โดย ผู้สื่อข่าวพอตเตอร์มอร์
วันที่ 16 สิงหาคม 2016
นิวท์กับเจคอบจะกลายเป็นเชอร์ล็อคกับวัตสันคู่ต่อไปไหม หรือว่าจะเป็นลอเรลกับฮาร์ดีกันนะ
อย่างที่คุณน่าจะทราบกันดี ในภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เอ็ดดี้ เรดเมย์น รับบท นิวท์ สคามันเดอร์ พ่อมดชาวอังกฤษผู้เอาจริงเอาจัง เจ้าของกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยสัตว์วิเศษ
ส่วนแดน ฟอกเลอร์ รับบทเป็นคนที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือรับบทเป็นโนแมจ (คนที่ไม่มีเวทมนตร์) จากย่านโลเวอร์อีสต์ไซด์ในเมืองนิวยอร์ค ชื่อเจคอบ ผู้พบกับชุมชนโลกเวทมนตร์เข้าโดยบังเอิญ เมื่อเขาเผลอเปิดกระเป๋าเดินทางของนิวท์เข้าให้
ความน่ารักชนิดจัดเต็มในภาพยนตร์มีผลมาจากเคมีที่แสนจะลงตัวกันระหว่างตัวละครหลักทั้งสี่ ซึ่งก็คือ นิวท์ เจคอบ ทีน่า (แคทเทอรีน วอเทอร์สตัน) และควีนนี่่ (อลิสัน ซูโดล) นิวท์และเจคอบมีสายสัมพันธ์ที่รักใคร่กันดี ตามที่แดน ฟอกเลอร์บอกไว้ มันเหมือนกับมีความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นเกือบจะทันทีในช่วงการออดิชั่นบท
“เอ็ดดี้และผมมีเคมีที่เข้ากันได้ดีมากแบบทันทีเลย พวกเราแสดงสดแบบที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนในบทบาทตัวละครของพวกเราในการออดิชั่นหนแรก และผมคิดว่านะ นั่นล่ะที่ช่วยให้ผมได้รับบทนี้มาจริง ๆ” แดนเป็นนักแสดงตลก ดังนั้นความสามารถที่จะเล่นอะไรที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนจึงดูจะเกิดขึ้นเองกับเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
“ผมรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่กับเอ็ดดี้นะ มันเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ ที่จะต้องมีใครสักคนที่จะเข้ากันได้ดีไปกับตัวละครของเขา เจคอบเป็นคนที่น่าคบหามากพอที่จะไปกระตุ้นนิวท์ให้เริ่มคิดได้ว่า ชีวิตนั้นมันยังมีอะไรอีกมากนอกเหนือจากฝูงสัตว์วิเศษ”
ตามที่แดนเล่า การจับคู่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวระหว่างตัวละครของเขากับของเอ็ดดี้ออกจะเด่นชัดตั้งแต่ตอนพวกเขาใส่ชุดแต่งกายของตัวละคร เอ็ดดี้ใส่กางเกงขายาวที่ออกจะสั้นอยู่หน่อยของนิวท์ กับเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินแบบสีนกยูง พร้อมทรงผมปัดข้าง และถือกระเป๋าเดินทางที่อัดแน่นไปด้วยเวทมนตร์ของเขา
ในขณะที่ฟอกเลอร์ใส่ชุดสูท 3 ตัวที่ไม่ได้เข้ากันเลย กับเสื้อกั๊กสีเทาและเนคไทสีแดง พร้อมหนวดเรียบแปล้ และผมทรงแสกกลางเรียบเป๊ะปาดเจล พวกเขาดูเป็นคู่ที่ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้ แต่ก็นั่นล่ะทุกส่วนเป็นไปตามเวทมนตร์แล้ว
“ตอนพวกเราอยู่ในชุดของตัวละคร แล้วพวกเรายืนข้างกัน มันมีความเป็นลอเรลกับฮาร์ดีจริง ๆ เกิดขึ้น ไม่ก็แอ็บบอตกับคอสเตลโล หรือแม้กระทั่งเชอร์ล็อคกับวัตสัน!* จากทัศนคติที่หลอมรวมกันไปโดยไม่รู้ตัว ผู้ชมจะรู้สึกฝังใจกับตัวละครคู่โปรดของพวกเขา แล้วก็เอามาเปรียบกับพวกเรา ซึ่งมันก็เป็นไปได้ดีจริง ๆ”
นิวท์กับเจคอบต้องคอยวิ่งหลบหลีกและวิ่งเปลี่ยนทิศทางไปมาตลอดพล็อตเรื่องของภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นและยากจะคาดเดา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไว้ซึ่งความร่าเริงระหว่างพวกเขาไว้ได้อยู่
“มันเหมือนกับดนตรีนะ” แดนพูด “เอ็ดดี้ช่วยสร้างเสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยความรู้สึก แบบที่ผ่านการฝึกฝนมาได้อย่างคลาสสิก ชวนให้เบิกบานใจ แล้วผมก็โยนดนตรีแนวบรู๊คลินแจ๊สเข้าไป และมันก็ฟังดูเพราะดี”
แดนบอกฉันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็น “โอกาสที่ไม่คาดฝันครั้งใหญ่” ของเขา มันเป็นโปรเจคต์ที่เจ๋งสุด ๆ และน่าตกตะลึงสุด ๆ ที่เขาได้ทำงานร่วมกับเอ็ดดี้ เรดเมย์น หากย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แดนออดิชั่นสำหรับบทบาทของเขา เอ็ดดี้เพิ่งชนะรางวัลอคาเดมี่อวอร์ด สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม จากการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่อง The Theory of Everything
แดนพูดอย่างรักใคร่ “ผมเป็นแฟนคลับของเขา มันดีมาก ๆ เลยที่ได้อยู่ใกล้ ๆ นักแสดงที่จะเป็นเหมือนอัศวินในวันใดวันหนึ่ง”
“มันวิเศษจริง ๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยคนที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ผมรู้สึกว่าจนถึงตอนนี้ นี่เป็นประสบการณ์ที่สร้างสรรค์ที่สุดตั้งแต่ผมเคยมีมา และเป็นงานที่ดีที่สุดที่ผมเคยได้ทำ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ภาพยนตร์มันใกล้จะออกมาแล้ว”
————————————————————————————————
* คู่หูที่ยกตัวอย่างคือ
1.ลอเรลกับฮาร์ดี (Stan Laurel and Oliver Hardy) เป็นคู่หูนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงในช่วงยุค 20 โดยลอเรลคือนักแสดงตลกคนผอม ส่วนฮาร์ดีคือนักแสดงตลกคนอ้วน
2.แอ็บบอตกับคอสเตลโล (William Bud Abbott and Lou Costello) เป็นคู่หูนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงในช่วงยุค 40 โดยแอ็บบอตคือนักแสดงคนด้านซ้ายในรูป ส่วนคอสเตลโลคือนักแสดงคนด้านขวาในรูป
3.เชอร์ล็อคกับวัตสัน (Sherlock Holmes and John Watson) เป็นคู่หูตัวละครในนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องเชอร์ล็อค โฮลมส์ ผลงานของเซอร์อาเธอร์ โคแนน ดอยล์