เป็นประจำทุกครั้งที่งาน San Diego Comic-Con จะมาพร้อมกับตัวอย่างใหม่ๆ ของภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่ร่วมในงานนี้ Fantastic Beasts and Where to Find Them ก็เช่นกัน!
ความพิเศษของตัวอย่างใหม่ล่าสุดของภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่คือจำนวนสัตว์วิเศษที่ออกมาปรากฏโฉมมากขึ้นกว่าตัวอย่างก่อนเป็นเท่าทวี
ฉากแรกเริ่มเปิดตัวกลางซากปรักหักพังที่สัตว์วิเศษขนาดมหึมาสร้างหายนะให้ พร้อมกับเปิดตัว เพอร์ซิวาล เกรฟส์ (Percival Graves) ซึ่งรับบทโดย Colin Farrel
มือปราบมารผู้เป็นมือขวาของประธานเซราฟิน่าแห่งสภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (MACUSA หรือ สวมสอก.) สัตว์วิเศษมหึมานี้ถูกอธิบายลักษณะโดยผู้พบเห็นที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นโนแมจ เขาอธิบายว่า “มันดูเหมือนภูตผี… ดวงตาที่ลุกโชน… และมุดลงใต้ดินได้” แล้วไปผนวกกับตอนจบของตัวอย่าง คาดว่าเขาคงหมายถึงเจ้าตัวควันๆ ที่กำลังก่อร่างมหึมา เพราะ ghost น่าจะหมายถึงอะไรที่ไม่มีรูปร่างชัดเจน
แต่ก็อาจไม่ใช่ เพราะส่วนที่บอกว่าดวงตาลุกโชน (shining white eyes) ไม่ได้ปรากฏในตัวควันๆ นี้
ฉากตัดข้ามเหตุการณ์ไปที่พอร์เพนทีน่า โกลด์สตีน กำลังวิ่งอยู่ในสวมสอก.
แล้วก็ตัดมาจ๊ะเอ๋กับเอลฟ์ประจำบ้าน!!!! นั่นมันทำกำลังทำอะไรน่ะ ตรวจไม้กายสิทธิ์ของพ่อมดที่มาติดต่อที่สวมสอก.หรอ? หน้าตาดูไม่สบอารมณ์ทำให้นึกถึงครีเชอร์นิดๆ หวังว่าเราจะได้รู้จักปูมหลังของเอลฟ์ประจำบ้านมากขึ้นนะ
แล้วเจ้าเครื่องกลหมุนๆ กับปุยขาวๆ นั่นเอาไว้ทำอะไรล่ะเนี่ย ที่น่าจะมั่นใจได้คือบรรยากาศในส่วนที่เอลฟ์ประจำบ้านทำงานอยู่ คือ สภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา แล้วเครื่องนี้เอาไว้ทำอะไร? ทำความสะอาดไม้กายสิทธิ์หรอ? ทำไมพวกเขาจะต้องใช้งานเอลฟ์ประจำบ้านให้ทำความสะอาดไม้กายสิทธิ์
จุดน่าสนใจคือส่วนที่พูดถึงชุมชนหรือกลุ่มลึกลับที่ตั้งตนอย่างลับๆ มายาวนานหลายศตวรรษ น่าจะหมายถึงกลุ่มสเคาเรอร์ กลุ่มพ่อมดที่ล่าพ่อมดด้วยกันเอง (ทำความรู้จักกับกลุ่มนี้ได้ที่นี่ คลิก!)
จากการที่ทีน่าต้องเคาะกำแพงที่มีภาพวาดเคลื่อนไหวได้กั้นไว้ ดูเป็นการเข้าหากลุ่มคนที่หลบซ่อนตัวอย่างลับๆ จากกำแพงที่ปรากฏทำให้นึกถึงซีนนึงในตัวอย่างที่ 2 ซีนที่ทีน่ากับควีนนี่่พานิวท์กับเจคอบไปหาใครสักคนหลังประตูลับ
แล้วดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด! ทำไมทีน่าต้องไปหาคนพวกนี้นะ? ที่แน่ๆ เป็นพ่อมดชัวร์ป้าบ จะไม่ใช่ได้ไง ไพ่ลอยได้ขนาดนั้น 555+
แล้วฉากก็เปลี่ยนมาที่บ้านเจคอบที่กระเป๋าโดนสลับไม่พออย่างไม่รู้ตัว
มารู้ตัวอีกทีก็เพราะมันดันมีอะไรเคลื่อนไหวได้ในกระเป๋า แล้วมันก็กระโจนเข้าใส่เขาทันที! หมูน้อยผสมเม่น? เสียงร้องคล้ายลูกหมูด้วยอะ
จะเป็นสัตว์วิเศษที่ชื่อ “นาร์ล” ที่มีลักษณะคล้ายเม่น หรือเป็นลูกเทโบนะ?
และเมื่อมาถึงฉากห้องพักของสองพี่น้องโกลด์สตีน ดูเหมือนความร่าเริงของควีนนี่่จะต้องตาต้องใจโนแมจเจคอบเข้าซะแล้วล่ะ อ้อ! ชื่อเรียกกันเองเวลาควีนนี่่เรียกพี่สาวยังเรียกว่า “ทีนี่” ด้วยนะ! เรามาจิ้นคู่พระรองกันดีกว่า 55+
ตัวต่อไปไม่แน่ใจว่าตัวอะไร แต่มันเปล่งแสงได้ด้วย
เจ้าตัวนี้อาจเป็น ฮอร์นเซอร์เพนต์ หรืองูยักษ์มีเขา สัตว์วิเศษประจำโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์อิลเวอร์มอร์นี เพราะส่วนที่เปล่งแสงดูเหมือนจะเป็นเขา แต่ก็ยืนยันอะไรไม่ได้นัก
ตัวต่อไปเห็นแล้วมั่นใจได้ทันทีว่าต้องเป็นบิลลี่วิกแน่ๆ
ในหนังสือระบุว่าบิลลี่วิกมีมีสีน้ำเงินสด ปีกของบิลลี่วิกยึดติดกับส่วนบนของหัว ผู้ที่ถูกบิลลี่วิกต่อยจะมีอาการวิงเวียน แล้วตัวจะลอยได้ เตรียมลอยกันได้เลย!
ตัวอย่างที่สามนี้เฉลยให้รู้แล้วว่า ขนๆ ตรงคำว่า Writer J.K.Rowling ในตัวอย่างแรกของสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่อันนี้
มาจากสัตว์ตัวไหน มันก็คือเจ้าสัตว์ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงาตัวนี้นี่เอง
มันคือเจ้าออคคามี่ (Occamy) “สัตว์ชนิดนี้ตัวกลมป้อม มีขาสองข้าง และมีปีก ลำตัวเหมือนงู อาจยาวได้ถึงสิบห้าฟุต… ออคคามี่ดุร้ายกับทุกคนที่เข้าใกล้ โดยเฉพาะเมื่อมันปกป้องไข่ เปลือกไข่ของออคคามี่ทำมาจากเงินที่อ่อนนุ่มที่สุดและบริสุทธิ์ที่สุด” ซึ่งน่าจะหมายถึงไข่ที่เจคอบถือในตัวอย่างที่ 2 และปรากฏอีกครั้งในตัวอย่างนี้ด้วย
ดูเหมือนชีวิตของนิวท์ และทีน่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะทีเดียว เมื่อเขาถูกสภาเวทมนตร์ไล่ล่าจับกุมตัว และหันตัวไปอยู่ใต้ดิน พบปะกับกลุ่มคนที่น่าจะเรียกได้ว่า “พวกคนเถื่อน”
เข้าใจว่าทีน่ากับนิวท์อยู่ในสถานที่บันเทิงพวกร้านเหล้าของพวกก๊อบลิน สังเกตจากผู้หญิงที่เต้นรำ ผู้ชายที่สูบซิการ์ (เข้าใจว่าแสดงโดย Ron Perlman ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้) แล้วก็วงดนตรีด้านหลังที่ล้วนแล้วแต่เป็นก๊อบลิน และเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่เราเห็นก๊อบลินผู้หญิงจ๋าขนาดนี้ ^ ^ ชอบบรรยากาศเครื่องแต่งกายในยุคอู้ฟู่นี้จัง
คำพูดของเซราฟิน่าทำให้เรารับรู้ได้ทันทีว่า โลกกำลังตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงที่อาจก่อให้เกิดสงครามผู้วิเศษกับเหล่าโนแมจในอเมริกาอีกครั้ง เพราะการหลุดออกมาของสัตว์วิเศษที่นิวท์ สคามันเดอร์รวบรวมและตามหาโดยเก็บสะสมทั้งหมดไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเดียว หายนะที่บอกว่า พ่อมดกับโนแมจกำลังจะต้องต่อสู้และทำสงคราม หรืออาจต้องร่วมมือกันปกป้อง?
คำพูดที่น่าสนใจที่สุดคือ “พวกโนแมจจะทำร้ายเวลาที่รู้สึกกลัว” หมายความว่าความเป็นอยู่ของผู้วิเศษในอเมริกากลับสู่ความลำบากอีกครั้ง! ส่วนนี้อยากเน้นย้ำให้คนที่จะไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ตามหาแปลไทยของ โลกเวทมนตร์แห่งอเมริกาเหนือ อย่างสุดใจเลยครับ เพราะเนื้อหาปูปูมหลังเหล่านี้ดูจะมีความสำคัญต่อความเข้าใจเส้นเรื่องอย่างมากจริงๆ
กลับไปฟากของเหล่าโนแมจ จู่ๆ งานเลี้ยงก็เป็นอันต้องล่มเพราะเหตุไม่คาดฝัน ในเหตุการณ์นี้เราได้พบกับตัวละครอีกตัวคือ เฮนรี่ ชอว์ ผู้พ่อ (รับบทโดย Jon Voight) ซึ่งร่วมอยู่ในงานเลี้ยงฉลองให้กับลูกชายของเขากับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา
โยงเหตุการณ์ทางการเมืองแบบนี้ รับรองได้เลยว่าต้องมีการรักษาภาพลักษณ์อย่างสุดโต่ง เพื่อไม่ให้บทบาทในระหว่างการดำรงตำแหน่งมีมลทิน และพวกเขาก็ต้อง “กำจัดทุกอย่างที่เป็นอันตราย” นั่นทำไปสู่การชุมนุมล่าแม่มดครั้งที่ 2 หรือสมาคมการกุศลเพื่อสังคมเซเล็มใหม่ (New Salem Philanthropic Society) ในอเมริกา กลุ่มของเฮนรี่่ ชอว์ ตั้งใจที่จะกวาดล้างแม่มด และคงชูประเด็นนี้เป็นนโยบายหลักของพรรค! อ้างอิงจากคลิปที่เคยถ่ายทำที่ลิเวอร์พูล
https://www.youtube.com/watch?v=4ie53CdXnsQ
ซึ่งเจ้าตัวที่มาถล่มงานนี้ คาดว่าจะเป็นตัวควันๆ ที่มีแนวโน้มจะเป็นสัตว์วิเศษหลักของภาคแรก
ในภาพนี้คงเป็นแผนที่ของนิวยอร์กซิตี้ เพราะสังเกตจากคำว่า BRONX ซึ่งเป็นเขตเมืองเล็กๆ ที่ปกครองตนเองในนิวยอร์ก
ส่วนฉากนี้ก็คงเป็นฉากที่นิวท์กับเจคอบพยายามจะจับเจ้าสัตว์ที่เปล่งแสงสีทองใต้แผ่นน้ำแข็งก่อนหน้านี้ เพราะอยู่ในบรรยากาศและสถานที่ที่คล้ายกันมาก
ต่อด้วยฉากที่ผู้คนยืนมุงกัน แล้วมีกลุ่มคนในชุดคลุมยาว เดาว่าเป็นมือปราบมารจากสวมสอก. (แหงล่ะ ถือไม้กายสิทธิ์ แถมยูนิฟอร์มเดียวกันอีก) แล้วจู่ๆ ทันเดอร์เบิร์ด สัตว์วิเศษประจำถิ่นอเมริกาก็ปรากฏกายขึ้นจากผิวน้ำที่ขังอยู่บนผิวถนน แถมนกวิเศษตัวนี้ยังเป็นสัตว์ประจำบ้านของโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์อิลเวอร์มอร์นีอีกด้วย!
และจากเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนพ่อมดและโนแมจจะร่วมมือกันรึเปล่า? ดูเหมือนพ่อมดออกตัวปกป้องชาวเมืองโนแมจในอเมริกาชัดเจนมาก ไม่แน่สุดท้ายสวมสอก. อาจต้องตัดสินใจที่จะไม่จับกุมนิวท์ และขอให้เขาบอกวิธีจัดการสัตว์วิเศษพวกนี้ โดยที่เขาจะไม่ต้องโทษก็เป็นได้ (เพ้อไปเรื่อยครับ 55)
ฉากต่อมาค่อนข้างเดายากว่าเป็นฉากที่ไหน และเกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่น่าจะมั่นใจได้ที่สุดคงเป็นสถานที่ทางเวทมนตร์ เพราะแม่มดที่สลบอยู่ด้านซ้ายมือเรามีไม้กายสิทธิ์อยู่ในมือ
น่าจะเป็นการลักพาตัวทีน่าออกจากที่คุมขัง และเช่นเคย เราก็ยังไม่รู้ว่าเจ้า สวูปิงอีวิล (Swooping Evil) มีความสามารถอะไรบ้าง แล้วน้ำดำๆ นั่นทำอะไร ทีน่ายืนอยู่บนอะไร
แล้วฉากก็พาไปช่วงคริสต์มาส (สังเกตจากการประดับเสาและกล่องของขวัญ) กับการเปิดตัวสัตว์วิเศษอีกชนิด เจ้าเดมิไกส์ (Demiguise)
“สัตว์ชนิดนี้หายตัวได้เมื่อถูกคุกคาม… เดมิไกส์เป็นสัตว์กินพืชที่รักสงบ รูปร่างคล้ายลิงใหญ่ไม่มีหางที่สงบเสงี่ยม มันมีดวงตาแสนเศร้าสีดำใหญ่… ร่างกายทั้งหมดปกคลุมด้วยขนยาวสีเงินสวยเป็นเงางามเหมือนไหม ขนของเดมิไกส์มีค่ามากเพราะอาจใช้ทอเป็นผ้าคลุมล่องหนได้”
ว่าแต่ในมือมันถือกระเป๋าของใครน่ะ? ขโมยกระเป๋ามนุษย์มาหรอ? ของควีนนี่่หรอ?
ปิดท้ายด้วยฉากของนิวท์และเจคอบที่ปรบมือให้กับอะไรบ้างอย่างที่อยู่ตรงหน้า อาจจะเป็นมูนคาล์ฟ เพราะกล่องด้านซ้ายมีคำว่า “Mooncalf Pellets” น่าจะหมายถึงขี้มูนคาล์ฟที่ทำให้สมุนไพรและต้นไม้วิเศษเติบโตอย่างรวดเร็ว
แต่เอ… มูนคาล์ฟจะออกจากโพรงเฉพาะพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้นนี่นา แล้วในฉากก็ดูเป็นฉากพระอาทิตย์ตกมากกว่า
เรียกว่าไม่มีอะไรน่ากังวลสำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ 555+
“ปรบมือซิครับรออะไร”
แล้วไปพบกับโลกเวทมนตร์ปี 1926 ได้ในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (Fantastic Beasts and Where to Find Them) 17 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ ในรูปแบบ 3D และ IMAX
