เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (Gellert Grindelwald)

เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (Gellert Grindelwald)

เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลกในฐานะพ่อมดศาสตร์มืดที่น่ากลัวแห่งยุค ซึ่งถูกอัลบัส ดัมเบิลดอร์ เอาชนะได้ในปี 1945 และกักขังตัวเองไว้ในคุกที่นูร์เมนการ์ด


เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ เกิดในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1882-3 (ขณะที่ดัมเบิลดอร์เกิดช่วงฤดูร้อนปี 1881) และเสียชีวิตในช่วงเดือนมีนาคม 1998 ในคุกนูร์เมนการ์ดของตนเอง รวมอายุโดยประมาณคือ 115 ปี

เขาเป็นนักเรียนของสถาบันเวทมนตร์เดิร์มสแตรงก์ที่ตั้งอยู่ทางยุโรปเหนือ (โรงเรียนที่สอนศาสตร์มืดอย่างจริงจังมายาวนาน) ก่อนจะถูกไล่ออก และก้าวขึ้นติดอันดับหนึ่งในพ่อมดศาสตร์มืดที่โด่งดังที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20 (กรินเดลวัลด์เรืองอำนาจในช่วงค.ศ. 1900-1945)

“ชื่อกรินเดลวัลด์นั้นเลื่องลือไปทั่วสมกับฐานะของเขา เขาเกือบขึ้นอันดับสูงสุดในรายชื่อพ่อมดศาสตร์มืดที่อันตรายที่สุดตลอดกาล ถ้าไม่เพราะคนที่คุณก็รู้ว่าใครมาชิงมุงกุฎไปเสียก่อนในอีกรุ่นต่อมา”

หนังสือ ชีวิตและเรื่องปดมดเท็จของอัลบัส ดัมเบิลดอร์, เครื่องรางยมทูต บ.18

ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ เกิด ณ ประเทศใด อาจเป็นเยอรมนีหรือออสเตรีย เนื่องจากข้อความที่สลักบนหัวกะโหลกที่สร้างนิมิตของเขาสลักเป็นภาษาเยอรมัน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้เคยเป็นเจ้าของหรือครอบครองไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ที่แกนกลางบรรจุด้วยขนหางเธสตรอลอีกด้วย ไม้กายสิทธิ์ซึ่งเขาขโมยมาจากเกรโกโรวิตช์ช่างทำไม้กายสิทธิ์ให้นักเรียนของเดิร์มสแตรงก์อีกต่อ

อุปนิสัยใจคอ

เกลเลิร์ตเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวและมีพรสวรรค์พอกันกับดัมเบิลดอร์ (เครื่องรางยมทูต บ.28) จอมอวดดีและปรารถนาในความรุ่งโรจน์ (เครื่องรางยมทูต บ.35) โดยพื้นฐานแล้ว เกลเลิร์ตในวัยหนุ่มเป็นพ่อมดที่อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน เป็นคนยิ้มเก่ง ทั้งการยิ้มอย่างเป็นมิตร ยิ้มเยาะ และแสยะยิ้มเย้ยหยัน ครั้งหนึ่งที่แฮร์รี่เห็นเขาจากในหนังสือชีวิตและเรื่องปดมดเท็จของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ กรินเดลวัลด์ยังส่งยิ้มเกียจคร้านมาให้ (เครื่องรางยมทูต บ.17) แฮร์รี่มองว่ากรินเดลวัลด์นั้นมีใบหน้าที่ร่าเริงและปราดเปรียว ดูเจ้าเล่ห์แสนกลเหมือนเฟร็ดกับจอร์จอยู่ไม่น้อย ซึ่งในฉบับภาษาอังกฤษใช้คำว่า merry, wild; there was a Fred and George-ish air of triumphant trickery about him (เครื่องรางยมทูต บ.14)

คำว่า wild นั้นสามารถแปลได้หลากหลาย ทั้ง ดุร้าย ป่าเถื่อน คนที่มีอารมณ์รุนแรง คนหยาบคาย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ปราดเปรียว ก็ว่า

คำว่า triumphant หมายถึง ความภาคภูมิใจจากชัยชนะ ในที่นี้หมายถึง อารมณ์เริงร่าของกรินเดลวัลด์เวลาที่ทำอะไรสำเร็จดังใจด้วยเล่ห์กลของเขาทำให้แฮร์รี่นึกถึงเฟร็ดกับจอร์จ

“เขาเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารัก (charming boy) นะ สำหรับฉัน ถึงตอนหลังจะกลายเป็นตัวอะไรไปก็เถอะ”

– บาทิลดา แบ็กช็อต (เครื่องรางยมทูต บ.18)

เกลเลิร์ตมักมีอารมณ์ร้ายรุนแรงเมื่อไม่ชอบใจ ถูกยั่วยุ หรือทำให้โกรธ เขาจะลืมตัว กลายเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัว (เครื่องรางยมทูต บ.35) ใช้เวทมนตร์ในการเล่นงานหรือทรมานคนอื่น เขาเคยเสกคำสาปกรีดแทงเล่นงานอาเบอร์ฟอร์ธหลังการโต้เถียงและขัดขวางแผนอันรุ่งโรจน์ของเขากับอัลบัส (เครื่องรางยมทูต บ.28)

“อะไรบางอย่างที่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีอยู่ในตัวเขา แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้นั้น ตอนนี้ตื่นขึ้นมาเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัว”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

ช่วงชีวิตวัยรุ่น

gellertgrindelwaldharrypotterpagetoscreen

เขาเป็นเด็กหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาที่มีผมสีบลอนด์ทองหยิกเป็นลอน เขาดูปราดเปรียวและร่าเริงกว่าดัมเบิลดอร์ ตอนแฮร์รี่เห็นในความทรงจำของเกรโกโรวิตช์ผ่านการเชื่อมต่อของเขากับโวลเดอมอร์ แฮร์รี่เห็นว่ากรินเดลวัลด์วัยหนุ่มนั้นมีใบหน้าที่ร่าเริง (merry face) และปราดเปรียว ดูเจ้าเล่ห์แสนกลเหมือนเฟร็ดกับจอร์จอยู่ไม่น้อย (เครื่องรางยมทูต บ.14)

“เขาได้รับการศึกษาที่เดิร์มสแตรงก์ โรงเรียนซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการส่งเสริมศาสตร์มืดมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว กรินเดลวัลด์แสดงตนว่าเป็นคนเก่งเกินวัยเช่นเดียวกับดัมเบิลดอร์ แต่แทนที่จะใช้ความสามารถไปเพื่อประกาศนียบัตรและรางวัลต่างๆ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์กลับอุทิศตนให้แก่การแสวงหาสิ่งที่ต่างออกไป เมื่อเขาอายุสิบหกปี แม้แต่เดิร์มสแตรงก์เองก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อการทดลองอันวิปริตของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ได้ เขาจึงถูกไล่ออก”

-หนังสือ “ชีวิตและเรื่องปดมดเท็จของอัลบัส ดัมเบิลดอร์”, แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บ.18

ตามข้อมูลที่อาจเชื่อถือได้น้อยมากจากหนังสือ ชีวิตและเรื่องปดมดเท็จของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ซึ่งเขียนโดย ริต้า สกีตเตอร์ ระบุว่า เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ถูกไล่ออกเพราะทำการทดลองประหลาดบางอย่างจนเป็นเหตุให้นักเรียนหลายคนได้รับบาดเจ็บปางตาย

ความสัมพันธ์กับอัลบัส ดัมเบิลดอร์

(ซ้าย) อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ขวา) เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์
(ซ้าย) อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ขวา) เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์

หลังเขาถูกไล่ออกจากเดิร์มสแตรงก์ ด้วยวัย 16 ปี (ในปี 1898) กรินเดลวัลด์ก็ตัดสินใจเดินทางมาเยี่ยมบาธิลดา แบ็กช็อต คุณยายน้อยของเขา ผู้มีชื่อเสียงในฐานะนักเขียนหนังสือประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ซึ่งอาศัยลำพังในหมู่บ้านก็อดดริกส์โฮลโล่ ในอังกฤษ และจากความเป็นเด็กเจ้าเสน่ห์ ยายน้อยของเขาก็แนะนำหลานชายให้รู้จักกับอัลบัสที่อายุไล่เลี่ยกัน ในขณะนั้นดัมเบิลดอร์อายุ 17 ใกล้ 18 ปี พึ่งจบการศึกษาจากฮอกวอตส์และมีแผนจะเดินทางไปจะกรีซแต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดไปเมื่อ เคนดรา แม่ของดัมเบิลดอร์เสียชีวิตกะทันหันในฤดูร้อนนั้น (เครื่องรางยมทูต บ.18)

การตัดสินใจมายังก็อดดริกส์โฮลโล่ของเขาก็เพื่อมาสำรวจจุดเริ่มต้นของสัญลักษณ์เครื่องรางยมทูต บนหลุมศพของอิกโนตัส เพฟเวอเรลล์ เพราะเครื่องรางยมทูตนี้เองที่ดึงดูดให้ทั้งเกลเลิร์ตและอัลบัสสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ และเป็นหัวใจสำคัญในแผนการของทั้งคู่ กรินเดลวัลด์ปรารถนาในหินชุบวิญญาณ เพื่อหวังจะสร้างกองทัพอินฟีรี (หรือในฉบับไทยคือ อินเฟอไร) ซึ่งดัมเบิลดอร์แสร้งทำเป็นไม่รู้ ในขณะที่ดัมเบิลดอร์หวังจะใช้มันเพื่อฟื้นคืนชีพพ่อกับแม่ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

ในช่วงที่พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น ผลิดอกออกผลแผนการแห่งการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ “เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่” ทั้งคู่ได้ตกลงทำสัญญาเลือดในโรงนาแห่งหนึ่ง เพื่อให้อำนาจของสัญญาการันตีว่าทั้งคู่จะไม่สามารถทำร้ายกันได้ (บทภาพยนตร์อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ฉากที่ 73)

“นายแห่งความตายที่ไม่มีใครชนะได้ กรินเดลวัลด์และดัมเบิลดอร์!”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

ดัมเบิลดอร์ตกหลุมรักเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ และหวาดกลัวในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่าแท้จริงแล้วกรินเดลวัลด์เป็นคนอย่างไร ตามคำให้สัมภาษณ์ของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ในปี 2007

สัมพันธ์รักของทั้งคู่นั้นสั้นเพียงสองเดือนเท่านั้น (เครื่องรางยมทูต บ.18) เพราะทันทีที่แอรีอานนา ดัมเบิลดอร์ เสียชีวิต จากการทะเลาะเรื่องแผนการที่จะเอาผู้วิเศษออกจากที่ซ่อน ให้มักเกิ้ลได้รู้ถึงการมีอยู่และอยู่ภายใต้อำนาจของพ่อมดแม่มด แผนการที่ทำเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ มากกว่าน้องสาวที่อ่อนไหวง่ายของตนเอง การทะเลาะของกรินเดลวัลด์ อัลบัส และอาเบอร์ฟอร์ธ (น้องชายของอัลบัส) จนถึงขั้นลงมือใช้คาถากัน อาเบอร์ฟอร์ธถูกกรินเดลวัลด์เสกคำสาปกรีดแทงใส่ ทั้งยังสร้างความทรมานให้แอรีอานนาด้วย ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้แอรีอานนาที่ยังเยาว์และควบคุมเวทมนตร์ตัวเองไม่ได้พยายามจะหยุดการต่อสู้นั้นจนเป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตในที่สุด หลังจากเธอตายกรินเดลวัลด์ก็รีบกลับมาหาบาธิลดาและขอให้ยายน้อยเสกกุญแจนำทางส่งเขากลับบ้านทันทีในวันรุ่งขึ้น (เครื่องรางยมทูต บ.28)

“แล้วกรินเดลวัลด์ก็หนีไป ดังเช่นที่ใคร ๆ ก็คงทำนายได้ ยกเว้นฉัน เขาหายตัวไปพร้อมกับแผนยึดอำนาจ กับโครงการทรมานพวกมักเกิ้ล แล้วก็ความฝันเรื่องเครื่องรางยมทูต… ความฝันที่ฉันมีส่วนส่งเสริมและช่วยเหลือเขาด้วย…”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

กรินเดลวัลด์เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีความเชื่อเรื่องเครื่องรางยมทูตที่จะเอาชนะยมทูตได้ ตามตำนานที่เล่าไว้ในนิทานสามพี่น้องของบีเดิลยอดกวี เขาทำสัญลักษณ์นี้ไว้บนกำแพงของเดิร์มสแตรงก์ตอนที่ยังเรียนอยู่ที่นั่นด้วย และเพราะความปักใจเชื่อนี้เองทำให้เขาออกค้นหาวัตถุเวทมนตร์ทั้งสามชิ้นนั้นอย่างมุ่งมั่น (ซึ่งความจริงแล้วมันทำให้เป็นนายแห่งยมทูตไม่ได้เลย เป็นเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาให้สนุกในแบบฉบับนิทานเท่านั้น)

“เวลาผ่านไปหลายปี มีข่าวลือเกี่ยวกับเขามากมาย ว่ากันว่าเขาได้ครอบครองไม้กายสิทธิ์ที่มีพลังอำนาจมหาศาล…”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

หลังหนีหายไปจากดัมเบิลดอร์ เกลเลิร์ตก็ค้นพบและขโมยไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์จากเกรโกโรวิตช์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ที่ขายให้กับเด็กนักเรียนของเดิร์มสแตรงก์ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

การแผ่ขยายอำนาจศาสตร์มืด

grindelwald-attack

หลังทิ้งดัมเบิลดอร์ไว้เบื้องหลัง กรินเดลวัลด์ก็เริ่มต้นแผนการยึดอำนาจ ล้มกฎหมายปกปิดความลับ และยกพ่อมดแม่มดขึ้นปกครองมักเกิ้ล กับโครงการทรมานพวกมักเกิ้ล ที่เขาอ้างว่า “เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่

ไม่กี่ปีหลังจากหนีมา ความฝันเรื่องเครื่องรางยมทูตก็เป็นจริงมากขึ้น เมื่อเขาค้นพบไม้กายสิทธิ์ทรงอำนาจและขโมยไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์นั้นมาจากเกรโกโรวิตช์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ที่ทำให้เด็กๆ เดิร์มสแตรงก์จนสำเร็จ

“… ใคร ๆ พูดว่าเขากลัวฉัน และบางทีก็คงจะจริง แต่ต้องน้อยกว่าที่ฉันกลัวเขาแน่”

“อ๋อ ไม่ใช่เรื่องความตาย ฉันไม่ได้กลัวเวทมนตร์ที่เขาจะใช้กับฉัน ฉันรู้ว่าเราเสมอกัน บางทีฉันอาจจะเชี่ยวชาญกว่าเล็กน้อย ความจริงต่างหากที่ฉันกลัว เธอเข้าใจไหม ในการต่อสู้ที่ชั่วร้ายครั้งนั้น ฉันไม่เคยรู้เลยว่าใครเป็นคนเสกคำสาปที่ฆ่าน้องสาวของฉันกันแน่ เธออาจจะว่าฉันขี้ขลาด ก็อาจจะใช่ แฮร์รี่ ฉันกลัวสุดหัวใจว่าตัวเองอาจเป็นคนนำความตายมาให้แอรีอานนา ไม่ใช่แค่ความอวดดีและโง่เขลาของฉันทำให้เธอตาย แต่ฉันอาจเป็นคนลงมือเสกคาถาปลิดชีวิตเธอจริง ๆ”

“ฉันคิดว่าเขาก็รู้เรื่องนี้ ฉันว่าเขารู้ว่าฉันหวาดกลัวเพียงใด ฉันถ่วงเวลาที่จะไปพบเขา จนในที่สุดก็ทนความอัปยศอดสูไม่ไหว…”

– อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (เครื่องรางยมทูต บ.35)

ระหว่างที่ดัมเบิลดอร์สอนเด็กนักเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ กรินเดลวัลด์ก็ตั้งกองทัพขึ้นมา (เครื่องรางยมทูต บ.35)

อำนาจของกรินเดลวัลด์ขยายไปไกลมากขึ้น แม้จะไม่ได้กร่ำกรายเข้ามาในเกาะอังกฤษ (ในเวลานั้นเชื่อกันว่ากรินเดลวัลด์กลัวดัมเบิลดอร์) แต่ก็แผ่ขยายความหวาดกลัวไปในหลายประเทศ รวมถึงความหวาดวิตกในอเมริกา ช่วงปี 1926 เมื่อหนังสือพิมพ์เวทมนตร์เดอะนิวยอร์กโกสต์ตีพิมพ์การคุกคามของกรินเดลวัลด์ในยุโรป วันที่ 28 พฤศจิกายน 1926 และการคุกคามของกรินเดลวัลด์ในฉบับวันที่ 6 ธันวาคม 1926 พวกเขาเชื่อว่าสัตว์ที่หลุดรอดจากกระเป๋าเดินทางของนิวท์เป็นฝีมือและความตั้งใจของผู้สนับสนุนกรินเดลวัลด์

ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่า เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ใช้คาถาแปลงร่างขั้นสูงปลอมตัวเป็น เพอร์ซิวาล เกรฟส์ หัวหน้ามือปราบมารและมือขวาของประธานเซราฟิน่า พิกเคอรี แห่งมาคูซา (สภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา) เมื่อไหร่ แต่คาดเดาได้จากหนังสือพิมพ์ว่าเขาปลอมตัวเป็นเกรฟส์ภายหลังจากที่หนังสือพิมพ์ประกาศว่า เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ หายตัวไปอย่างลึกลับ ในช่วงวันที่ 1-6 ธันวาคม 1926 และไม่ปรากฏจุดมุ่งหมายแน่ชัดในการปลอมตัวเข้ามา คาดเดาได้เพียงว่า มาคูซาเป็นมหาอำนาจทางเวทมนตร์หลักของทวีปอเมริกาจึงมีความมุ่งหวังจะเข้าแทรกแซงเพื่อขยายอำนาจของตัวเอง รวมถึงการตามหาเด็กที่มีพลังออบสคูรัสเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญบางอย่างในการควบคุมมักเกิ้ลตามแนวคิดเดิมของเขา ทำให้เขาต้องหลอกล่อ ครีเดนซ์ แบร์โบน (ลูกเลี้ยงของ แมรี่ ลู แบร์โบน แกนนำกลุ่มเซเล็มที่สอง) เด็กหนุ่มซึ่งเขาคิดว่าเป็นสควิบ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นออบสคูรัสที่เก็บกดการใช้เวทมนตร์ของตัวเองไว้ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายในอเมริกา

fb-ew-000232283_0_1

เขาถูกจับตัวได้ในเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 1926 ด้วยความสามารถด้านสัตว์วิเศษของนิวท์ สคามันเดอร์ ที่ใช้สวูปิงอีวิลในการจับกุมตัว และได้ความช่วยเหลือจาก พอร์เพนทีน่า โกลด์สตีน ที่เรียกไม้กายสิทธิ์ของเพอร์ซิวาล เกรฟส์ที่ตกอยู่ข้างตัวเขาด้วยคาถาแอ๊กคีโอ (ไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์) และนิวท์ใช้คาถาเผยความลับ (เรเวลิโอ) เพื่อเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาต่อหน้ามือปราบมารและเซราฟิน่า พิกเคอรี

การหลบหนีจากคุกมาคูซา

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 1927 เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ หลบหนีจากการจับกุมในระหว่างการขนย้ายกรินเดลวัลด์ออกจากมาคูซาไปยุโรป (อ้างอิงวันที่จากหน้าหนังสือพิมพ์ The New York Ghost จากหนังสือ The Archive of Magic) โดยได้ความช่วยเหลือจากสมุนใหม่อย่าง อะเบอร์นาธี ที่ทำงานในมาคูซามานาน ไม่มีข้อมูลระบุแน่ชัดว่ากรินเดลวัลด์เปลี่ยนตัวกับอะเบอร์นาธีเมื่อไหร่ แต่ฉากการหลบหนีของเขามีจุดประสงค์เพื่อประกาศตนด้วยการตบหน้ามาคูซาต่อมาตรการป้องกันที่แน่นหนาแต่เขาก็หลบหนีออกมาได้ ซึ่งการหลบหนีของเขาร้อนไปถึงประเทศต่าง ๆ ในเครือสมาพันธรัฐพ่อมดนานาชาติ

รวมระยะเวลาที่กรินเดลวัลด์ตัวจริงและตัวปลอมอยู่ในการคุมขังที่มาคูซา 173 วัน (8 ธันวาคม 1926 – 30 พฤษภาคม 1927)

ภายหลังการหลบหนี กรินเดลวัลด์ได้เดินทางไปฝรั่งเศสและเริ่มต้นแผนการเรียกชุมนุมผู้วิเศษ เพื่อหาสมัครพรรคพวก รวมถึงประกาศสงครามกับมือปราบมารและเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทมนตร์อย่างเปิดเผย เขาแสดงให้ผู้เข้าร่วมเห็นว่ามักเกิ้ลนั้นจะนำไปสู่สงครามโลกด้วยการแสดงภาพนิมิตแห่งอนาคตผ่านฮุกกาหัวกะโหลกของเรา ในระหว่างแผนการใหญ่เขายังทราบดีว่าครีเดนซ์หลบรอดชีวิตมาได้จากการถูกมือปราบมารของมาคูซาเล่นงานและเดินทางมาจนถึงฝรั่งเศส เขาวางแผนดึงตัวครีเดนซ์มาร่วมทีมของตน ด้วยการเปิดเผยความลับของเขาและทำให้เข้าใจว่าตนเองเป็นญาติกับอัลบัส ดัมเบิลดอร์ และเรียกเขาในชื่อใหม่ว่า ออเรเลียส ดัมเบิลดอร์

ชุมนุมผู้วิเศษที่ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ จัดขึ้นในสุสานแปร์ลาเชส ประเทศฝรั่งเศส
ชุมนุมผู้วิเศษที่กรินเดลวัลด์จัดขึ้นในสุสานแปร์ลาเชส ประเทศฝรั่งเศส

ในการเรียกชุมนุมผู้วิเศษ ซึ่งศิลปะทางวาทกรรมและการแสดงอีกนิดหน่อยของเขา ทำให้ผู้วิเศษจำนวนมากคล้อยตามเขา รวมถึงควีนนี่ โกลด์สตีน ให้มาเป็นพรรคพวกของเขาได้อีกคนนึงด้วย โดยอาศัยความหวังเรื่องความรักและโอกาสที่แม่มดจะได้แต่งงานอย่างมีความสุขกับโนแมจเป็นสะพานเชื่อมใจควีนนี่ให้เชื่อในตัวของเขา

สิ้นสุดอำนาจ

“กรินเดลวัลด์ฆ่าคนมากมาย เช่นปู่ของฉันเป็นต้น เขาไม่เคยมีอำนาจในประเทศนี้หรอกน่ะ ว่ากันว่าเขากลัวดัมเบิลดอร์ — ซึ่งก็สมควรแล้วละ ถ้าดูจากจุดจบของเขา…”

– วิกเตอร์ ครัม (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.143)

หลังจากปล่อยให้กรินเดลวัลด์สร้างอำนาจอยู่ยาวนาน ในที่สุดดัมเบิลดอร์ก็เข้ามาจัดการกับกรินเดลวัลด์และเอาชนะเขาได้ในปี ค.ศ.1945 (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บ.2) ว่ากันว่าคนที่รู้เห็นเหตุการณ์ครั้งนั้นบอกว่าการต่อสู้ของทั้งสองคนเป็นประวัติศาสตร์ เป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่ง ทว่าอีกฝ่ายอย่างงานเขียนของริต้า สกีตเตอร์เห็นแย้งว่าการต่อสู้นั้นราบเรียบเพราะกรินเดลวัลด์แค่เสกผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ปลายไม้กายสิทธิ์ แล้วยอมแพ้ไป โดยไม่มีการต่อสู้… (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต บ.2)

จากความพ่ายแพ้ต่อดัมเบิลดอร์ กรินเดลวัลด์ก็ใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดอยู่ในคุกนูร์เมนการ์ดที่ตนเองสร้างขึ้น (ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าคุกนูร์เมนการ์ดที่เขาสร้างขึ้นขังคนเห็นต่างและขัดขวางเขาเริ่มสร้างขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งหน้าทางเข้าของคุกสลักคำขวัญ “เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่”) และแม้อำนาจของกรินเดลวัลด์จะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่การตีความความหมายของสัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูตว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรินเดลวัลด์ก็ยังคงอยู่ต่อไป ดังจะเห็นได้จากปี 1997

“แต่นี่ — นี่เป็นสัญลักษณ์ของกรินเดลวัลด์ ฉันจำได้แม่น เขาสลักไว้บนกำแพงที่เดิร์มสแตรงก์ตอนเป็นนักเรียนที่นั่น แล้วพวกปัญญาอ่อนบางคนก็เอาไปวาดบนหนังสือหรือเสื้อผ้า เพราะอยากหลอกให้คนกลัว อยากให้คนประทับใจ — จนกระทั่งโดนครอบครัวเหยื่อกรินเดลวัลด์อย่างเราจัดการสั่งสอนซะ”

– วิกเตอร์ ครัม (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.143)

กรินเดลวัลด์ที่ขังตัวเองไว้ในคุก ค่อย ๆ ชรา ผอมจนเหมือนโครงกระดูก ดวงตาลึกโหล และฟันส่วนใหญ่หักไปหมด เสียชีวิตในปี 1998 ด้วยความยินดีและท้าทายให้ลอร์ดโวลเดอมอร์ที่เดินทางมาหาเขาเพื่อสอบถามถึงไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์สังหาร เขายิ้มรับให้โวลเดอมอร์ด้วยรู้ดีว่าเขาจะต้องมาหาตนสักวัน

“ฉันคิดอยู่แล้วว่าแกต้องมา…สักวันหนึ่ง แต่การเดินทางของแกมันเปล่าประโยชน์ ฉันไม่เคยมีมันเลย”

“ถ้าเช่นนั้นก็ฆ่าฉันเสียสิ โวลเดอมอร์ ฉันยินดีต้อนรับความตาย! แต่ความตายของฉันจะไม่ทำให้แกได้สิ่งที่ค้นหาหรอก…มีอะไรอีกมากที่แกไม่เข้าใจ…”

“ฆ่าฉันเลยสิ! แกจะไม่ชนะ แกจะไม่มีวันชนะ! ไม้กายสิทธิ์นั่นไม่มีวันเป็นของแก ไม่มีวัน –“

– เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ พูดกับโวลเดอมอร์, เครื่องรางยมทูต บ.23)

หลังจากที่กรินเดลวัลด์ไม่ยอมบอกข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์ เขาก็ยั่วยุให้โวลเดอมอร์ลงมือสังหารตนเอง และโวลเดอมอร์ก็ลงมือใช้คำสาปพิฆาตแก่เขาในที่สุด (เครื่องรางยมทูต น.435) ซึ่งหมายความว่ากรินเดลวัลด์อยู่ในคุกของตนเองนับแต่ปี 1945 ที่ยอมแพ้แก่ดัมเบิลดอร์ จนถึงปี 1998

harry-potter-and-the-theory-of-dumbledore-s-hidden-horcrux-545685
เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ รับบทโดย Michael Byrne

“กรินเดลวัลด์พยายามจะยับยั้งโวลเดอมอร์ไม่ให้ติดตามไม้กายสิทธิ์ไป เขาโกหกครับ อาจารย์ เขาแกล้งทำเป็นว่าไม่เคยมีไม้นั่น”

ดัมเบิลดอร์พยักหน้า เขาก้มลงมองตัก น้ำตายังคงเป็นประกายอยู่ที่จมูกคดงอ

“ว่ากันว่าในปีหลัง ๆ นี้เขาแสดงความสำนึกผิด ระหว่างอยู่คนเดียวในคุกที่นูร์เมนการ์ด ฉันหวังว่านั่นคงจะเป็นความจริง ฉันอยากให้เขารู้จริง ๆ ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นร้ายกาจและน่าละอายใจ บางทีเขาอาจจะโกหกโวลเดอมอร์เพื่อพยายามลบล้างความผิด… เพื่อป้องกันไม่ให้โวลเดอมอร์ได้เครื่องราง…”

“หรืออาจจะเพื่อไม่ให้เขาทำลายสุสานของอาจารย์ก็ได้นะครับ”

– เครื่องรางยมทูต บ.35

ทักษะและความสามารถทางเวทมนตร์

  • การแปลงร่าง (Transfiguration) เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ใช้ความสามารถในการใช้คาถาแปลงร่างขั้นสูงเพื่อปลอมตัวเองให้กลายเป็นเพอร์ซิวาล เกรฟส์ หัวหน้ามือปราบมารของมาคูซา (อ้างอิง เจ.เค.โรว์ลิ่ง)
  • การอำพรางตัว ดัมเบิลดอร์เคยบอกว่าเขาทั้งคู่มีความสามารถในการอำพรางตัวมากพอที่จะไม่ต้องใช้ผ้าคลุมล่องหน (เครื่องรางยมทูต บ.35)
  • การพยากรณ์ (Seer) มีความสามารถในการรู้เห็นเหตุการณ์อนาคต กรินเดลวัลด์พบเด็กทรงพลังผ่านความสามารถนี้ (อ้างอิง เจ.เค.โรว์ลิ่ง)
  • นักสกัดใจ (Occlumency) เพราะความสามารถในการสกัดใจนี้เองทำให้ ควีนนี่ โกลด์สตีน ซึ่งมีความสามารถในการพินิจใจไม่สามารถรับรู้ได้ว่า เพอร์ซิวาล เกรฟส์ เป็นเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ (อ้างอิง เจ.เค.โรว์ลิ่ง)

สาวกและกองทัพของกรินเดลวัลด์

  • วินดา โรซิเออร์ (Vinda Rosier) แม่มดสาวสาวกใกล้ชิดกรินเดลวัลด์
  • กันนาร์ กริมม์สัน (Gunnar Grimmson) พ่อมดผู้ติดตามครีเดนซ์และฆาตกรรมเออร์ม่า ดูการ์ดพี่เลี้ยงของเขา
  • ครีเดนซ์ แบร์โบน หรือออเรเลียส ดัมเบิลดอร์ กรินเดลวัลด์หว่านล้อมให้เขามาอยู่เคียงข้าง ด้วยการบอกข้อมูลครอบครัวแก่เขา
  • อะเบอร์นาธี อดีตหัวหน้างานของควีนนี่และทีน่าในสำนักงานอนุญาตไม้กายสิทธิ์ของมาคูซา ก่อนถูกเขาล่อลวงให้ช่วยสลับตัวกับเขาระหว่างถูกกุมขัง
  • ลีตา เลสแตรงจ์ เป็นไปได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยติดตามเขา ก่อนจะหันไปมีอิสระและใช้ชีวิตของตนเอง
  • ครอลล์ พ่อมดที่แปรพักตร์ไปให้ดัมเบิลดอร์ ที่ถูกสังหารด้วยเปลวเพลิงเวทมนตร์ภายหลังการชุมนุมผู้วิเศษที่สุสานแปร์ ลาเชส
  • คราฟต์ พ่อมดที่ช่วยเนเกิลแบกโลงศพสามีภรรยามักเกิ้ลในฝรั่งเศสเพื่อยึดบ้านของพวกเขา
  • แคร์โรว์ แม่มดหญิงที่สังหารเด็กทารกเจ้าของบ้านที่กรินเดลวัลด์ยึดอาศัยขณะอยู่ที่ฝรั่งเศส
  • เนเกิล พ่อมดที่กรินเดลวัลด์สั่งให้เขาเอาจดหมายไปให้ครีเดนซ์ที่คณะละครสัตว์ของสเกนเดอร์
  • แม็กดัฟฟ์ พ่อมดที่ร่วมมือกับอะเบอร์นาธีเอาบันทึกของตระกูลเลสแตรงจ์จากมาคูซาไปไว้ในสุสานเลสแตรงจ์
  • ควีนนี่ โกลด์สตีน เข้าร่วมกับกรินเดลวัลด์หลังเข้าฟังการชุมนุมของเขาที่สุสานแปร์ ลาเชส หลังจากที่เขาหว่านล้อมเรื่องความรัก และโอกาสที่เธอกับเจคอบจะได้รักกันอย่างเปิดเผย

เกร็ดน่ารู้

  • ในภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 ผู้ที่รับบท เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ วัยหนุ่มคือ Jamie Campbell Bower และตอนแก่โดย Michael Byrne
  • ในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ใช้เรื่องราวการเรืองอำนาจศาสตร์มืดของเขาเป็นตัวเชื่อมโยงเข้ากับโลกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ผ่านทางอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ซึ่งเราจะได้เห็นพวกเขาทั้งคู่ในภาค 2 [อ้างอิง]
  • ในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ภาค 1 และ 2 เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ รับบทโดย จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) และถูก Toby Emmerich ประธาน Warner Bros. ปลดออกจากภาพยนตร์เนื่องจากแพ้คดีการตัดสินที่เขาฟ้องร้อง The Sun ในข้อหาที่กล่าวหาว่าเขาเป็น “คนตีเมีย” จากปมประเด็นของเขากับ แอมเบอร์ เฮิร์ด ซึ่งจอห์นนี่ เดปป์แพ้คดีอย่างไม่ยุติธรรม ทั้งที่การตัดสินของศาลก็ไม่ได้ชี้ชัดว่ามีความผิดจริง แต่ “อาจจะ” กระทำได้ จนต้องออกจากบทดังกล่าวในวันที่ 6 พ.ย. 2020 [อ้างอิง]
  • ภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ รับบทโดย Mads Mikkelsen โดยยืนยันรับบทในวันที่ 25 พ.ย. 2020 [อ้างอิง] ซึ่งตัวละครถูกทำให้ต่างจากต้นฉบับในหนังสือ เนื่องจากเขามีผมสีดำแทนที่จะเป็นผมสีบลอนด์ทอง
  • ในปี 1926 เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ มีตาสองสี ตาซ้ายสีดำและตาขวาสีเทา ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดของ จอห์นนี่ เดปป์ นักแสดงผู้มองเห็นว่า เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ นั้นมีสองบุคลิกอยู่ในคนเดียว จึงนำเสนอออกมาให้ชัดเจนขึ้นผ่านดวงตาที่มีสองสี [อ้างอิง]
  • ในคลิปหนึ่งของภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ปรากฏภาพด้านหลังของชายวัยกลางคนผมสีบลอนด์ ยืนปะทะกับกลุ่มพ่อมด เขาก็คือ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์นั่นเอง
  • ในบทภาพยนตร์ อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ระบุคำว่า Acolyte ในการเรียกผู้ติดตามของกรินเดลวัลด์ ซึ่งคำไทยใกล้เคียงคือ “สาวก” เนื่องจากเดิมคำว่า Acolyte บ่งใช้ในผู้ติดตามทางศาสนา คอยดูแลรับใช้ศาสนา
grindelwald
ภาพจากตัวอย่าง https://www.youtube.com/watch?v=QgEgS5fIEwY
  • เจ.เค.โรว์ลิ่ง เปิดเผยอีกครั้งว่า ความสัมพันธ์ของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ กับอัลบัส ดัมเบิลดอร์ นั้น เป็นความสัมพันธ์ในระดับของการมีเพศสัมพันธ์ แต่จะไม่นำเสนอส่วนนี้ในภาพยนตร์ จากเดิมที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าความรักของทั้งคู่เป็นเพียงรักข้างเดียว [อ้างอิง]