เดิมที Warner Bros คิดว่าจะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเกาะติดชีวิตของนิวท์ ที่เดินทางศึกษาสัตว์วิเศษชนิดต่าง ๆ แล้วกลับมาเขียนหนังสือ
แต่ J.K. Rowling เปลี่ยนทิศทางของมันอย่างสิ้นเชิง!
ในภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 8 ภาค J.K. Rowling ได้มีส่วนให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับบทและฉากต่าง ๆ แต่ใน “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” เธอได้เขียนบทภาพยนตร์อย่างเต็มตัว และข้อความที่คุณจะได้อ่านต่อจากนี้คือโครงเรื่องย่อๆ ของภาคแรก ถ้าคุณอยากชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่ต้องการรับรู้ข้อมูลใดๆ เพราะกลัวเสียอรรถรสล่ะก็ ปิดบทความนี้ แล้วร่ายคาถาลบความทรงจำไปซะเลย เดี๋ยวนี้!!!
จะเล่าละนะ!
ไม่อยากเสียอรรถรส ฉันเตือนให้ปิดละนะ!
นิวท์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิเศษวิทยาผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร (รับบทโดย เอดดี เรดเมย์น Eddie Redmayne นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์) เดินทางมานิวยอร์กด้วยเหตุผลบางประการ (ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ ภายใต้การปฏิญาณไม่คืนคำที่ทำไว้กับ เจ.เค.โรว์ลิ่ง) พร้อมกับกระเป๋าหนังคู่ใจของเขา กระเป๋านี้ไม่ใช่กระเป๋าธรรมดา แต่เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เสกคาถาขยายพื้นที่ให้ใหญ่โต … มโหฬาร … กว้างขวาง … บานตะไท สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าสัตว์วิเศษที่หายากและแสนอันตรายที่นิวท์เก็บรวบรวมระหว่างการเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก นิวท์ต้องพบกับความหวั่นวิตกในชุมชนผู้วิเศษชาวอเมริกัน ที่ต้องพากันซ่อนตัวจากเหล่ามักเกิ้ล (ซึ่งในอเมริกาเรียกว่า No-Maj หรือพวก “โนแมจ”) ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นร้ายแรงยิ่งกว่าที่เคยเกิดในอังกฤษเสียอีก (จำการพิจารณาคดีแม่มดแห่งเซเล็มได้ไหม?) เรื่องราวของภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพ่อมดอังกฤษผู้มีทักษะเฉพาะตัวผู้นี้ต้องเผชิญกับสังคมอเมริกาที่กำลังหวาดกลัวเวทมนตร์ แล้วปรากฏว่ามีสัตว์วิเศษบางสายพันธุ์ … ซึ่งบางตัวก็ค่อนข้างอันตราย … หลุดออกมาจากกระเป๋าของเขา
ใครที่ไม่รู้จักว่า การพิจารณาคดีแม่มดแห่งเซเล็ม คืออะไร แอดมินจะเล่าย่อๆ ให้ฟังนะครับ… หมู่บ้านเซเล็มตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ของสหรัฐอเมริกา เป็นหมู่บ้านที่มีการล่าแม่มดรุนแรงมากในช่วงปี 1692 ถึง 1693 เพราะเด็กผู้หญิงและหญิงสาวในหมู่บ้านเกิดอาการประหลาด คนในหมู่บ้านเชื่อว่าเป็นอำนาจมนตร์ดำ เป็นฝีมือแม่มดชั่วร้ายที่แฝงตัวอยู่กับคนในหมู่บ้าน พวกไร้เวทจะมองหาใครก็ตามที่สงสัยว่าเป็นแม่มด แล้วเอามาทดสอบด้วยวิธีต่างๆ มีการตั้งศาลพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดีว่าใครเป็นแม่มด โดยตรวจสอบจากสิ่งอ้างอิง เครื่องหมายบ่งชี้การเป็นแม่มด แล้วก็การพิสูจน์ว่าเป็นแม่มดหรือไม่ ตั้งแต่เฆี่ยนประจาน จับถ่วงน้ำ เอาเข็มตอก และอีกหลายวิธี มีคนตายไปมาก หลายคนโดนทรมานจนเกินจะรับไหวจึงสารภาพว่าตัวเองเป็นพ่อมดแม่มดจริงๆ เพื่อจะได้พ้นจากทรมานด้วยการจับไปแขวนคอ! ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการจับแพะมากกว่าจะจับได้แม่มดจริงๆ มีรายหนึ่งถูกลงโทษด้วยการใช้หินทับร่างจนตาย ขณะที่บางส่วนเสียชีวิตระหว่างรอตัดสินโทษ