ศาสตราจารย์เซเวอรัส สเนป (เซฟ) เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ.1960 เสียชีวิตในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ.1998 ด้วยวัยเพียง 38 ปี เซเวอรัส สเนป เป็นพ่อมดเลือดผสม พ่อเป็นมักเกิ้ล และแม่เป็นแม่มด เซเวอรัส สเนป อาศัยอยู่ในเขต “สุดตรอกช่างปั่นฝ้ายริมแม่น้ำ” (เขตเมืองมักเกิ้ล และเป็นที่ซึ่งผู้อาศัยในถิ่นนั้นไม่น่าคบหาเอาเสียเลย ในความเห็นของเพ็ตทูเนีย) มีความเป็นไปได้มากทีเดียว ที่นิสัยไม่ดีหลายอย่างของสเนปได้มาจากการเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อม ครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อยครั้ง
เซเวอรัส สเนป ถือเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่แสดงความคิด และมุมมองของคนเราได้เป็นอย่างดี เขาเป็นตัวละครที่สะท้อนความจริงที่ว่า “ไม่ใช่ทุกคนในสลิธีรินที่เป็นคนเลว” หรือ “คนเลวก็กลับใจได้” คนส่วนใหญ่มอง และตัดสินจากเปลือกนอกมากกว่าพิจารณากันจริงๆ เพราะเมื่อให้คำตอบสิ่งใดลงไปแล้ว สิ่งนั้นจะเป็นความจริงสำหรับพวกเขาทันที
ในวันแรกที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ศาสตราจารย์ผู้มีจมูกงุ้มเป็นตะขอ และมีผิวซีดเซียวแบบคนป่วย ทำให้เขารู้สึกว่าครูผู้นั้นไม่ชอบเขาเอาเสียเลย (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ น.154) เรารู้ว่าสเนปส่งสายตาความเกลียดชังให้แฮร์รี่ ในครั้งแรกที่พบกัน กระทั่งชั่วโมงเรียนปรุงยา สิ่งที่สเนปทำกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นเครื่องยืนยันอย่างแรงกล้าว่า “สเนปเกลียดแฮร์รี่” เกลียดที่เขาเป็นเหมือนพ่อเขา เกลียดภาพที่แฮร์รี่แสดงออกมา นั่นคือการแสดงออกของเซเวอรัส สเนปต่อสิ่งที่เขาเกลียดและชิงชัง
“หน้าตาน่ะใช่ แต่จิตใจที่ลึกลงไปนี่สิ เหมือนแม่มากกว่า” ดัมเบิลดอร์กล่าวถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์
ทันทีที่แฮร์รี่ทราบจากทรีลอว์นีย์ว่า ในวันสัมภาษณ์งานของเธอ สเนปจอมสอดรู้แอบได้ยินคำพยากรณ์ครึ่งหนึ่งด้วย เขาก็ดุดัน และไม่พอใจดัมเบิลดอร์อย่างมากที่ปล่อยและเชื่อใจเซเวอรัส สเนป คนที่เอาคำพยากรณ์นั้นไปบอกแก่จอมมาร และทำให้พ่อแม่ของเขาต้องตาย แต่ดัมเบิลดอร์ก็ชี้แจงเหตุผลที่ถูกต้อง (นอกเหนือสายตาของแฮร์รี่) ว่า สเนป ซึ่งในขณะนั้นยังภักดีต่อโวลเดอมอร์ ไม่รู้ว่าโวลเดอมอร์ปักใจ และเลือกผู้ที่อยู่ในคำพยากรณ์เป็นครอบครัวพอตเตอร์ สเนปไม่รู้ถึงความคิดนี้เลย และจากเหตุการณ์นี้ ทำให้สเนปต้องเสียใจครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา และเป็นสาเหตุให้เขากลับมาอยู่ฝ่ายดี สเนปคิดเสมอว่า เขาเป็นต้นเหตุให้ ลิลี่ คนที่เขารักมาตลอดต้องตาย นั่นคือความเจ็บปวดที่รุนแรง ดัมเบิลดอร์เห็นถึงความดีนั้นในจิตใจของสเนป แต่แฮร์รี่ให้คำตอบและตัดสินเอาเองว่า “คนที่สเนปเกลียดมักจะจบลงด้วยการตาย” (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม น.573) ช่างเป็นการตัดสินที่ร้ายกาจมากทีเดียว แต่สเนปก็ไม่เคยลงมือฆ่าพวกเขา และผมเชื่อมั่นว่า สเนปเองก็ไม่คิดจะฆ่าใครเช่นกัน
ใครๆ รู้ดีว่า ดัมเบิลดอร์ นั้นให้ความสำคัญและเชื่อมั่นเสมอว่าคนทุกคนล้วนมีส่วนดีอยู่ และนอกเหนือจากการรับรู้ส่วนดีนั้น ดัมเบิลดอร์ยังรู้อีกว่าจะใช้ส่วนดีนั้นทำให้พวกเขาเป็นคนดีต่อไปได้อย่างไร ส่วนดีของสเนปก็คือความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อลิลี่ สเนปไม่เพียงแต่จะภักดีในดัมเบิลดอร์ แต่เขายังให้ความศรัทธา และอาจถึงขั้นบูชาพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อีกด้วย อะไรที่บ่งบอกถึงความศรัทธาและภักดีอย่างนั้นหรือ? ก็รหัสผ่านห้องทำงานอาจารย์ใหญ่ ที่สเนปตั้งรหัสผ่านว่า “ดัมเบิลดอร์” นั่นอย่างไร
เราจะเห็นได้ว่า ทันทีที่สเนปลงมือสังหารดัมเบิลดอร์ด้วยคำสาปพิฆาต และด้วยความไม่ชอบใจและชิงชังกันแต่ต้น ทำให้แฮร์รี่ พอตเตอร์ และคนอื่นๆ ปักใจเชื่อว่าสเนปเป็นคนเลวในทันที ใครที่เจอแบบนั้นก็ต้องปักใจเชื่อภาพที่เห็น เพราะมันคือการแสดงออกที่ชัดเจน แต่เมื่อหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ อวสานลง ทุกคนก็รู้ว่าสเนปเป็นยิ่งกว่าผู้ปิดทองหลังพระ สเนปทำทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ เพียงเพราะเขารักลิลี่ แม้สเนปจะปักใจเกลียดแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะภาพลักษณ์ของแฮร์รี่นั้น สะท้อนภาพของ เจมส์ พอตเตอร์ คู่อาฆาตของเขาออกมา และเพราะสเนปเป็นคนอย่างนั้นเอง เขาจึงได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบเจมส์ที่มีในตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์ (มีคนในสังคมไม่มากที่แสดงออกต่อสิ่งไม่ชอบ ด้วยการบอกว่าไม่ชอบ แต่แสดงออกตามปกติ แล้วเก็บความไม่ชอบนั้นไว้ในใจ)
เซเวอรัส สเนป เป็นคนที่ชิงชังสิ่งใดแล้ว จะแสดงออกอย่างชัดเจน ไม่เสแสร้งแกล้งทำ อาจเพราะความไม่เสแสร้งนี้เองที่ทำให้ ลิลี่ เลือกคบหากับสเนป และอยู่เคียงข้างสเนปในฐานะเพื่อนเสมอมา
ปมเหตุให้สเนปและเจมส์ไม่ถูกกัน? น่าจะอยู่ที่ความคิดเห็นและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน เจมส์อยากเป็นเหมือนพ่อของเขา เด็กชายผู้กล้าหาญจากบ้านกริฟฟินดอร์ การเลี้ยงดูของครอบครัวพอตเตอร์ ที่เลี้ยงดูเจมส์นั้น ทำให้เขาหยิ่งยโส ดูถูกคนอื่น โดยเฉพาะกับใครก็ตามที่ท้าทายเขา หรือแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางที่แตกต่าง สเนปอาจเป็นคนแรกๆ ที่ถูกเจมส์ล้อเลียน เพราะสเนปแสดงอาการดูถูกความคิดเห็นของเจมส์ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอกัน (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.616) สเนปรังเกียจการแสดงออกของ เจมส์ ที่ว่าตัวเองนั้นวิเศษวิโสกว่าคนอื่น (เพราะลึกๆ แล้วเขาก็ปรารถนาที่จะได้รับการยกย่องเช่นนั้นบ้าง) โชคไม่ดีที่ลิลี่รังเกียจศาสตร์มืด ขณะที่สเนป ชื่นชมและบูชาในศาสตร์มืด สังเกตได้จากพฤติกรรมและเพื่อนที่สเนปคบค้าด้วย
สิ่งหนึ่งที่เจมส์และเซฟ มีเหมือนกันก็คือ ทั้งสองติดนิสัยดูถูกคนที่ต่ำต้อยกว่า สังเกตได้จากการที่เจมส์ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า หรือสเนปที่เรียกเพ็ตทูเนียด้วยน้ำเสียงบอกความชิงชังเด่นชัดว่า “มักเกิ้ล!”
ถ้าใครที่คิดว่าสเนปนั้นดีเลิศเลอ ก็คงไม่ถูก เขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนจากบ้านเดียวกันที่หลงใหลในสายเลือดบริสุทธิ์ (ทั้งที่บางคนก็เป็นพวกเลือดผสม) สเนปเป็นหนึ่งในนั้น เขาเรียกทุกคนที่เกิดจากมักเกิ้ลว่า “เลือดสีโคลน” แม้แต่กับลิลี่เอง สเนปก็เคยหลุดปากด่าว่าเธอว่า “เลือดสีโคลน” (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.620) และจากเหตุการณ์นั้นเอง คำว่า “เลือดสีโคลน” ก็ไม่เคยหลุดออกมาจากปากของสเนปอีกเลย และกลายเป็นคำต้องห้ามก็ว่าได้ (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต น.633)
“ถ้าเขามีความหมายมากสำหรับเธอ ลอร์ดโวลเดอมอร์ก็น่าจะยกเว้นเขาไว้สักคนสิ เธอไม่ลองขอความเมตตาให้แม่ล่ะ เพื่อแลกเปลี่ยนกับลูกชาย”
“ผมทำแล้ว — ผมขอท่านแล้ว — “
“ฉันขยะแขยงเธอจริงๆ” ดัมเบิลดอร์พูด “ถ้าเช่นนั้นเธอไม่แยแสเลยใช่ไหมถ้าสามีและลูกของเขาจะต้องตาย ทุกคนตายได้ ตราบเท่าที่เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ”
แม้ความพยายามและร้องขอให้ดัมเบิลดอร์ช่วยซ่อนครอบครัวพอตเตอร์ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะความไว้ใจคนผิดของ เจมส์ พอตเตอร์ แท้ๆ ที่ไว้ใจหางหนอน จนทำให้ครอบครัวต้องเสียชีวิต แต่เรากล่าวโทษเขาไม่ได้ในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับสเนป ที่ไว้ใจคนผิด สเนปคิดว่าโวลเดอมอร์อาจช่วยเขาได้ แต่ไม่เลย นี่เองเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ เจ.เค.โรว์ลิ่ง เคยพูดในระหว่างการสัมภาษณ์ว่า ถ้าเธอพบกับสเนป เธอก็อยากตบหน้าเขาสักฉาด! ชายที่มองเห็นแต่สิ่งที่ต้องการ โดยไม่แยแสหรือสนใจว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร
“ผมอยาก… ผมอยากให้ผมตายเสียเอง…”
“ถ้าเธอรักลิลี่ เอฟเวนส์ ถ้าเธอรักเขาจริงๆ ถ้าเช่นนั้น หนทางข้างหน้าของเธอก็ชัดเจน — เธอรู้ว่าเขาตายอย่างไร และเหตุผลใด จงอย่าให้เขาตายเปล่าสิ มาช่วยฉันคุ้มครองลูกของลิลี่”
ดัมเบิลดอร์บอกถึงนิสัยของสเนปไว้อย่างชัดเจน สเนปก็เหมือนคนทั่วไป ที่เลือกเห็นเฉพาะสิ่งที่ตนเองอยากเห็น สเนปมองเห็นแต่ความหยิ่งจองหอง การจงใจแหกกฎ และสิ่งต่างๆ ที่เหมือนเจมส์ สเนปมองเห็นแต่ภาพของเจมส์ในตัวแฮร์รี่ แม้การแสดงออกของสเนปเป็นการจงใจเลือกเกลียด แต่มันก็เป็นภาพที่สเนปจงใจเห็น (จากจิตใต้สำนึก) คนเราเมื่อให้คำตอบกับสิ่งใดไปแล้ว ก็จะมองเห็นแต่คำตอบนั้น ไม่เห็นคำตอบอื่นนั่นเอง เป็นมุมมองที่มืดบอด เป็นการปิดกั้นและไม่รับเอาความจริงอีกด้านที่อยู่นอกขอบเขตของสายตาตนเอง
แต่กระนั้น สเนป ก็มีเรื่องน่ายกย่อง นอกเหนือจากความรัก ความจริงใจ ก็คือความกล้าหาญ สเนปกล้าที่จะเผชิญหน้ากับจอมมาร ไม่หลบหนีในเวลาที่จอมมารหวนคืนอำนาจ ทั้งยังกล้าหาญที่จะยืนหยัดเพื่อความดี สายลับผู้เชี่ยวชาญในการแสดงละครคนนี้ เป็นผู้กล้าหาญน่ายกย่องอย่างมากในเรื่องนี้ เขาตระหนักรู้ดีว่าอำนาจของจอมมารนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด แต่กระนั้นก็ยืนหยัดปกป้องแฮร์รี่ และความดีงามนั้นอย่างลับๆ นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ลูกชายของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับการตั้งชื่อตามสเนป คือ อัลบัส เซเวอรัส พอตเตอร์ เพราะเขาไม่ได้เป็นแค่อาจารย์ใหญ่ธรรมดา แต่ทำหน้าที่ปกป้องนักเรียนได้อย่างดีเยี่ยม (ตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์ก่อนตาย) แม้จะไม่ใช่ผลงานทั้งหมดของเขา แต่เขาก็คือฟันเฟืองสำคัญ!
เหตุการณ์ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ คงพลิกผันไปหมด หากสเนปไม่มาหาดัมเบิลดอร์ และร้องขอให้ดัมเบิลดอร์ช่วยเหลือ ทุกอย่างคงจะแย่ยิ่งกว่านี้หากคนเลวทุกคน ไม่มีใครเข้ามาโอบอุ้มและช่วยเหลือเขา
ความรักของสเนปที่มอบให้แก่ลิลี่ นั้นมีพลังและความหมายอย่างมาก สังเกตได้จากผู้พิทักษ์ของสเนป ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สื่อถึง ลิลี่ เอฟเวนส์ ผู้พิทักษ์นั้นเกิดขึ้นจากความรู้สึกเป็นสุข หรือสิ่งที่เป็นพลังในเชิงบวก ความรักเป็นสิ่งที่มีพลานุภาพ สเนปคงเสกคาถาผู้พิทักษ์เป็นรูปกวางสาวไม่ได้ ถ้าหัวใจของเขาไม่ได้รัก ลิลี่ พอตเตอร์ จริงๆ และเพราะสเนปเป็นแบบนี้เอง เขาจึงได้รับความไว้วางใจ และได้รับมิตรภาพจาก ลิลี่ พอตเตอร์ หญิงที่เซเวอรัส หลงรักมาตั้งแต่วัยเด็ก เธอเป็นสิ่งมีค่าสำหรับเขา และเพราะความมีค่าในตัวของลิลี่ ที่มีต่อสเนปนี่เอง ทำให้เขายอมปกป้องแฮร์รี่ พอตเตอร์ จนถึงวาระสุดท้าย
สเนปไม่ใช่คนดีที่สุด หรือเลวที่สุด เขาเป็นคนธรรมดา ที่สามารถเลือกได้เอง และเลือกได้ดีเสียด้วย ขอบคุณ เซเวอรัส สเนป