จินนี่ พอตเตอร์ นักข่าวควิดดิชประจำเดลี่พรอเฟ็ต รายงานจากทะเลทรายปาตาโกเนีย
บราซิล 420 – สหรัฐอเมริกา 310
ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น ณ ปาตาโกเนีย 2 ทีมที่เหนื่อยอ่อนแต่ยังมุ่งมั่นดูเหมือนจะมีสมาธิจดจ่อและเคารพกฎกติกามากขึ้น หลังจากค่ำคืนการเล่นที่แสนเหนื่อยหนักหฤโหด พอมาถึงจุดนี้พวกเราก็ได้เห็นถึงเหตุผลที่ทั้ง 2 ทีมทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ การเล่นกับลูกควัฟเฟิลที่ทรงพลังน่าตื่นเต้นระหว่างเชสเซอร์ทั้งสามของทั้งสองทีมทำเอาเกมพลิกไปมาได้ตลอดแมตช์ แต่คีปเปอร์บราซิล ราอูล อัลเมด้า (Raul Almeida) นั้นสร้างความแตกต่างที่สำคัญด้วยการป้องกันการจู่โจมทำประตูของฝ่ายอเมริกันได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ดาเรียส สแมกแฮมเมอร์ (Darius Smackhammer) สังเกตเห็นลูกสนิชในชั่วโมงที่ 20 ของเกม แต่ทว่าลูกบลัดเจอร์คู่ที่ตีมาได้อย่างแม่นยำจากบีตเตอร์บราซิล ซานโทส (Santos) และโคลโดอัลโด (Clodoaldo) ก็ทำเอาสแมกแฮมเมอร์เสียหลักออกนอกทาง ฝูงชนถึงกับลุกขึ้นรวมเป็นหนึ่งลุ้นตัวโก่งเมื่อสแมกแฮมเมอร์และซีกเกอร์บราซิล ซิลวา (Silva) บินแข่งตีคู่กันเข้าขั้นลื่นไถลจนสุดด้ามปลายไม้กวาดของพวกเขา ในขณะที่ทั้งคู่บินหมุนตีโค้งมุ่งสู่พื้น มันออกจะดูยากในช่วงแรกว่าใครเป็นผู้กำชัยชนะ – การบินพุ่งตัวที่รวดเร็วรุนแรงของซิลวาไปที่บอร์ดคะแนนออกจะเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ก็แสดงความดีใจในชัยชนะจนเลยเถิด – แต่กลับพลิกผันชัดเจนว่าทีมบราซิลเป็นฝ่ายชนะ
มหากาพย์รอบรองชนะเลิศจบลงในรูปแบบชวนเร้าใจ บราซิลจะพบกับทีมญี่ปุ่นไม่ก็ทีมบัลแกเรียในรอบชิงชนะเลิศ ในขณะที่ทีมสหรัฐอเมริกาจะได้เล่นกับทีมที่แพ้ของคู่ถัดไปเพื่อตัดสินอันดับที่สาม