หลังจากที่มีข่าวว่าทาง Warner Bros. ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้กับละครเวที Harry Potter and the Cursed Child จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โต ซึ่งความจริงแล้ว Warner Bros. ก็จดทะเบียนให้กับผลงานทุกอย่างที่เป็นของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง เพื่อผลประโยชน์ในการหากำไรในอนาคตอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้น่าตื่นตกใจอะไรนัก จนกระทั่งวันนี้ ข่าวลือที่ยังไม่ได้รับการยืนยันนี้ดูจะสร้างกระแสสองด้านให้กับแฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่น้อยทีเดียว
แหล่งข่าวที่บอกว่าเป็นแหล่งข่าววงในของ Warner Bros. เปิดเผยว่าทางค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์มีแผนนำละครเวที Harry Potter and the Cursed Child หรือชื่อไทย แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป ซึ่งปัจจุบันยังคงจัดแสดงยาวจนถึงธันวาคมปี 2017 ที่ลอนดอน ณ โรงละคร Palace Theatre มาผลิตในรูปแบบภาพยนตร์ต่อจากภาพยนตร์แฟรนไชส์แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งหากข่าวลือนี้เป็นความจริงหมายความว่า เด็กต้องคำสาป จะเป็นภาคที่ 9 ต่อจากเครื่องรางยมทูต ภาค 2 เท่านั้นยังไม่พอแหล่งข่าวนี้ยังบอกอีกว่า Warner วางแผนจะทำเด็กต้องคำสาปเป็นภาพยนตร์ไตรภาคต่ออีกเรื่อง ซึ่งแอดมินมองว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะทำเป็นไตรภาค เพราะเนื้อหาในเด็กต้องคำสาปไม่ได้เยอะมากมายขนาดนั้น ถ้าทำไตรภาคมันคงจะยืดเยื้อน่าเบื่อทีเดียว
แต่ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ยังไม่ยืนยันนี้ ยังระบุเพิ่มเติมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีการวางแผนคร่าวๆ เป็นช่วงปี 2020 ซึ่งในขณะนั้นภาพยนตร์ “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (Fantastic Beasts and Where to Find Them) ภาค 3” กำลังเข้าฉายพอดี ซึ่งก็ดูแปลกๆ ไปหน่อยที่จะฉายพร้อมกันในปี 2020 หากข่าวลือนี้เชื่อถือได้ประมาณหนึ่ง (ตอนนี้ยังเชื่ออะไรไม่ได้) 2020 อาจเป็นปีที่ทาง WB ทำการแคสบทนักแสดงกลับมารับบทในเด็กต้องคำสาป
เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากที่ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ออกมาเปิดเผยว่าเขายินดีที่จะกลับไปแสดงแฮร์รี่ พอตเตอร์อีก เพราะเขาไม่เคยลืมว่าตัวเองมีทุกวันนี้ได้เพราะบทบาทของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และเขาก็รักแฮร์รี่ พอตเตอร์มากเช่นเดียวกัน และยังสนุกที่จะได้ทดลองเป็นนักแสดงในบทบาทอื่นๆ ที่หลากหลายนี้ ก็ยิ่งสร้างแรงกระเพื่อมให้กับข่าวการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าครอบคลุมถึงการนำละครเวทีมาโลดแล่นบนจอเงิน
เมื่อมีการถามถึงการกลับไปรับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับแดเนียล เขาก็ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ผมไม่ทราบครับ จริงๆ มันขึ้นอยู่กับว่าบทนั้นจะออกมาเป็นยังไง ผมไม่มีทางปิดประตูใส่มัน แต่แน่นอนผมก็จะไม่วิ่งเข้าใส่มันด้วย”
ซึ่งข่าวลือที่ยังไม่ยืนยันนี้ออกมาบอกว่า WB วางแผนให้แดเนียลกลับมารับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์ อีกครั้ง ซึ่งหากอิงตามท้องเรื่อง ในฉาก 19 ปีต่อมานั้น แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะมีอายุได้ 37 ปี ขณะที่แดเนียลของเราจะมีอายุ 31 ปีในปี 2020 ซึ่งก็ดูจะห่างไกลจากอายุแฮร์รี่ไม่มากนัก ถ้าบวกความสามารถชั้นเลิศด้านเมคอัปก็คงไม่มีปัญหาในการทำให้แดนอายุเท่าแฮร์รี่ตามท้องเรื่อง แต่ปัญหาคงจะอยู่ที่บรรดาลูกๆ ของเขาซะมากกว่า เพราะแน่นอนว่าต้องแคสนักแสดงเด็กใหม่ทั้งหมด เพื่อนำมารับบทในช่วงวัยที่แตกต่างกัน แถมนักแสดงเด็กเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะรับบท 1 ตัวละคร มากกว่า 1 นักแสดง เพราะตามเรื่องในบทละครเวทีของ เด็กต้องคำสาป นั้น ลูกๆ ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ อย่าง อัลบัส เซเวอรัส พอตเตอร์ จะเลื่อนชั้นปีไปจนถึงปีที่ 4 เลยทีเดียว ไม่ก็ต้องพึ่งการแต่งหน้าอย่างสุดความสามารถ ซึ่งงบก็ต้องมากขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่บทบาทหลักอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ รอน หรือ เฮอร์ไมโอนี่ ก็ต้องมีมากกว่า 1 นักแสดงในบทดังกล่าว เพราะเรื่องราวของเด็กต้องคำสาปตามที่หลายคนได้อ่านกันคงรู้กันดีว่ามีการบอกเล่าแบบย้อนอดีตด้วย และไม่ใช่การย้อนอดีตเล็กๆ น้อยๆ แต่บอกเล่าอย่างเป็นแกนสำคัญของเรื่องทีเดียว การที่จะให้นักแสดงอย่าง แดเนียล เอ็มม่า และรูเพิร์ตกลับมาแสดงในบทบาทเดิมอีกครั้ง คงต้องให้อายุของพวกเขาเหมาะกับตัวละครมากขึ้นกว่านี้อีกหน่อย นั่นหมายความว่าถ้าโปรเจกต์ที่จะสร้างเป็นภาพยนตร์นี้เกิดขึ้นจริงแล้วล่ะก็ คงต้องรอให้นักแสดงอายุ 37+ เสียก่อน และคงต้องทิ้งห่างจากโลกของ นิวท์ สคามันเดอร์ไปอีกสักพัก
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าข่าวลือเรื่องนี้จะเป็นจริงได้แค่ไหน แต่ที่แน่นอนได้ที่สุดตอนนี้ก็คือ เรื่องราวการผจญภัยที่ยากลำบากของแฮร์รี่ พอตเตอร์ นั้นสิ้นสุดลงในละครเวที Harry Potter and the Cursed Child หรือชื่อไทย แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามคำให้สัมภาษณ์ของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง จากงานรอบปฐมทัศน์ของละครเวทีเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา
“ไม่ค่ะ ไม่แน่นอน แฮร์รี่เผชิญอะไรเยอะมากในละครเวทีทั้งสองตอนนี้ เพราะฉะนั้น นั่นแหละ ฉันคิดว่าเราน่าจะพอได้แล้ว อย่างที่คุณรู้ นี่คือเรื่องราวของตัวละครรุ่นใหม่ และฉันคงตัวสั่นแน่ถ้าได้เห็นมันถูกถ่ายทอดอย่างงดงาม แต่ไม่ล่ะ แฮร์รี่จบลงแล้ว”
แต่เหนืออื่นใดแม้แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะมาถึงจุดสิ้นสุด เพราะทุกอย่างเฉลยและจบลงในละครเวทีอย่างชัดเจนแล้ว นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าโลกเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่ของเจ.เค.โรว์ลิ่งจะสิ้นสุดลง ยังมีเรื่องราวอีกมากมายจากโลกเวทมนตร์แห่งนี้ที่ยังไม่ได้เปิดเผย เพราะแม้แต่สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ยังกลายมาเป็นภาพยนตร์ไตรภาคได้ แล้วเล่มอื่นๆ ล่ะ? พวกเราคงได้อยู่กับโลกเวทมนตร์ของเธอไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว