เผยมุมมองตัวตนตัวละครหลัก กับบทสัมภาษณ์นักแสดงนำจาก ‘สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่’

ก่อนจะดู ‘สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่’ กันเดือนหน้า เรามาดูมุมมองตัวตนของสี่ตัวละครหลักจากนักแสดงและผู้กำกับที่ Yahoo Movies ลงข้อมูลกันก่อนดีกว่าค่ะ

เอ็ดดี้ เรดเมย์น ในบทบาท นิวท์ สคามันเดอร์: เมื่อคุณลักษณะของเดวิด แอทเทนเบอโร ประสานเข้ากับคุณลักษณะของบัสเตอร์ คีตัน

เดวิด เยตส์ (ผู้กำกับ): นิวท์เป็นขวัญใจตัวจริงเลยครับ เขาออกจะหมกมุ่นอยู่แต่กับพวกสัตว์เวทมนตร์ เขาค่อนข้างดูเป็นพวกรู้เยอะ แบบมีความรู้มาก แต่ก็ไม่เก่งเรื่องการเข้าหาผู้คน เพราะอย่างนั้นเขาเลยดูแปลกแยกออกจากสังคมและโลกแห่งความจริงอยู่หน่อย

เอ็ดดี้ เรดเมย์น: หนึ่งในสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับนิวท์ก็คือ เขาดูเป็นพ่อมดที่ดี แต่เขาก็ไม่ถึงกับเป็นพ่อมดที่วิเศษเกินจริงนะครับ นิวท์ตระเวนไปทุกที่เพื่อเสาะหาสัตว์วิเศษทั้งหลายที่กำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะพวกมันอยู่ในสถานะที่เป็นภัยคุกคามต่อบทบัญญัติความลับพ่อมดแม่มด [ในโลกเวทมนตร์] และเขาก็ดูแลพวกมัน เขาค่อนข้างเป็นคนที่มีอุดมการณ์ เขาเชื่อว่าด้วยแผนการศึกษาที่เหมาะสม สัตว์วิเศษควรจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสังคมผู้เศษ

มันมีอะไรบางอย่างในสคริพต์ที่เจ.เค. โรว์ลิ่งอธิบายไว้ว่า นิวท์มีลักษณะการเดินคล้ายแบบคีตัน (Keaton-esque)* เขาไม่ใช่คนที่จะคุ้นเคยกับพวกเมืองใหญ่ ๆ และสถานที่แบบนั้นล่ะที่ฉันขอเริ่มต้นให้กับเขา

*คำนี้ได้มาจากนักแสดงตลกชื่อดังในยุค 20 ชื่อบัสเตอร์ คีตัน (Buster Keaton) เขามีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ใบ้ที่เป็นแนวตลกจากการแสดงท่าทางผ่านทางร่างกาย

อลิสัน ซูโดล: มันไม่ใช่แค่ว่านิวท์ได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ แต่มันเหมือนกับว่ามันเป็นจักรวาลที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงสำหรับเขาเลยค่ะ เขาอยู่ในโลกของธรรมชาติมาสักพักแล้ว เพราะงั้นสถานการณ์แบบนี้เลยเป็นเรื่องใหม่ที่พิเศษจริง ๆ สำหรับเขาค่ะ

เดวิด เยตส์ (ผู้กำกับ): นิวท์เป็นคนมีเสน่ห์จริง ๆ ครับ และก็มีความรู้มากด้วย เขาออกจะเหมือนกับเดวิด แอทเทนเบอโร (David Attenborough)** เวลาอยู่ในโลกของธรรมชาติ เว้นแต่เพียงว่าเขาสุงสิงอยู่กับสัตว์ที่ประหลาดสุดขั้ว เขาหลงใหลในสิ่งที่สวยงามตามธรรมชาติอย่างแท้จริง สิ่งซึ่งน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกของธรรมชาติน่ะครับ แต่ก็นั่นล่ะในภาพยนตร์เรื่องนี้ การเดินทางของเขาจะทำให้เห็นถึงความชื่นชมในความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสิ่งอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากพวกสัตว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจครับ

**เดวิด แอทเทนเบอโรเป็นนักธรรมชาติวิทยาผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง

เอ็ดดี้ เรดเมย์น: เขาเองก็มีจุดอ่อนที่จะถูกทำร้ายได้นะครับ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะมุ่งมั่นสุดฤทธิ์กับการเชื่อมความสัมพันธ์กับคนอื่น ในช่วงต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาออกจะมีความสุขมากกับการอยู่กับตัวเอง เขาดูเหมือนจะพอใจอย่างที่สุดกับสิ่งที่เขาเป็นครับ แต่พอเขาตระหนักได้ว่าเขาเองก็สามารถที่จะมีความสัมพันธ์กับใครคนอื่นได้ จังหวะนั้นล่ะครับที่ทำให้เขาเริ่มตกหลุมรักทีน่า เขาเข้าถึงและเข้าใจทีน่า มันเป็นไปแบบช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยอดเยี่ยมที่ได้เล่นบทแบบนี้ครับ แบบว่าพวกเขาเริ่มต้นจากการเป็นคู่อริกัน จนพบว่าแต่ละคนเองก็มีสิ่งที่น่าผิดหวังอยู่ลึก ๆ และในตอนท้ายมันก็มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นมา

เดวิด เยตส์ (ผู้กำกับ): สิ่งที่น่ารักเกี่ยวกับนิวท์ก็คือ เขาเป็นคนที่ตลกมาก แต่ก็โดดเดี่ยวมากด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะงั้นมันจึงมีบางอย่างที่น่าสนใจจริง ๆ เกี่ยวกับตัวเขา ผมคิดว่าผู้ชมจะรู้สึกสงสารเขานะ แต่ก็จะเห็นว่าเขาควรค่าที่จะรักมากและเป็นคนที่ตลกมากด้วย อีกอย่างเขามีความลับที่ดำมืดซ่อนอยู่ ก็เหมือนกับที่ตัวละครบางตัวของโจ [เจ.เค. โรว์ลิ่ง] มีนั่นล่ะครับ  ซึ่งพวกเราจะได้รู้กันว่าคืออะไรตอนภาพยนตร์เข้าฉาย

เอ็ดดี้ เรดเมย์น: ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 วันครับ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ผมก็รักมันนะ คนสี่คนมาพบเจอกันโดยไม่ได้คาดคิด และพวกเขาแต่ละคนก็ช่างแตกต่างกันมาก พี่น้องสองสาว กับมักเกิ้ลที่ชื่อเจคอบ กับตัวผมเอง ที่ดูแล้วไม่น่าลงตัวกันเลยด้วยซ้ำ

แคทเธอรีน วอเทอร์สตัน ในบทบาท ทีน่า โกลด์สตีน: แม่มดที่มีความแปลกในตัว

แคทเธอรีน วอเทอร์สตัน: ทีน่าเป็นแม่มดที่เพิ่งโดนลดตำแหน่งไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันไม่คิดว่าฉันสามารถบอกคุณได้หรอกนะว่าทำไมเธอถึงถูกลดตำแหน่ง แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันก็เกิดขึ้นได้กับใครทั้งนั้น ความเชื่อมั่นของเธอไม่ใช่ว่าจะมีอยู่สูงได้ตลอดเวลา อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่กับตอนที่พวกเราจะได้พบกับเธอในช่วงต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้

คอลลีน แอทวู้ด (นักออกแบบเครื่องแต่งกาย): ทีน่าเป็นคนประเภทที่ฉลาดมาก เนิร์ดมาก ไม่ค่อยคิดใส่ใจเรื่องเสื้อผ้า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทันสมัยมากพอ เธอเป็นเพียงตัวละครเดียวนอกเหนือจากเซราฟิน่า พิกเคอรี [ประธานาธิบดีของมาคูซา] ที่เป็นผู้หญิงแต่ใส่กางเกง เธอเป็นพวกไม่คิดมากนักในเรื่องขั้นตอน เธอเป็นคนแปลกน่ะค่ะ เสื้อผ้าของเธอก็ออกจะดูไม่เรียบร้อยอยู่หน่อยตลอดเวลา และก็ออกจะดูไม่เข้ากันอยู่บ้าง แต่พวกมันก็เป็นเสื้อผ้าที่เหมาะเจาะทนทานดี และเธอก็มักใส่เสื้อผ้าแนวเดียวกันนี้ตลอดทั้งเรื่องในภาพยนตร์

แคทเธอรีน วอเทอร์สตัน: ทีน่ามีน้องสาวคนหนึ่งที่เธออาศัยอยู่ด้วยชื่อควีนนี่่ค่ะ เป็นผู้หญิงในแบบที่แตกต่างจากเธอมาก แต่พวกเธอก็สนิทกันมากนะ เธอเป็นคนที่เฉียบคม ในช่วงต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตอนที่คุณจะได้พบเธอ เธอออกจะเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของตัวเธอเอง นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่มีสัญชาตญาณดี แต่เธอไม่ไว้ใจพวกมันเลย

ส่วนความสัมพันธ์ของเธอกับนิวท์น่ะเหรอ ฉันคิดว่านะ ถ้าคุณเป็นคนแปลก มันก็เป็นเรื่องดีที่จะได้พบคนอื่นที่ก็แปลกเหมือนกัน ไม่ว่ามันจะโรแมนติกหรือไม่ก็เถอะ มันออกจะเหงาอยู่นะ เวลาที่คุณรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่แปลกประหลาดอยู่คนเดียว ฉันคิดว่าทั้งนิวท์และก็ทีน่ามีความแปลกในแบบฉบับของตัวเอง และก็มีคุณสมบัติมากมายพอที่จะถูกมองว่าเป็นพวกเฉิ่มรู้เยอะ จริง ๆ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาเป็นพวกเฉิ่มรู้เยอะหรอกค่ะ พวกเขาก็แค่แปลก ๆ อยู่หน่อย

ฉันมันเป็นพวกอ่อนแอค่ะ เพราะงั้นฉันเลยรู้สึกว่าบทบาทนี่ต้องการความแข็งแกร่งจริง ๆ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าถ้าเป็นคนทั่วไปที่มีกล้ามเนื้อดีจะรู้สึกแบบเดียวกันไหม ฉันมีฉากการดวลไม้กายสิทธิ์นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และพอวันรุ่งขึ้นฉันก็มีอาการปวดข้อศอกแบบที่ฉันเรียกมันว่า ‘Wand Elbow’ คือมันก็เหมือนกับอาการปวดข้อศอกที่เรียกว่า ‘Tennis Elbow’ ล่ะค่ะ คุณคงนึกออกนะ ความรู้สึกปวดที่ข้อศอกนี่มันสุด ๆ เลย ฉันนี่แทบแย่แหน่ะ 

แดน ฟอกเลอร์ ในบทบาท เจคอบ โควัลสกี้: มักเกิ้ลผู้ชีวิตเปลี่ยนจากทหารเป็นนักทำขนมปัง

เดวิด เยตส์ (ผู้กำกับ): นิวท์จะมีเพื่อนในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งรับบทโดยแดน ฟอกเลอร์ จะมีความสัมพันธ์ฉันมิตรอันแนบแน่นในแบบฉบับของพวกผู้ชายเกิดขึ้นครับ

แดน ฟอกเลอร์: ตัวละครของผมเป็นนักทำขนมปัง เขาอยากจะเป็นนักทำขนมปังมากและก็อยากมีร้านขนมปังด้วย มันอยู่ในสายเลือดของเขาน่ะครับ เขาเพิ่งกลับมาจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง คือเขาเหมือนกับเป็นคนที่กลับมาเป็นคนสุดท้ายจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งประมาณนั้น เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก และเขาก็เป็นคนในแบบที่คุณจะคอยให้คำสั่งเขา แล้วเขาก็จะทำมันจนสำเร็จต่อให้มันจะฟังดูไร้สาระหรือบ้าขนาดไหนก็ตามที เขากลับมานิวยอร์กที่ซึ่งเป็นบ้านของเขาเพื่อที่จะรับเงินกู้ยืมสำหรับเปิดกิจการร้านขนมปัง เขามีกระเป๋าที่เต็มไปด้วยขนมอบแสนอร่อยที่เขาทำเอง และเขาก็บังเอิญไปเจอนิวท์ ผู้ซึ่งมีกระเป๋าที่ใส่พวกสัตว์ไว้ เหมือนเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ยักษ์ของเหล่าสัตว์เวทมนตร์น่ะครับ แล้วพวกเขาก็ดันเผลอสลับกระเป๋ากัน และหลังจากนั้นผมก็แบบจนตรอกอับโชคอะไรงี๊ ผมก็เลยแบบว่า ‘งั้นฉันขอขนมปังเดนิสของฉันสักชิ้นหน่อยน่า’ แล้วผมก็เปิดกระเป๋า และปล่อยพวกสัตว์ออกมาหมดเข้าแมนฮัตตัน จนทำให้พวกเราต้องใช้เวลาที่เหลือในภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามติดตามไล่จับพวกมันกลับมา

เดวิด เยตส์ (ผู้กำกับ): แดน ฟอกเลอร์ เล่นเป็นเจคอบครับ เขาเป็นเพื่อนของนิวท์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่พ่อมดในเรื่องนี้ และเขาก็แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา เขาเป็นคนที่ตลกมาก และเขาก็เป็นคนที่สามารถมีความรู้สึกร่วมด้วยมากในเวลาเดียวกัน เขาเป็นนักแสดงตลกตัวจริงเลยครับ

แดน ฟอกเลอร์: เจคอบเป็นคนที่น่ารักมากและเข้ากับคนง่ายมากครับ เขารู้จักถนนต่าง ๆ ในนิวยอร์ก และเขาก็เป็นคนที่แตกต่างจากนิวท์อย่างสิ้นเชิงเลย นิวท์เป็นคนที่มีมันสมองดีมาก เขาก็เหมือนกับชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin)*** ที่เชี่ยวชาญในเรื่องสัตว์วิเศษ และผมก็เป็นแค่ผู้ชายที่มาจากนิวยอร์กที่ต้องการจะเปิดร้านขนมปัง คุณก็รู้น่ะนะ ก็แค่นั้นเอง แบบว่าเขาเป็นคนที่เป็นมิตร น่ารักน่าคบหา แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ออกจะสมดุลต่อกันและกัน มันก็เหมือนกับเชอร์ล็อกที่คู่กับวัตสันน่ะครับ

***ชาร์ลส์ ดาร์วินเป็นนักธรรมชาติวิทยาและนักธรณีวิทยาผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง

มันเหมือนผมได้นั่งรถไฟเหาะตีลังกาไปกับคนพวกนี้ และใช่เลย มันเจ๋งจริง ๆ ที่ได้เข้าไปอยู่ในโลกนั้น ผมเปรียบเอาว่ามันเหมือนกับตัวผมเองได้เข้าไปอยู่ในแฟรนไชส์ใหญ่ที่สุดโต่งมากเลย เจ.เค. โรว์ลิ่งพูดกับผมว่า ‘ตอนฉันเห็นเทปการแสดงของคุณ ฉันรู้เลยว่านี่ล่ะ คนนี้เลย ฉันตื่นเต้นจริง ๆ ที่จะเขียนบทให้คุณ’ ผมว่าเธอเป็นคนที่ดูเหมือนตัวละครพวกวีสลีย์นะ คุณก็รู้น่ะ แบบครอบครัววีสลีย์เลย

อลิสัน ซูโดล ในบทบาท ควีนนี่่ โกลด์สตีน: สาวช่างฝันนักพินิจใจ

อลิสัน ซูโดล: ควีนนี่่เป็นตัวละครที่มหัศจรรย์ มีความขี้เล่น เข้าใจผู้อื่น ใจดี ตลก สนุกสนานเป็นที่สุด เธอเบื่อสุด ๆ กับงานสำนักงานของเธอที่ค่าแรงก็น้อยแถมไม่มีความก้าวหน้า ดังนั้นพอมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผจญภัยเกิดขึ้นมา มันเลยกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ และถึงแม้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะน่ากลัวหรือยากแค่ไหนก็ตามที สำหรับเธอแล้วก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับความจริงที่ว่าเธอไม่ได้กำลังทำสิ่งที่เธอต้องทำอยู่ในสำนักงาน

ควีนนี่่มีความสามารถในการพินิจใจ คนอื่น ๆ นั้นถ้าตามหลักแล้วจะทำได้ก็ต้องใช้เวทมนตร์จากไม้กายสิทธิ์ แต่กับเวทมนตร์ของควีนนี่่นั้น มันเป็นอะไรที่มากกว่าความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับพวกมนุษย์ และความสามารถในการรับรู้ของเธอก็มากกว่าพวกคาถาตามแบบฉบับดั้งเดิมเสียอีก ซึ่งฉันคิดว่ามันค่อนข้างจะแตกต่างกันสำหรับโลกนี้นะคะ มันมีความเรียบง่ายที่น่ามหัศจรรย์ในตัวตนของควีนนี่่ ไม่ใช่เรียบง่ายในทางที่ไม่ดีนะคะ แต่เป็นในทางที่เธอเป็นคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์มาก และเป็นตัวตนในแบบของตัวเองมากประมาณนั้นค่ะ

เดวิด เยตส์ (ผู้กำกับ): เหตุผลที่ผมเลือกอลิสันสำหรับบทควีนนี่่ก็คือ เธอเป็นคนที่มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์จริง ๆ เธอเป็นคนที่ตลกมากและก็มีเสน่ห์มาก ผมเห็นการทดสอบบทมากกว่าหลายร้อยครั้งของทั้งพวกนักแสดงหญิงที่มีประสบการณ์ และพวกนักแสดงหญิงที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนักเพื่อมาลองเล่นบทตัวละครนี้ มันเป็นตัวละครที่เล่นยากมากนะครับ แต่เธอก็แสดงออกมาได้ดี มันมีความใสบริสุทธิ์ที่แท้จริงและความไร้เดียงสาอยู่นั้น

อลิสัน ซูโดล: เธอไม่ได้แต่งตัวหรือมีลักษณะเหมือนกับใครคนอื่นในภาพยนตร์ค่ะ เธอมีสิ่งที่เป็นของเธอเอง เธอมีวิธีการมากมายที่จะแสดงออกถึงตัวตนของเธอเองโดยที่ไม่ดูเยอะเกินไป เธอไม่ใช่คนประเภทเยอะเกินหรือจัดจ้านทำตัวเด่นแบบนั้นค่ะ

คอลลีน แอทวู้ด (นักออกแบบเครื่องแต่งกาย): ควีนนี่่มีคุณลักษณะที่ดูเบาบางกว่าอากาศ ดังนั้นเธอเลยเป็นเหมือนกับตัวละครที่ออกจะคึกคัก เครื่องแต่งกายของเธอก็ควรจะออกแนวเบา ๆ ไปทางโทนสีซีด ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงพละกำลังที่เธอมีค่ะ

อลิสัน ซูโดล: เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเหลือเชื่อ และมันมีความละเอียดอ่อนที่แท้จริงอยู่ในรูปแบบที่เธอแต่งตัว เธอสนุกกับการเป็นผู้หญิงที่ฉันพบว่ามันยอดเยี่ยมจริง ๆนะ เพราะฉันเริ่มรู้สึกเหมือนกับว่าคุณต้องเลือกระหว่าง การทำตัวดีและการมีเพื่อน หรือจะเป็นการทำตัวเท่ดูดี หรือจะเป็นแนวน่ารัก คือมันไม่มีคู่อะไรอย่างนั้นหรอกนะ เธอจะเป็นแบบว่า  ‘ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นผู้หญิงที่ใจดีก็ได้ อ่อนวัยก็ได้ และโกรธก็ได้ด้วยถ้าฉันอยากจะทำ’ เธอเป็นทุกสิ่งที่พวกผู้หญิงเป็น และเธอก็แต่งตัวแบบนั้นล่ะค่ะแบบที่ดูดีสุด ๆ ไปเลย