่ทำให้ถึงตายได้เสมอ
ทว่า ออบสคูเรียล มีความอันตรายที่แตกต่างกว่านั้น พ่อมดแม่มดที่เป็นออบสคูเรียล มีความเสี่ยงที่จะตายด้วยพลังเวทมนตร์สูงกว่าเด็กวัยเดียวกัน เพราะนอกจากจะบังคับควบคุมเวทมนตร์ในตัวเองไม่ได้แล้ว เวทมนตร์เหล่านั้นยังย้อนมาทำลายตัวเด็กเองอีกด้วย เมื่อเด็กๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ เพราะถูกกัดกินโดยออบสคูรัส ในที่สุดพวกเขาก็จะตาย
ตามเอกสารที่บันทึกไว้ ออบสคูเรียลมีอายุสั้น ไม่เคยมีบันทึกว่าใครมีชีวิตอยู่ได้เกินกว่า 10 ปี แต่ก็มีให้พบเห็นในพ่อมดแม่มดโตอย่าง ครีเดนซ์ แบร์โบน
เมื่อใดก็ตามที่ออบสคูเรียลไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้อีก พลังของออบสคูรัสก็ระเบิดออกมาและเปลี่ยนร่างของออบสคูเรียลจากคนให้กลายเป็นพลังเวทมนตร์มืดในรูปแบบที่คล้ายกลุ่มควันดำมืดที่รูปร่างไม่คงที่ เมื่อพลังมืดของออบสคูรัสสังหารเหยื่อมันจะทิ้งร่องรอยที่ปรากฏอย่างเด่นชัดเฉพาะ ที่ไม่มีเวทมนตร์ หรือสัตว์วิเศษใดทำแบบนั้นได้
“ไม่มีสัตว์ตัวไหนทำแบบนี้ได้ อย่าแสร้งถาม คุณต้องรู้ว่านี่คืออะไร ดูร่องรอยพวกนั้น มันคือออบสคูรัส”
– นิวท์ สคามันเดอร์ อธิบายท่ามกลางผู้นำของรัฐบาลเวทมนตร์จากแต่ละประเทศ
ทำไมเด็กที่มีเวทมนตร์บางคนถึงไม่กลายเป็นออบสคูเรียล
เจ.เค.โรว์ลิ่ง อธิบายถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมแฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึงไม่กลายเป็นออบสคูเรียล
ออบสคูรัสจะเกิดขึ้นได้ในภาวะที่จำเพาะเจาะจงมาก ๆ คือต้องมีความบาดเจ็บทางจิตใจอันเนื่องจากการใช้เวทมนตร์ ความเกลียดชังจากส่วนลึกต่อเวทมนตร์ที่คนคนหนึ่งมี และความพยายามอย่างจงใจที่จะปกปิดมันเอาไว้
พวกเดอร์สลีย์หวาดกลัวเวทมนตร์มากจนไม่เคยบอกให้แฮร์รี่รับรู้ว่าเวทมนตร์นั้นมีอยู่ ซึ่งแม้ว่าเวอร์นอนและเพ็ตทูเนียจะมีความหวังที่ค่อนข้างสับสนว่าถ้าพวกเขาปฏิบัติไม่ดีต่อแฮร์รี่ได้มากพอ ทักษะอันแปลกประหลาดก็จะหายไปจากตัวแฮร์รี่เอง แต่พวกเขาก็ไม่เคยสอนให้แฮร์รี่อับอายหรือกลัวเวทมนตร์ แม้แฮร์รี่จะถูกบ่นว่า “ชอบทำโน่นทำนี่ให้เกิดขึ้นอยู่เรื่อย” แต่แฮร์รี่ก็ไม่ได้มีความพยายามใด ๆ ที่จะกดธรรมชาติที่แท้จริงของเขาเอาไว้ รวมทั้งเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีพลังที่จะทำเช่นนั้นด้วย
อ้างอิง https://www.muggle-v.com/14538
การรับมือกับออบสคูรัส
พ่อมดแม่มดที่เชี่ยวชาญคาถาสามารถสร้างเกราะคุ้มภัยที่ออบสคูรัสไม่สามารถเข้าถึงหรือทำร้ายได้ ขณะเดียวกันวิธีในการควบคุมออบสคูรัสไม่ให้ทำร้ายเจ้าของร่าง ก็ดูเหมือนจะมีวิธีรับมือ หากสิ่งที่อัลบัส ดัมเบิลดอร์ อธิบายไว้นั้นถูกต้อง
“สิ่งที่ฉันรู้ก็คือ ออบสคูรัสจะเติบโตเมื่อขาดความรัก เป็นเหมือนฝาแฝดด้านมืด และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว ถ้าครีเดนซ์มีพี่น้องชายหญิงที่สามารถมาแทนที่ได้ เขาก็อาจจะปลอดภัย”
– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (บทภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ฉากที่ 29)
นั่นหมายความว่า เด็กที่เป็นออบสคูเรียลจะไม่ถูกพลังออบสคูรัสเล่นงานจนทำให้เสียชีวิตไป หากเขาหรือเธอได้รับความรักที่มากพอจากคนในครอบครัว ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ เจ.เค.โรว์ลิ่ง พยายามสะท้อนถึงปัญหาสังคมจริงๆ ของลูกที่เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดและต้องปกปิดเอาไว้ การได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวและมองข้ามเพศสภาพที่ผิดเพี้ยนเป็นเกราะป้องกันที่ดีและทำให้ลูกๆ ปลอดภัยจากการเก็บกด และมีอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเอง
ในแง่ประวัติศาสตร์
ดูเหมือนว่าภายหลังจากที่พ่อมดแม่มดแยกสังคมออกจากมักเกิ้ลหรือโนแมจอย่างชัดเจนแล้วออบสคูเรียลก็เหลืออยู่น้อยมาก และไม่ปรากฏ (ในบันทึก) อีกเลยมาหลายศตวรรษ เพราะไม่ต้องปะปนกับมักเกิ้ลมากเหมือนแต่ก่อน หรือไม่ตกเป็นเหยื่อยั่วยุทางอารมณ์เท่าสมัยนั้น รวมถึงอยู่ภายใต้บรรยากาศที่ปลอดภัยกว่าเดิม ซึ่งในสหรัฐอเมริกาไม่มีให้พบเห็นมายาวนานจนปี 1926 ตามคำสรุปของประธานเซราฟิน่า พิกเคอรี
ใครบ้างที่เป็นออบสคูเรียล
เด็กหญิงในซูดาน, แอฟริกา เด็กหญิงที่ถูกข่มเหงรังแกจากคนในหมู่บ้านฐานที่เธอมีเวทมนตร์ เธอเสียชีวิตเมื่ออายุ 8 ขวบ และนิวท์ สคามันเดอร์แยกเอาออบสคูรัสมาจากเธอ มาเก็บรักษาไว้เพื่อศึกษามันอย่างจริงจัง นิวท์พบเธอสามเดือนก่อนที่จะมาถึงนิวยอร์ก
ครีเดนซ์ แบร์โบน เด็กหนุ่มที่ถูกกดขี่และทำร้ายอยู่เสมอจากแม่เลี้ยงของเธอ แมรี่ ลู แบร์โบน ผู้ที่เกลียดเวทมนตร์และเป็นทายาทของสเคาเรอร์ (พ่อมดที่ล่าพ่อมดด้วยกันเองจนถูกตามจับและหลบตัวไปอยู่ปะปนกับโนแมจแล้วมุ่งมั่นทำลายผู้วิเศษด้วยการฝังความคิดว่าเวทมนตร์เลวร้ายและต้องกำจัด) เขาปล่อยให้ออบสคูรัสกลืนกินและปล่อยให้พลังนั้นทำลายนิวยอร์ก ดูเหมือนว่าพลังเวทมนตร์ที่กล้าแกร่งของครีเดนซ์จะทำให้เราเห็นว่า ครีเดนซ์ยังไม่ได้ตาย และหลบหนีไปได้ พร้อมๆ กับที่พลังออบสคูรัสในตัวยังคงอยู่ด้วย เป็นคนหนึ่งที่ยังไม่ตายเพราะออบสคูรัสทั้งที่อายุเกิน 10 ปีไปแล้ว ในบทภาพยนตร์ระบุว่ากลุ่มควันออบสคูรัสเล็กๆ ดังกล่าวเคลื่อนหายไปหาภาชนะของมัน… (Fantastic Beasts and Where to Find Them – Original Screenplay น. 261)
แอรีอานนา ดัมเบิลดอร์ น้องสาวคนสุดท้องของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ในหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บทที่ 28 ระบุว่า “จากความหวาดกลัวทำให้เธอไม่ยอมใช้เวทมนตร์อีก เวทมนตร์นั้นย้อนกลับเข้าไปในตัวเธอ ทำให้เธอเป็นบ้า เมื่อไหร่ที่เธอควบคุมไม่ได้ มันก็จะระเบิดออกมา” ซึ่งสื่อสารถึงพฤติกรรมของคนที่เป็นออบสคูเรียลได้อย่างชัดเจน เมื่อแอรีอานนาอายุ 14 ปี จู่ๆ แอรีอานนาก็โมโหเดือดด้วยสาเหตุบางอย่างจนทำให้พลังของเธอควบคุมไม่ได้ และฆ่าแม่ของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ต่อมาเมื่อเกิดการวิวาทของอัลบัส อาเบอร์ฟอร์ธ และกรินเดลวัลด์ การใช้คาถาต่อสู้ทำให้แอรีอานนาทนรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเธอเสียชีวิตลงอย่างไรจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อาเบอร์ฟอร์ธคิดว่าเป็นเพราะใครในบรรดาพวกเขาสามคนที่ทำให้เธอต้องตาย หรือเธออาจถูกพลังออบสคูรัสในตัวทำร้ายเธอเองก็ได้
เกร็ดน่ารู้
- ออบสคูรัสและออบสคูเรียล ปรากฏครั้งแรกในภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ แต่ออบสคูรัสถูกกล่าวถึงครั้งแรกในหนังสือตำราเรียน สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่
- ชื่อของออบสคูรัส ได้รับการนำมาใช้เป็นชื่อสำนักพิมพ์ที่ว่าจ้างให้นิวท์เขียนหนังสือ “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” อีกด้วย
- คำว่า Obscurus น่าจะมาจากคำว่า obscure ที่แปลว่า มืดมัว คลุมเครือ ไม่ชัดเจน